"สนธิรัตน์" เล็งเสนอครม. 24 ก.ย.ตั้ง"กุลิศ สมบัติศิริ"นั่งประธานบอร์ดกฟผ.สะสางงาน พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯหวังเปิดให้ยื่นใช้เงินประจำงบปี'63 พร้อมเข้มประเมินผลงานบอร์ดพลังงาน ส่วนกรณีประมูลนำเข้าแอลเอ็นจีกฟผ.1.5ล้านตันยังต้องรอให้กฟผ.เจรจาปิโตรนาสฯเพื่อรายงาน"กบง."อีกครั้ง
วานนี้ (19 ก.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า คาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) 24 ก.ย.นี้จะสามารถนำเสนอการแต่งตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(บอร์ดกฟผ.) แทนนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน
" กรณีประธานบอร์ดกฟผ.หากขาดไปไม่สามารถประชุมได้ก็จะแต่งตั้งเพื่อให้การบริหารงานไม่สะดุด ส่วนกรณีนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ กรรมการกฟผ.ที่ลาออกไปจะแต่งตั้งภายหลังเนื่องจากต้องการคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิของบอร์ดกองทุนอนุรักษ์นั้นเมื่อแต่งตั้งเสร็จแล้วจะได้เร่งเปิดให้โครงการยื่นขอใช้เงินประจำปี 2563 หลังจากที่ล่าช้าไปจากแผนเดิมเล็กน้อย"นายสนธิรัตน์กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของบอร์ดต่างๆด้านพลังงานนั้นตนมีนโยบายการประเมินผลการทำงานที่จะมีเกณฑ์วัดผลการปฏิบัติงานเพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผลงานของบอร์ดต่างๆทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าตั้งแต่เข้ามาบริหารกระทรวงพลังงานยังไม่มีการปลดใครออกจากตำแหน่ง
สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ที่กฟผ.ได้เปิดประมูลนำเข้า 1.5 ล้านตันต่อปีนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลการเจรจาของกฟผ.กับบ.ปิโตรนาส แอลเอ็นจี จำกัด จากประเทศมาเลเซียที่เป็นผู้ชนะประมูลก่อนว่าจะมีผลสรุปเป็นอย่างไรซึ่งกฟผ.จะต้องนำรายงานสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่ตนเป็นประธานอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแนวทางดำเนินงานอีกครั้ง
" ขณะนี้ยังไม่ทราบผลหารือจึงตอบไม่ได้ซึ่งกฟผ.ต้องไปเจรจาตามมติกบง.เมื่อ 30 ส.ค. และระหว่างนี้กฟผ.ก็สามารถทดลองนำเข้าราคาตลาดจร(Spot)ตามมติกบง.ที่กำหนดไว้ 2 ลำเรือ( ไม่เกิน1.8 แสนตัน)"นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวถึงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานปี 2562 ณ ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ร่วมกับหน่วยงานภายในและภายนอกจำนวน 33 หน่วยงาน โดยได้มีการจำลองสถานการณ์"การปิดช่องแคบฮอร์มุซ"เพื่อให้ทุกฝ่ายหาแผนรับมือ อย่างไรก็ตามไทยยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์(เอสพีอาร์) เพราะไม่ได้เป็นผู้ผลิตการลงทุนไม่คุ้มค่า
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. และโฆษก กฟผ.กล่าวว่า หลังหารือกับนายสนธิรัตน์ กฟผ.จะชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยภารกิจของกฟผ.ขณะนี้คือการเจรจากับปิโตนาสถึงการยกเลิกประมูล 1.5 ล้านตัน และการหาแอลเอ็นจีสปอต เพื่อเดินหน้าทดลองผลิตไฟฟ้า
วานนี้ (19 ก.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า คาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) 24 ก.ย.นี้จะสามารถนำเสนอการแต่งตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานคณะกรรมการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(บอร์ดกฟผ.) แทนนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ รวมถึงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน
" กรณีประธานบอร์ดกฟผ.หากขาดไปไม่สามารถประชุมได้ก็จะแต่งตั้งเพื่อให้การบริหารงานไม่สะดุด ส่วนกรณีนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ กรรมการกฟผ.ที่ลาออกไปจะแต่งตั้งภายหลังเนื่องจากต้องการคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิของบอร์ดกองทุนอนุรักษ์นั้นเมื่อแต่งตั้งเสร็จแล้วจะได้เร่งเปิดให้โครงการยื่นขอใช้เงินประจำปี 2563 หลังจากที่ล่าช้าไปจากแผนเดิมเล็กน้อย"นายสนธิรัตน์กล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของบอร์ดต่างๆด้านพลังงานนั้นตนมีนโยบายการประเมินผลการทำงานที่จะมีเกณฑ์วัดผลการปฏิบัติงานเพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผลงานของบอร์ดต่างๆทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าตั้งแต่เข้ามาบริหารกระทรวงพลังงานยังไม่มีการปลดใครออกจากตำแหน่ง
สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ที่กฟผ.ได้เปิดประมูลนำเข้า 1.5 ล้านตันต่อปีนั้นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลการเจรจาของกฟผ.กับบ.ปิโตรนาส แอลเอ็นจี จำกัด จากประเทศมาเลเซียที่เป็นผู้ชนะประมูลก่อนว่าจะมีผลสรุปเป็นอย่างไรซึ่งกฟผ.จะต้องนำรายงานสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่ตนเป็นประธานอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแนวทางดำเนินงานอีกครั้ง
" ขณะนี้ยังไม่ทราบผลหารือจึงตอบไม่ได้ซึ่งกฟผ.ต้องไปเจรจาตามมติกบง.เมื่อ 30 ส.ค. และระหว่างนี้กฟผ.ก็สามารถทดลองนำเข้าราคาตลาดจร(Spot)ตามมติกบง.ที่กำหนดไว้ 2 ลำเรือ( ไม่เกิน1.8 แสนตัน)"นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวถึงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการซ้อมแผนรองรับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานปี 2562 ณ ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ร่วมกับหน่วยงานภายในและภายนอกจำนวน 33 หน่วยงาน โดยได้มีการจำลองสถานการณ์"การปิดช่องแคบฮอร์มุซ"เพื่อให้ทุกฝ่ายหาแผนรับมือ อย่างไรก็ตามไทยยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์(เอสพีอาร์) เพราะไม่ได้เป็นผู้ผลิตการลงทุนไม่คุ้มค่า
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. และโฆษก กฟผ.กล่าวว่า หลังหารือกับนายสนธิรัตน์ กฟผ.จะชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงาน โดยภารกิจของกฟผ.ขณะนี้คือการเจรจากับปิโตนาสถึงการยกเลิกประมูล 1.5 ล้านตัน และการหาแอลเอ็นจีสปอต เพื่อเดินหน้าทดลองผลิตไฟฟ้า