“อนุทิน”เดือด จวก “คนกระจอก-หน้าตัวเมีย” ขู่ฆ่า 2 นักวิชาการต้าน 3 สารพิษ ท้าแน่จริงเปิดหน้ามา ย้ำฝ่ายนโยบายชัดเจนหมดแล้ว ทั้ง “สุริยะ-เฉลิมชัย” ก็ไม่เอาด้วย เหลือแต่ฝ่ายปฏิบัติ 29 คนยังมีปัญหา ต้องให้นายกฯ จัดการ แต่รับมีขั้นตอนต้องทำก่อน ด้าน “มนัญญา” สุ่มตรวจโกดัง 2 บริษัทพบพิรุธเพียบ “686 องค์กร” จี้ “เฉลิมชัย” แสดงจุดยืนให้ชัด "หมอธีระวัฒน์" เผยคนต้านสารเคมีถูกข่มขู่ทุกคน ชื่นชม "อนุทิน" ช่วยให้กำลังใจ ห่วงติดปัญหา รมว.เกษตรฯ ย้ำต้องทำทุกทางไม่ให้ต่ออายุการใช้สารพิษ
วานนี้ (3 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีแพทย์ และนักวิชาการ รวม 2 คน ซึ่งอยู่ในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ถูกขู่ฆ่าจากการรณรงค์ต่อต้านการใช้สารเคมีร้ายแรง 3 ตัว คือ พาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส ว่า เรื่องคงไม่บานปลาย เพราะมั่นใจว่าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักวิชาการ คงต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ขอให้มั่นใจว่า หากทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีทางที่จะทำอะไรได้
“ไม่มีใครทำอะไรได้ คนที่ไปขู่ถือว่าเป็นหน้าตัวเมีย กระจอก แน่จริงมานี่ มาคุยตรงนี้ เปิดเผย อย่าหลบ ไปขู่นักวิชาการมันจะได้อะไรขึ้นมา มาขู่ มนัญญา (น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสกรณ์) มาขู่ผมนี่ หรือแน่จริงก็ไปขู่พี่ชายมนัญญา (นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย) สิ คิดว่าถ้าทำนักวิชาการแล้วปัญหามันจะจบหรือ ก็ได้แต่ขู่ คนกระจอกเขาทำแบบนี้” นายอนุทิน กล่าว
ยันฝ่ายนโยบายต้าน3สารพิษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ารัฐบาลมีความชัดเจนในการคัดค้าน 3 สารพิษ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ขณะเดียวกัน ตนสอบถาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็บอกตนว่า เขาไม่เอาสารดังกล่าว ทุกอย่างจึงชัดเจนแล้ว ในเมื่อนโยบายเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าฝ่ายปฏิบัติอีก 29 คนยังสวนนโยบายเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีก็ต้องมาแก้ไข ซึ่งตนเชื่อมั่นว่านายกฯจะยืนข้างสุขภาพที่ดีของประชาชนและเกษตรกร
“ผมและคุณมนัญญา ชัดเจนว่าเราเลือกสุขภาพของประชาชน ได้เงินได้กำไรมา แต่ประชาชนไม่มีสุขภาพที่ดีแล้วจะมีประโยชน์อะไร ใครจะแลกก็แลก แต่ผมไม่แลกด้วย”
เมื่อถามว่าจุดยืนของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยชัดเจนว่า ให้ยกเลิกสารเคมีดังกล่าว แล้วได้พูดคุยกับรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลในกระทรวงเกษตรฯแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนให้นโยบายแก่ น.ส.มนัญญา ซึ่งเขาสู้เต็มที่ ขณะเดียวกัน ตนเห็น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ข่าวแล้วว่า เขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่นายเฉลิมชัยมีกระบวนการดำเนินการที่ต้องทำ
เมื่อถามถึงการหาสารอื่นมาใช้ทดแทนสารเคมีทั้ง3ชนิดดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า น.ส.มนัญญา แจ้งว่าหาสารทดแทนได้แล้ว ซึ่งเขาคงนำไปรายงานนายกฯทราบแล้ว ทั้งนี้ตนได้บอก น.ส.มนัญญาว่าแม้สารตัวใหม่นี้จะมีราคาสูงขึ้น เราก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือชดเชยตรงนี้ให้เกษตรกร เพราะสิ่งที่สำคัญคือสุขภาพของประชาชนดีขึ้น
“เสี่ยท๊อป” เอาด้วยยี้ 3 สารพิษ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้ 3 สารเคมีทางการเกษตรว่า อะไรที่เป็นโทษให้กับเกษตรกร ควรจะเยียวยาและแก้ไขปัญหา โดยเชื่อว่า การกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข จะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ แต่หากพบว่า มีสารเคมีดังกล่าวตกค้างบนพื้นดิน ก็จะเป็นเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับรายงานว่าสารดังกล่าวตกค้างบนพื้นดิน ส่วนการประกาศยกเลิกใช้สารเคมีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่นอกเหนือความรับผิดชอบของกระทรวง เพราะเป็นหน้าที่ของกระทรวงกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงสาธารณสุขมากกว่า
ตรวจสต๊อกสารพิษพบพิรุธอื้อ
