xs
xsm
sm
md
lg

“กนอ.”เซ็นสัญญา‘กัลฟ์เอ็มทีพีฯ’ ลุยท่าเรือมาบตาพุดเฟส3บูมอีอีซี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360- กนอ.ประเดิมลงนามร่วมทุนบ.กัลฟ์ เอ็มทีพีฯ ก่อสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 (ช่วงที่1) มูลค่า 4.79 หมื่นล้านบาท เป็น 1 ใน 5 บิ๊กโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี ดันไทยฮับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการนำเข้าแอลเอ็นจีในภูมิภาค "สมคิด"แย้มไฮสปีดเทรนด์อาจลงนามร่วมซีพีก่อน 15 ต.ค.

วานนี้ (1 ต.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กับบริษัทกัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (ร่วมทุนระหว่างบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 70% และ บ. พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด 30%)เพื่อพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส3(ช่วงที่1)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็น 1 ใน 5 โครงสร้างพื้นฐานหลักในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) หรือ EEC Project List ที่ได้มีการลงนามร่วมลงทุนกับเอกชนที่ชนะประมูลเป็นโครงการแรกที่จะมีส่วนสำคัญในการยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)การลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นสูงและการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ในอนาคต

“การลงนามถือเป็นการเริ่มต้นที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และ4 โครงการโครงสร้างพื้นฐานหลักที่เหลือของอีอีซีก็คาดหวังว่าจะมีการทยอยลงนามต่อไป โดยเฉพาะคาดหวังว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะมีการลงนามได้ก่อน 15 ต.ค.นี้ และยืนยันว่าผมไม่ได้กดดันกลุ่มกิจการร่วมค้า บ.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้งและพันธมิตรหรือกลุ่มซีพีให้ลงนามแต่อย่างใดแต่ละโครงการมีขนาดใหญ่จะทำอะไรก็ต้องรอบคอบ”นายสมคิดกล่าว

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะ 3 (ช่วงที่ 1 ) มีมูลค่าลงทุน ประมาณ 47,900 ล้านบาท การลงนามครั้งนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบให้เดินหน้าโครงการและขยายพื้นที่ถมทะเล 1,000 ไร่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเมื่อ 1 ต.ค. ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนของไทยเพราะท่าเรือมาบตาพุดระยะ 1-2 ที่ดำเนินการได้ใช้เต็มศักยภาพแล้วจึงต้องดำเนินการระยะที่ 3 (ช่วงที่1)เพื่อรองรับการขนถ่ายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและแอลเอ็นจีซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่จะต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่ากนอ. กล่าวว่า หลังลงนามแล้วขั้นตอนต่อไปจะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตดำเนินการที่สำคัญ 4 ใบได้แก่ ใบอนุญาตถมทะเลกับกรมเจ้าท่าขอโดยกนอ. ที่เหลือขอโดยเอกชนได้แก่ ใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ(ท่าเรือก๊าซฯ)จากกรมเจ้าท่า ใบอนุญาตนำเข้าแ ละใบอนุญาตแปรรสภาพก๊าซแอลเอ็นจี จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เป็นต้น

“ระยะแรกจะเป็นเรื่องของการถมทะเลที่จะใช้เวลา 3 ปีและสร้างท่าเทียบเรืออีก 2 ปี ซึ่งการลงนามครั้งนี้เป็นรูปแบบรัฐร่วมลงทุนเอกชนหรือPPP NET Cost มีระยะเวลาสัญญาดำเนินการ 30 ปี“ น.ส.สมจิณณ์กล่าว

สำหรับการพัฒนามาบตาพุดเฟส 3ในช่วงที่ 1 เอกชนที่ชนะการประมูล จะได้สิทธิในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ (Superstructure) ประมาณ 200 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุน ประมาณ 47,900 ล้านบาท แบ่งเป็น กนอ.ร่วมลงทุนเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และ ภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องนํ้า และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

นายสารัช รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่า กัลฟ์ฯจะทำการกู้เงินกับสถาบันการเงินในประเทศเป็นหลักเพื่อลงทุนในโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 วงเงิน 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท โดยจะมีการทะยอยนำเข้าแอลเอ็นจีระยะ 5 ปีข้างหน้า 5 ล้านตันต่อปีและตลอดสัญญา 30 ปีจะมีการนำเข้าแอลเอ็นจีรวม 20 ล้านตัน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีที กล่าวว่า ปัจจุบันปตท.มีท่าเรือและคลังเพื่อรองรับนำเข้าแอลเอ็นจีของปตท.2 แห่งอยู่แล้วทั้งที่มาบตาพุดและหนองแฟบรวม 19 ล้านตันต่อปี ซึ่งอาจไม่เพียงพอจึงต้องลงทุนในมาบตาพุดในการรองรับนำเข้าเพิ่มอีก 5 ล้านตันต่อปีในระยะอีก 5 ปีข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น