วานนี้ (2 ต.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรณีเข้ารับตำแหน่งที่ผ่านมานั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ตรวจสอบบัญชีดังกล่าวของบรรดาส.ส.แล้ว พบข้อสงสัยในบัญชีทรัพย์สินของ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหน.พรรคประชาธรรมไทย ซึ่งได้ยื่นแจ้งบัญชีต่อป.ป.ช.เมื่อวันที่ 31 ก.ค.62 นั้น อาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายประการ โดยเฉพาะการเป็นกรรมการ หรือถือหุ้นในบริษัทที่ยังไม่ได้ชำระบัญชี และหรือยังไม่ได้จดทะเบียนยกเลิกบริษัทไม่ครบถ้วนตามหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งนายพิเชษฐ รายงานว่าถือหุ้นในบริษัทร้างจำนวน 5 บริษัท แต่ข้อเท็จจริงจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า นายพิเชษฐ ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ถึง 7 บริษัท รวมทั้งไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งว่า มีบัตรเครดิต หรือการเบิกเงินเกินบัญชีตามแบบหรือหลักเกณฑ์ที่ ป.ป.ช. กำหนดด้วย
ทั้งนี้ ตาม มาตรา 114 ของ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เมื่อปรากฏว่าผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ป.ป.ช.อาจเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัย ซึ่งอาจมีความผิดตาม มาตรา167 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งอาจมีผลต่อการดำรงตำแหน่งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา101 ได้ในที่สุด
ดังนั้น ทางสมาคมฯ จะไปยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ในวันพฤหัสที่ 3 ต.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ ปากเกร็ด นนทบุรี
ทั้งนี้ ตาม มาตรา 114 ของ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เมื่อปรากฏว่าผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น ป.ป.ช.อาจเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัย ซึ่งอาจมีความผิดตาม มาตรา167 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ซึ่งอาจมีผลต่อการดำรงตำแหน่งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา101 ได้ในที่สุด
ดังนั้น ทางสมาคมฯ จะไปยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ ในวันพฤหัสที่ 3 ต.ค.62 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ ปากเกร็ด นนทบุรี