วันเดียวกัน น.ส.มนัญญา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ ประธานคณะที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2 แห่งที่เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน โดยได้ตั้งข้อสังเกตไปในหลายเรื่อง อาทิ การไม่มีตัวเลขแจ้งการนำเข้าและเมื่อขอตรวจสต๊อกสินค้าพบว่า มีสารพาราควอตอยู่จำนวนมาก โดยอ้างว่า เป็นการซื้อมาจากบริษัทอื่น โดยบริษัทมีสินค้ากลับไม่ดำเนินการเป็นผู้ส่งออก ขณะที่อีกบริษัทหนึ่งไม่มีสินค้า แต่เป็นผู้ดำเนินการส่งออก ข้อมูลต่างๆ ที่ได้เหล่านี้ จะต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่า ทั้งบริษัทและหน่วยงานที่อนุญาต คือกรมวิชาการเกษตรดำเนินการตามระเบียบ ตามกฎหมายหรือไม่
เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ระบุว่าอยากให้มีการยกเลิก แต่ไม่ได้ชี้ชัดถึงระยะเวลา ว่าจะยกเลิกให้ได้ภายในสิ้นปี 62 เพราะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายว่า น.ส.มนัญญา กล่าวว่า รัฐมนตรีฯ ก็ตอบแบบผู้ใหญ่ ที่คิดแบบรอบด้าน สำหรับตนเองที่มีหน้าที่กำกับดูแลหน่วยงานที่รับผิดชอบ เรื่องนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ให้บรรลุเป้าหมายภายในสิ้นปี 2562 ตามที่ได้ประกาศไว้ แต่การจะไปให้ถึงตรงนั้น ข้อมูลต้องพร้อมครบถ้วนทุกด้านด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ วันที่ 7 ต.ค. จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมถึงข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการทั้ง 4 ฝ่าย
686 องค์กรจี้ “เฉลิมชัย” แสดงจุดยืน
อีกด้าน นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 686 องค์กร กล่าวว่า ได้รับทราบการให้สัมภาษณ์ของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.62 ระบุว่า "กรณีสารพิษ 3 ตัว ผมเองยืนยันโดยเบื้องต้นได้เลยว่า ผมไม่สนับสนุนให้มีการใช้สารนี้" ดังนั้น หาก นายเฉลิมชัย ทั้งในฐานะ รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนับสนุนการใช้สารเคมีทางการเกษตรอันตรายจริง ขอให้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อลดความสับสนและการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ที่รอเห็นการยกเลิกสารพิษร้ายแรง ได้แก่ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส เพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 มีหนังสือที่ลงนามโดย น.ส.ดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรฯขณะนั้น ที่อ้างข้อเสนอแนะ รมว.เกษตรฯ ให้ "ดำเนินการตามมติกรรมการวัตถุอันตรายในการให้จำกัดการใช้" ออกมา
ทั้งนี้เครือข่ายฯจะเริ่มรณรงค์อย่างเต็มที่ และขอเข้าพบกับพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งได้นัดหมายไว้แล้ว โดยในวันที่ 8 ต.ค.จะเข้าพบพรรคชาติไทยพัฒนา และวันที่ 9 ต.ค.เข้าพบพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นก็จะมีการร่วมกันเคลื่อนไหวกดดันคณะกรรมการวัตถุอันตรายในการลงมติแบนสารเคมีอันตรายให้เป็นไปอย่างเปิดเผยไม่เป็นมติลับเหมือนที่ผ่านมา
“ธีระวัฒน์” ชี้ติดปัญหา รมว.กษ.
ขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในนักวิชาการที่ออกมาต่อต้านสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กล่าวว่า การถูกข่มขู่ไม่ใช่แค่ 2 คน แต่ทุกคนที่ทำเกี่ยวกับอันตรายสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชน แม้แต่การเข้าชื่อก็จะถูกข่มขู่หมดในระดับลดหลั่นกันไป ซึ่งการออกมาปกป้องของนายอนุทินถือเป็นการให้ขวัญกำลังใจว่า หากเราทำปกป้องประชาชนคนไทย ไม่ต้องกลัวอะไร และตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็มีมาตรการในการตอบโต้ โดยได้ทำงานเป็นวอร์รูม ประกอบด้วยกรมทุกกรมที่เกี่ยวข้อง ทำงานทุกวัน เพื่อนำไปสู่เลิกการนำเข้า เลิกจำหน่าย เลิกครอบครอง เลิกใช้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ตามที่ท่านผู้ตรวจการแผ่นดินได้วางไว้ และเนื่องจากกรรมการวัตถุอันตรายจะมีมติภายในกลาง พ.ย. ซึ่งจะต้องพยายามทุกวิธีทางไม่ให้มีการต่ออายุการใช้สารเคมีเหล่านี้อีก
“ปัญหา คือ มีสัญญาณอันตราย โดย รมว.เกษตรฯ บอกว่าจะทำตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่า จะทำอย่างไรให้มติเป็นไปตามกระทรวงสาธารณสุข การพูดแบบนี้ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า จะมีการขับเคลื่อนให้กรรมการวัตถุอันตรายให้แบนสารเคมีอย่างสิ้นเชิง และตัวกรรมการจะมีการเปลี่ยนตัว แต่องค์ประกอบก็ยังคงเหมือนเดิม โดยเสียงข้างน้อยประมาณ 4-5 คนจากทั้งหมด 29 คน ยังคงเป็นตัวแทนจากฝั่งสุขภาพ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และนักวิชาการ แบบนี้ก็แพ้ตลอด ซึ่งเราก็เหลือเวลาอีกเดือนครึ่งเท่านั้น ” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว