ช่วงนี้กระแสการเมืองยังคงชุลมุนกับเรื่องฝ่ายค้านจะซักฟอก สอบถามลุงกระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน กรณีกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ตกหล่น ไม่สมบูรณ์ ยังต้องรอว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญอ้างว่าไม่มีองค์กรใดยุ่งได้ อะไรทำนองนั้น
แต่ศาลท่านก็ไม่ได้ชี้แจงว่าเมื่อไม่มีใครยุ่งด้วยได้ ยังมีทางออกที่สวยงาม สะอาดเอี่ยม ไร้ข้อกังขา ไม่เหลืออะไรให้ติดใจอย่างไรหรือไม่ ยังมีคนเถียงว่าถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งดี สภาผู้แทนมีหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมายนี่แหละ ควรจะถกเรื่องนี้ได้
ทำให้เรื่องขยายเป็นประเด็นเสริม นอกจากการอภิปรายไม่ลงมติ ซึ่งฝ่ายค้านตั้งใจจะสอบถามลุงกระท้อนเพียงไม่กี่คำถาม เพื่อความกระจ่าง แต่ลุงจะยังไปหรือไม่ เมื่อศาลมีคำกล่าวเช่นนั้น ฝ่ายท่านประธานชวนก็ว่ากันไปตามหน้าที่
นอกจากเรื่องอภิปรายก็เป็นเรื่องของผู้กองนักเคลียร์ เป็นประเด็นใหญ่โต เพราะประกาศว่าตัวเองเป็นเส้นเลือดใหญ่ของรัฐบาล มีความลับเรื่องเคลียร์อะไรก่อนการตั้งรัฐบาล เก็บไว้คนเดียว ถ้าตัวเองสิ้นสภาพอยู่ไม่ได้ รัฐบาลจะมีปัญหา
พร้อมอ้างแผนฝ่ายจ้องล้มรัฐบาล นั่นนี่โน่น ดังนั้นเมื่อยังต้องมีประเด็นต้อง “เคลียร์” กับข้อสงสัยเรื่องระยะเวลาการติดคุก การขาดอิสรภาพ เกี่ยวโยงกับกระบวนการทางกฎหมายของออสเตรเลีย ผู้กองจะฟ้องร้องใคร ก็ต้องว่ากันไปยาว
ส่วนประเด็นที่ว่าถ้าผู้กองไปต่อไม่ได้ รัฐบาลลุงกระท้อนจะอยู่ลำบาก เป็นภาระของพวก 3 ลุงที่จะต้องดิ้นรนอยู่ให้ได้ ก็ให้รู้กันไปว่าถ้ารัฐบาลขาดผู้กองแล้วอดีต ผบ.ทบ. 3 ลุงจะสิ้นท่า ทั้งนี้เส้นเลือดใหญ่อาจกลายเป็นเส้นเลือดดำขอดได้
ลุงกระท้อนยังมีเรื่องอีก นอกจากการถวายสัตย์ฯ ไม่สมบูรณ์ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และปัญหาของผู้กอง นั่นคือข้อสงสัยว่าลุงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ นี่เป็นความพิสดารว่าคนเดียวกันจะเป็นหรือไม่เป็นแล้วแต่กรณีเช่นนั้นหรือ
ในแผ่นดินนี้มีทั้งกระบวนการ คำอ้าง “นิติประเพณี” “นิติศรีธนญชัย” และ “นิติพิสดาร” อภินิหารทางกฎหมาย จึงมีปัญหาอย่างแรงเรื่องมาตรฐาน, 2 มาตรฐาน, ไร้มาตรฐาน และมาตรฐานติดล้อ คนอ้างมักแต่งนิทานเก่งเพื่อเอาตัวรอดให้ได้
ดังนั้น ความกล้าหาญ และความหน้าด้านจึงมีเส้นแบ่งที่ไม่ชัดเจน แล้วแต่กรณี และประเภทของบุคคลว่ามีประวัติด้านจริยธรรม คุณธรรมในมโนสำนึกหรือไม่ ไม่ว่าลุงกระท้อนจะรอดจากกรณีก็สุดแล้วแต่ ยังมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือเสมอ
ไม่ใช่ปัญหาใหม่ ติดค้างมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลยุครัฐประหาร แล้วมีคนรวยแล้ว! ถ้ายิ่งมีปมประเด็นไม่กระจ่าง เรื่องเหล่านี้จะเป็นปัญหาคาใจ ทำให้อารมณ์ฉุนเฉียว ขาดสติ ล้งเล้งเหมือนงิ้วพิโรธ และคนรู้ทันแล้วว่าลีลาอย่างนี้ไม่ลุ่มลึก เห็นจนชิน
