วานนี้ (18 ก.ย.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. เดินหน้าสนับสนุนกัญชา แก่หน่วยงานที่แจ้งความประสงค์เพื่อใช้ในทางการวิจัย หรือประโยชน์ทางการแพทย์ พร้อมสนับสนุนกัญชาของกลางเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ผลิต และครอบครองกัญชาได้ ซึ่งในขณะนี้ได้สนับสนุนกัญชาของกลาง แก่หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจากอย. ไปแล้ว 6 หน่วยงาน จำนวน 1,689 กก.
นายนิยม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่ วันที่ 17 มิ.ย.62 สำนักงาน ป.ป.ส.ได้สนับสนุนกัญชาของกลางให้หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว 6 หน่วยงาน คือ 1. กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จำนวน 1,000 กก. เพื่อใช้ผลิตน้ำมันกัญชาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน 2. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำนวน 662 กก. เพื่อนำกัญชาดังกล่าวไปทำน้ำมันกัญชา และดำเนินการจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรค 3. คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 10 กก. เพื่อดำเนินการในโครงการวิจัย นำมาพัฒนายาต้นแบบใช้ในการรักษาผู้ป่วย 4. โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จำนวน 7 กก. เพื่อนำกัญชาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตเป็น ยาตำรับศุขไสยาศน์ 5. สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 5 กก. เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และ 6. คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จำนวน 5 กก. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย โครงการวิจัยด้านการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร และเพื่อทดสอบการออกฤทธิ์การต้านมะเร็งในหลอดทดลอง
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาของกลาง ให้แก่หน่วยงานเพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งยังมีอีก 8 หน่วยงาน ที่รอการพิจารณาอนุญาตให้ผลิต และครอบครองกัญชาจาก อย. เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย รวมจำนวนที่ขอสนับสนุน 3,512 กก. โดยในวันที่ 19 ก.ย.62 ทางสำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการจัดประชุมพิจารณาส่งมอบกัญชาของกลางให้กับหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจาก อย. อีก 1 หน่วยงาน เป็นกัญชาของกลางจำนวน 50 กก.
ทั้งนี้ การดำเนินการขอใช้ประโยชน์จากกัญชาของกลางนั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่กำหนดไว้ โดยสำนักงานป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาของกลางแก่หน่วยงานที่มีความต้องการ เพื่อให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มาที่สุด และขอย้ำว่า กัญชายังเป็นยาเสพติดมีโทษตามกฎหมาย หากประชาชนมีความต้องการใช้ประโยชน์เพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย ควรพบปรึกษาแพทย์
นายนิยม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่ วันที่ 17 มิ.ย.62 สำนักงาน ป.ป.ส.ได้สนับสนุนกัญชาของกลางให้หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตไปแล้ว 6 หน่วยงาน คือ 1. กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จำนวน 1,000 กก. เพื่อใช้ผลิตน้ำมันกัญชาจากตำรับยาหมอพื้นบ้าน 2. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จำนวน 662 กก. เพื่อนำกัญชาดังกล่าวไปทำน้ำมันกัญชา และดำเนินการจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโรค 3. คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 10 กก. เพื่อดำเนินการในโครงการวิจัย นำมาพัฒนายาต้นแบบใช้ในการรักษาผู้ป่วย 4. โรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จำนวน 7 กก. เพื่อนำกัญชาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการผลิตเป็น ยาตำรับศุขไสยาศน์ 5. สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 5 กก. เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และ 6. คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จำนวน 5 กก. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย โครงการวิจัยด้านการสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร และเพื่อทดสอบการออกฤทธิ์การต้านมะเร็งในหลอดทดลอง
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาของกลาง ให้แก่หน่วยงานเพื่อใช้ประโยชน์ ซึ่งยังมีอีก 8 หน่วยงาน ที่รอการพิจารณาอนุญาตให้ผลิต และครอบครองกัญชาจาก อย. เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย รวมจำนวนที่ขอสนับสนุน 3,512 กก. โดยในวันที่ 19 ก.ย.62 ทางสำนักงาน ป.ป.ส. จะดำเนินการจัดประชุมพิจารณาส่งมอบกัญชาของกลางให้กับหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตจาก อย. อีก 1 หน่วยงาน เป็นกัญชาของกลางจำนวน 50 กก.
ทั้งนี้ การดำเนินการขอใช้ประโยชน์จากกัญชาของกลางนั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่กำหนดไว้ โดยสำนักงานป.ป.ส. พร้อมสนับสนุนกัญชาของกลางแก่หน่วยงานที่มีความต้องการ เพื่อให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มาที่สุด และขอย้ำว่า กัญชายังเป็นยาเสพติดมีโทษตามกฎหมาย หากประชาชนมีความต้องการใช้ประโยชน์เพื่อบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วย ควรพบปรึกษาแพทย์