“สนธิ” พร้อมแฟนคลับ พร้อมเปิดใจหลังออกจากคุกครั้งแรก ซาบซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ย้ำเข้าไปตามกติกาออกมาตามกติกา ในเรือนจำไร้สิทธิพิเศษ พร้อมเรียกหา “ทายาทกระทิงแดง-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ตอนนี้อยู่ที่ไหน ชี้คุกไม่ได้เลวร้าย ชื่นชมอธิบดีกรมราชทัณฑ์ทำงานดี เปรยการเมืองไม่เคยเปลี่ยน ไม่ปลื้มทหารยึดอำนาจ หวัง “ประยุทธ์” จะทำงานให้ดี เอาประเทศเป็นตัวตั้ง ไม่เล่นพวกเล่นพ้อง สอน “ช่อ-พรรณิการ์” ปรับตัวให้ทันเหตุการณ์บ้านเมือง ยืนยันหมดยุคการเมืองลงถนน ขอทำหน้าที่ให้ความรู้ประชาชน
วานนี้ (12 ก.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดเปิดบ้านพระอาทิตย์พบกับมวลชนและพนักงานเครือผู้จัดการที่มาให้กำลังใจ พร้อมเปิดใจในประเด็นต่างๆครั้งแรกภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสนธิ กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งแรกขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน อยู่อย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีใครรังแก และตนเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่ได้เพราะใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ที่บอกให้เราอยู่กับปัจจุบัน เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นห้องขัง ต้องรู้ว่ามันเป็นคุก แล้วเลิกฟุ้งซ่าน และต้องปฏิบัติตนตามคนคุก อย่าไปอวดดี อวดเก่ง เขามีอะไรให้ทำก็ทำไป และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ สำหรับการได้รับอภัยโทษครั้งนี้ ซึ่งตนอายุ 72 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำทั้งหมด 2 ปี 11 เดือน กับอีก 27 วัน เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีใครรังแก และเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ทั้งนี้ตนหมดโทษแล้ว เหลือเพียงคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 51 ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงคดีเดียวที่กำลังต่อสู้กันอยู่
“ผมเข้าตามกติกา และก็ออกตามกติกา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ที่ผมไม่หนีก็เพราะว่า ลูกผม ภรรยาผม พ่อแม่พี่น้อง เพื่อน ลูกน้องที่ทำงานด้วย จะได้เดินเชิดหน้าอย่างสง่าผ่าเผย อย่างน้อยที่สุด ถึงผมไม่มีเงินเป็นแสนๆ ล้าน เหมือนพวกกระทิงแดง แต่ผมชดใช้กรรมของผมทุกเม็ด ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที คุณบอส (นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครือกระทิงแดง ที่ยังหลบหนีคดีขับรถชนตำรวจตายอยู่ในต่างประเทศ) ตอนนี้อยู่ที่ไหน คุณทักษิณ (ชินวัตร) อยู่ที่ไหน คุณยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) อยู่ที่ไหน อยากจะบอกว่าการติดคุกไม่น่ากลัว ถ้าทำใจได้ อาหารในคุกไม่เลวนัก เพราะฉะนั้นแล้วอย่าไปกังวล” นายสนธิ ระบุ
ทั้งนี้ นายสนธิยังได้กล่าวชื่นชม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ด้วยว่า ในกรมราชทัณฑ์มีหลายอย่างที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ในยุคของ พ.ต.อ.ณรัชต์ ทำได้ดีมาก ต้องขอแสดงความดีใจที่มีอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนนี้