แต่ก็ช่วยให้เอาตัวรอดไปได้ แม้จะไม่คำนึงถึงความสง่างามก็ตาม เพราะจะมีเรื่องใหม่มากลบเรื่องที่ค้างคาอยู่ และสื่อประเภทเชียร์ลีดเดอร์จะสร้างประเด็นหักเห เปิดช่องให้คณะ 3 ลุงดูมีความจำเป็นสำหรับบ้านเมือง ถ้าขาดเสียแล้วอาจล่มจมได้
ยิ่งมีประเด็นดูแล้ววุ่นวาย ฝุ่นตลบ ชีวิตชาวบ้านทั่วไปไม่ดีขึ้น เพราะรัฐบาลมัวแต่ยุ่งกับการแก้ปัญหาของตัวเอง ก็ทำให้ความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆ ได้เดินหน้าโดยไม่ได้รับความสนใจ การตรวจสอบ แม้จะมีกลิ่นตุๆ ความมัวซัว ไม่โปร่งใสอย่างแรง
ทำให้การทำมาหากินของคนในบางองค์กรไปได้สะดวก ราบรื่นแบบหวานคอแร้ง มั่นใจได้ว่า แม้จะมีคนเอะอะโวยวาย ถ้ารัฐบาล 3 ลุงไม่ใส่ใจ ใครก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างเช่นเรื่องสารพิษเคมีเกษตร 3 ตัว นำโดยพาราควอตนั่นปะไร ยังมีตัวช่วยยื้ออีก
ผู้ตรวจการแผ่นดินสั่งแล้ว ยังทำเฉย เหมือนเรื่องที่ต้องให้ กฟผ.ต้องมีสัดส่วนให้บริการไฟฟ้ามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เหลือแค่ 24 ในอนาคต
จู่ๆ สภาผู้แทนก็ตั้งกรรมาธิการมาตรวจสอบเรื่องสารพิษ เป็นการนับหนึ่งใหม่ จะจบเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่กว่า 50 ประเทศห้ามแล้ว เหมือนเรื่องโจ๊กที่ชาวเขานับ 1 ไม่เคยถึง 100 นั่นคือพอนับได้ เก้าสิแปะ เก้าสิเก้า....แล้วอึ้งไป แล้ว บอก แปะสิ!
ทำให้คนติดตามเรื่องนี้มองว่าเป็นเพราะรัฐบาล 3 ลุงไม่ใส่ใจชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และท่านผู้ทรงเกียรติคิดว่าชาวบ้านโง่งม ตามไม่ทันเล่ห์ เหมือนคนในแผ่นดินที่ต้องยอมรับค่าโง่ดักดานเป็นหมื่นๆ ล้านบาทซ้ำซาก แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ
ยังมีความพิสดารที่เดินหน้าเงียบเชียบที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อคณะผู้บริหารลงนามสั่งซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด แอล-3 16 ตัว มูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท เอามาแทนเครื่องซีทีเอ็กซ์ 26 ตัว ซื้อมาในราคา 1.4 พันล้านบาท
เป็นเรื่องราวใหญ่โต สอบไปมาแล้วไม่มีใครติดคุก เครื่องยังทำหน้าที่ได้ดี ยังใช้อยู่หลายประเทศ แม้จะมีซีทีเอ็กซ์รุ่นใหม่ออกมาแล้ว แต่คนการท่าฯ ก็ไม่ใส่ใจ เอาเครื่องแอล-3 16 ตัวมาทำงานแทนซีทีเอ็กซ์ 26 ตัว และกำลังรอผลัดเปลี่ยน
ช่วงการจัดซื้อ ไม่ฟังเสียงคัดค้านจากใคร จากสมาคมเกี่ยวกับการบินต่างๆ ทำให้ถูกสงสัยว่าเป็นการตั้งธงไว้นานแล้ว เพราะเครื่องแอล-3 ผลิตในสหรัฐฯ แต่ยังไม่มีข่าวว่าสนามบินไหนในสหรัฐฯ ให้ความไว้วางใจในเครื่องรุ่นนี้ ใช้กันแต่ซีทีเอ็กซ์
เมื่อลุงกระท้อนประกาศว่าภายใต้รัฐบาลนี้ ต้องไม่มีทุจริต คอร์รัปชัน ก็มีคนแนะว่าไปตรวจเรื่องการสั่งซื้อเครื่องแอล-3 ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ทำไมแพงพิสดารอย่างนั้น ได้จำนวนของน้อยกว่า ตรวจได้น้อยกว่า แต่ราคาแพงกว่าเท่าตัว
ถ้าตรวจสอบทุกขั้นตอนจริงจังเหมือนการตรวจกรณีซีทีเอ็กซ์ น่าจะมีอะไรสนุกมากเพราะดูราคาซื้อต่อหน่วยแล้วพิสดารสุดพรรณนาจริงๆ! ลุงจะกล้ามั้ย?