xs
xsm
sm
md
lg

พท.ระอุ16ส.ส.โหวตหนุนรัฐบาล ตีตกตั้งกมธ.สอบ"อีอีซี"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**เป็นเรื่องเป็นราวให้น่าคิดขึ้นมาแบบไม่น่าเชื่อ สำหรับผลโหวตในญัตติด่วนที่เสนอให้ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาตรวจสอบการดำเนินการในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และ อู่ตะเภา รวมทั้งการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยมีการพิจารณารวม 4 ญัตติของส.ส.โดยหลัง การอภิปรายได้มีการขอมติจากที่ประชุมว่า สมควรจะตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ หรือไม่ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วย ด้วยคะแนน 231 ต่อ 224 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นการลงมติไม่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เรื่องดังกล่าวมีการเปิดเผยออกมาสู่ภายนอก หลังจากที่ "ชลน่าน ศรีแก้ว" ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และในฐานะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้านหรือ วิปฝ่ายค้าน ได้โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ ระบุว่า “สภาเพื่อประชาชน อย่าเล่นกลเกมส์การเมือง”ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ส.ส.ซีกรัฐบาล ส่วนใหญ่ไม่ลงชื่อเข้าประชุม ทำให้ องค์ประชุมไม่ครบ ท่านประธาน อาจสั่งเลื่อนหรือเลิกประชุมได้ จำเป็นต้องทักท้วงไว้ครับ
ทั้งนี้ หลังจากมีการทวีตข้อความดังกล่าวออกไป ทำให้มี "เอกชัย ไชยนุวัติ" อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ญัตติ อีอีซี เสียงพรรคฝ่ายค้าน หายไป 23 ท่าน และส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงมติค้านด้วยนะครับ”
ต่อมา ชลน่าน ศรีแก้ว ยอมรับว่า “ครับพรรคเพื่อไทยนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบแล้วครับ ขาด 16 คน เบื้องต้นส.ส.ที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วย ได้ทำหนังสือชี้แจงแล้วว่า ลงผิดพลาด ส.ส. 5 ท่าน ยืนยันว่าได้ลงคะแนน แต่ไม่มีผลการลงคะแนนออกมา มีพยานรับรองว่าอยู่ในห้องปะชุม 4 คนป่วยครับ ที่เหลือตรวจสอบเป็นรายบุคคลครับ”
เมื่อพิจารณาจากข้อความทวีต ของ ชลน่าน ศรีแก้ว ก็ทำให้ได้รับรู้ว่า ในการลงมติในญัตติด่วนดังกล่าว มี ส.ส.ฝ่ายค้าน โหวตสวนทางจริงๆ และหากพิจารณาจากข้อสังเกตของ เอกชัย ไชยนุวัติ ก็ยังได้รู้อีกว่า มี ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่โหวตสวนทางรวมแล้วจำนวน 23 คน และเมื่อหักออกจาก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อีก 16 คน ก็ถือว่ามีจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะเสียงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แม้ว่าจะมีการระบุว่า มีการสอบสวน และชี้แจงออกมาแล้วว่า มีการลงมติผิดพลาด หรือว่า ลงคะแนนแล้ว แต่ผลคะแนนไม่ปรากฏออกมา และมี 4 คนที่ป่วย ก็อาจรับฟังได้ในระดับหนึ่ง แต่มันก็น่าสังเกตที่ ในระดับ ส.ส.หากลงคะแนนผิดพลาด หรือลงคะแนนแล้วคะแนนไม่ปรากฏนั้น หากชี้แจงแบบนี้ มันก็น่าคิดเหมือนกันว่า “ ระดับปัญญา”ของพวกเขา มันอยู่ในระดับไหนกันแน่ เพราะต้องไม่ลืมว่าการเป็นตัวเอง ปวงชนมันสำคัญ ไม่ใช่ระดับเด็กประถม หรืออนุบาล ที่ทำให้การลงคะแนนผิดพลาดได้ขนาดนั้น หรือถ้ามี ก็ย่อมต้องมีการทักท้วงได้ทันที เหมือนกับที่มักเคยเห็นการยกมือประท้วงในที่ประชุม จนน่ารำคาญก่อนหน้านี้
**อย่างไรก็ดี มองในมุมของพรรคเพื่อไทย ก็พอเข้าใจได้ว่าอาจเป็นเพียง “แก้เกี้ยว”ในเรื่องข้ออ้าง เรื่องการลงคะแนนของ ส.ส.ผิดพลาด แต่ที่ต้องพิจารณากันก็คือ ส.ส.จำนวนถึง 16 คน ที่ลงมติสวนทาง และกำลังมีการสอบสวน เป็นรายบุคคลนั้นถือว่า“น่าคิด”ไม่น้อย และเมื่อมีการระบุว่า มีฝ่ายค้าน“โหวตสวน”จำนวน 23 คน นั่นก็หมายความว่า ยังมีอีก 7 คน ที่เป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน จากพรรคการเมืองอื่น
แน่นอนว่า หากพิจารณากันเฉพาะเรื่องโครงการอีอีซี ก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องสำคัญ ถือว่าเป็น “เรือธง”สำหรับรัฐบาลที่ต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีการขับเคลื่อนการลงทุนมาตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา และตอนนี้ ก็กำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลังในเรื่องของการลงทุน และการพัฒนาต่อยอด ซึ่งหากพิจารณากันในทางการเมือง รัฐบาลก็คงไม่ยอมให้โครงการดังกล่าวต้องสะดุด หรือถูกขัดขวาง อย่างแน่นอน
การที่ฝ่ายค้านพยายามเสนอญัตติด่วน เพื่อให้มีการตรวจสอบโครงการลงทุนใน อีอีซี นั้นก็ต้องบอกว่า สำหรับฝ่ายรัฐบาลแล้วคงยอมไม่ได้ เพราะกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนที่กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ และขณะเดียวกัน ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า และเสียงของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านที่ “หายไป 23 เสียง”นั้นเป็นพวก“งูเห่า”ที่เริ่มเลื้อยออกมาหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีการพูดแย้มออกมาจากแกนนำรัฐบาลบางคนที่บอกว่าได้นำเสียงเข้ามาเติมในฝ่ายรัฐบาลจำนวนหนึ่งแล้ว หลังจากที่ฝ่ายพรรคเล็กบางพรรค ถอนตัวออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระในสภาแล้ว
**แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคแกนนำของฝ่ายค้าน การที่มีส.ส.ที่ลงมติสวนทางออกมาถึง 16 คน แม้ว่าจะอ้างว่ามีการชี้แจงไปแล้วว่าลงมติผิดพลาด และพวกป่วยไม่เข้าห้องประชุม แต่เมื่อหักลบมาออกให้เห็นตัวเลขแล้ว ก็มีจำนวนนับสิบคน ก็ถือว่าไม่ธรรมดาและเสียหน้าไม่น้อย และที่น่าจับตามองก็คือเป็นพวก “งูเห่า” ที่เริ่มออกมาเพ่นพ่านแล้วหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีปัญหาระหองระแหงกันในภายในถึงขั้นมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส.ส.พรรคเดียวกันเมื่อครั้งไปต้อนรับ “บิ๊กตู่” ขณะลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และล่าสุด ก็มีเรื่องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันในห้องหัวหน้าพรรคกันเลยทีเดียว !!
------

ใช้รูป--พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา - ชลน่าน ศรีแก้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น