นายสนธิ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ในช่วงนี้ ยังไม่มีอะไรจะพูด เพราะเพิ่งออกมา แต่จะมีความเห็นออกไปข้างนอกโดยผ่านเฟซบุ๊ก สนธิ ลิ้มทองกุล เข้าไปดูได้ แต่สิ่งหนึ่งไม่เคยเปลี่ยนคือความจริงใจและความต้องการจะทำให้บ้านเมืองมันดีขึ้น และหวังว่าการเมืองจะมีวิวัฒนาการและพัฒนาไปในรูปแบบที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตนเป็นหนุ่มมาจนอายุ 72 การเมืองไม่เคยเปลี่ยน ก็เป็นอย่างนี้ของมัน ตนไม่ได้ปลื้มที่ทหารยึดอำนาจ แต่อุปมาอุปไมยเหมือนบ้านเรามีลูกสาว แล้วท้องไม่มีพ่อ จะเอามันขึงพืดทุบตีเฆี่ยนมันหรือ เราต้องยอมรับมัน และก็หวังว่ามันจะเลี้ยงลูกให้ดี ปกครองให้ดี ทำให้เป็นคนดี
“วันนี้จะดีจะชั่ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แล้ว หวังว่าท่านจะทำงานให้ดี หวังว่าท่านจะเอาประเทศเป็นตัวตั้ง เป็นส่วนรวม และหวังว่าท่านจะไม่เล่นพวกเล่นพ้อง ผมคิดว่าความหวังตรงนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าถ้าหวังกันแบบนี้ทุกคน มันก็น่าจะมีอนาคต”นายสนธิกล่าว
ช่วงหนึ่ง นายสนธิ ได้กล่าวถึง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ว่า ตนไม่ต้องการให้คนทะเลาะกัน แต่ว่าความคิดเห็นต่างกัน เราต้องยอมรับ ตนติดตามข่าว ก็สงสารคุณช่อ (น.ส.พรรณิการ์) ที่ทำอะไรผิดไปหมด เห็นใจเขา อาจจะเป็นบุคลิกเขาเป็นคนอย่างนั้น แต่ในความปรารถนาดีของเขาก็ยังมีอะไรที่ควรชมเชย เพียงแต่ความปรารถนาดีของเขาและพวกเขานั้น มันไม่ทันต่อเหตุการณ์ในบ้านเมือง มันก้าวล้ำไปอีกไกล หลายคนยังยอมรับไม่ได้
“ผมคิดว่าผมให้ความรู้คนมากกว่า การออกถนน ผมคงไม่ออก แล้วผมคิดว่ามันหมดยุคของการออกถนนแล้ว มันหมดยุคจริงๆ องค์ความรู้สำคัญมาก ผมให้องค์ความรู้คนมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ปี 2548 ชีวิตผมผ่านมาจนกระทั่ง มันขมขื่นจนไม่รู้จะพูดอย่างไร จากนี้จะออกมาในเชิงให้ความรู้มากกว่า ผมจะออกมาบอกกล่าวถึงเรื่องต่างๆของบ้านเมืองเป็นระยะๆ และยังไม่วิจารณ์ถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ เพราะเพิ่งเริ่มต้นเอง” นายสนธิ ระบุ
วานนี้ (12 ก.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เปิดเปิดบ้านพระอาทิตย์พบกับมวลชนและพนักงานเครือผู้จัดการที่มาให้กำลังใจ พร้อมเปิดใจในประเด็นต่างๆครั้งแรกภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสนธิ กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งแรกขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน อยู่อย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีใครรังแก และตนเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่ได้เพราะใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ที่บอกให้เราอยู่กับปัจจุบัน เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นห้องขัง ต้องรู้ว่ามันเป็นคุก แล้วเลิกฟุ้งซ่าน และต้องปฏิบัติตนตามคนคุก อย่าไปอวดดี อวดเก่ง เขามีอะไรให้ทำก็ทำไป และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ สำหรับการได้รับอภัยโทษครั้งนี้ ซึ่งตนอายุ 72 ปี ใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำทั้งหมด 2 ปี 11 เดือน กับอีก 27 วัน เป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีใครรังแก และเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ทั้งนี้ตนหมดโทษแล้ว เหลือเพียงคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ปี 51 ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงคดีเดียวที่กำลังต่อสู้กันอยู่
“ผมเข้าตามกติกา และก็ออกตามกติกา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ที่ผมไม่หนีก็เพราะว่า ลูกผม ภรรยาผม พ่อแม่พี่น้อง เพื่อน ลูกน้องที่ทำงานด้วย จะได้เดินเชิดหน้าอย่างสง่าผ่าเผย อย่างน้อยที่สุด ถึงผมไม่มีเงินเป็นแสนๆ ล้าน เหมือนพวกกระทิงแดง แต่ผมชดใช้กรรมของผมทุกเม็ด ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที คุณบอส (นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครือกระทิงแดง ที่ยังหลบหนีคดีขับรถชนตำรวจตายอยู่ในต่างประเทศ) ตอนนี้อยู่ที่ไหน คุณทักษิณ (ชินวัตร) อยู่ที่ไหน คุณยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) อยู่ที่ไหน อยากจะบอกว่าการติดคุกไม่น่ากลัว ถ้าทำใจได้ อาหารในคุกไม่เลวนัก เพราะฉะนั้นแล้วอย่าไปกังวล” นายสนธิ ระบุ
ทั้งนี้ นายสนธิยังได้กล่าวชื่นชม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ด้วยว่า ในกรมราชทัณฑ์มีหลายอย่างที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ในยุคของ พ.ต.อ.ณรัชต์ ทำได้ดีมาก ต้องขอแสดงความดีใจที่มีอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนนี้
นายสนธิ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ในช่วงนี้ ยังไม่มีอะไรจะพูด เพราะเพิ่งออกมา แต่จะมีความเห็นออกไปข้างนอกโดยผ่านเฟซบุ๊ก สนธิ ลิ้มทองกุล เข้าไปดูได้ แต่สิ่งหนึ่งไม่เคยเปลี่ยนคือความจริงใจและความต้องการจะทำให้บ้านเมืองมันดีขึ้น และหวังว่าการเมืองจะมีวิวัฒนาการและพัฒนาไปในรูปแบบที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตนเป็นหนุ่มมาจนอายุ 72 การเมืองไม่เคยเปลี่ยน ก็เป็นอย่างนี้ของมัน ตนไม่ได้ปลื้มที่ทหารยึดอำนาจ แต่อุปมาอุปไมยเหมือนบ้านเรามีลูกสาว แล้วท้องไม่มีพ่อ จะเอามันขึงพืดทุบตีเฆี่ยนมันหรือ เราต้องยอมรับมัน และก็หวังว่ามันจะเลี้ยงลูกให้ดี ปกครองให้ดี ทำให้เป็นคนดี
“วันนี้จะดีจะชั่ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แล้ว หวังว่าท่านจะทำงานให้ดี หวังว่าท่านจะเอาประเทศเป็นตัวตั้ง เป็นส่วนรวม และหวังว่าท่านจะไม่เล่นพวกเล่นพ้อง ผมคิดว่าความหวังตรงนี้ต่างหากที่ผมคิดว่าถ้าหวังกันแบบนี้ทุกคน มันก็น่าจะมีอนาคต”นายสนธิกล่าว
ช่วงหนึ่ง นายสนธิ ได้กล่าวถึง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ว่า ตนไม่ต้องการให้คนทะเลาะกัน แต่ว่าความคิดเห็นต่างกัน เราต้องยอมรับ ตนติดตามข่าว ก็สงสารคุณช่อ (น.ส.พรรณิการ์) ที่ทำอะไรผิดไปหมด เห็นใจเขา อาจจะเป็นบุคลิกเขาเป็นคนอย่างนั้น แต่ในความปรารถนาดีของเขาก็ยังมีอะไรที่ควรชมเชย เพียงแต่ความปรารถนาดีของเขาและพวกเขานั้น มันไม่ทันต่อเหตุการณ์ในบ้านเมือง มันก้าวล้ำไปอีกไกล หลายคนยังยอมรับไม่ได้
“ผมคิดว่าผมให้ความรู้คนมากกว่า การออกถนน ผมคงไม่ออก แล้วผมคิดว่ามันหมดยุคของการออกถนนแล้ว มันหมดยุคจริงๆ องค์ความรู้สำคัญมาก ผมให้องค์ความรู้คนมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ปี 2548 ชีวิตผมผ่านมาจนกระทั่ง มันขมขื่นจนไม่รู้จะพูดอย่างไร จากนี้จะออกมาในเชิงให้ความรู้มากกว่า ผมจะออกมาบอกกล่าวถึงเรื่องต่างๆของบ้านเมืองเป็นระยะๆ และยังไม่วิจารณ์ถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ เพราะเพิ่งเริ่มต้นเอง” นายสนธิ ระบุ