"วิษณุ" ชี้ รัฐบาลแจงง่ายขึ้น หลัง “ศาล รธน.” ไม่รับคำร้องปมถวายสัตย์ไม่ครบ ไม่หวั่นฝ่ายค้านลุยต่อ แนะระวังวิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลฯ ด้าน"บิ๊กป้อม" ยิ้ม หลังศาลรธน.ไม่รับคำร้อง "ฝ่ายค้าน" เดินหน้าซักฟอกปมถวายสัตย์ อ้างคำวินิจฉัยศาลฯ "ชวน" เปิดทางสภาฯทำได้ การอภิปรายยังเป็นไปตามกำหนดเดิม “ไพบูลย์” ขู่ฝ่ายค้านเดินหน้าซักฟอกระวังเจอฟ้องกลับ
วานนี้ (12 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นที่คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และจะส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรต้องถอนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ว่า ญัตตินี้ไม่ได้ตกไปโดยอัตโนมัติ ประธานสภาฯไม่สามารถถอนเองได้ แต่จะต้องมีใครไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง อยู่ที่การประสานงานของทางสภาฯ และถ้ามีการถอนญัตติ รัฐบาลก็ไม่ต้องไปชี้แจง หากผู้ยื่นญัตติไม่ถอนรัฐบาลต้องไปชี้แจงกันเหมือนเดิม แต่ขอบเขตอภิปรายจะต้องเปลี่ยนจากเดิมที่คิดไว้ ซึ่งถือว่าจะดีขึ้น ขณะที่ขอบเขตในการอภิปรายจะต้องอยู่ภายในข้อบังคับของสภาฯที่มีอยู่แล้ว และผู้อภิปรายจะต้องระมัดระวังกรณีจะไปวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
เมื่อถามถึงแนวโน้มว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯจะไปชี้แจงเองหรือมอบหมายรัฐมนตรีรายอื่นไปชี้แจงต่อสภาฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมการไว้อย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ โดยเฉพาะนายกฯ ไปตอบเอง ไม่ต้องสงสัยเป็นอย่างอื่นเลย ดูจากวาระงานวันที่ 18 ก.ย.แล้ว นายกฯ จะออกมางานที่เมืองทองธานี แล้วจะกลับเข้าไปประชุมสภาฯต่อ หรือแม้แต่ตนเองก็เช่นกัน กำลังให้ทีมงานประสานเลื่อนวาระงานบางงานของตนอยู่ ส่วน ครม.ก็ต้องเข้าด้วยกัน เพราะยังไม่รู้ว่าในการอภิปรายจะมีใครโดนหางพายุไต้ฝุ่น
“ชวน” ไฟเขียวเดินหน้าต่อ
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า สภาฯยังคงประชุมและอภิปรายทั่วไปในประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ตามระเบียบวาระในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะถือเป็นเรื่องที่สภาตรวจสอบได้ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นคนละภารกิจกับศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนจะกำชับให้สมาชิกระมัดระวังในการอภิปรายเพื่อไม่ให้กระทบกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯที่ให้สิทธิในการอภิปรายซักถาม และเสนอแนะให้คำแนะนำ
“เพื่อไทย” ยังเชื่อเข้าทางฝ่ายค้าน
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยถูกผิดในกรณีถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนแต่อย่างใด เพียงแต่วินิจฉัยเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยในเรื่องนี้ซึ่งอาจผูกพันไปถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นๆหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่มั่นใจว่าผลการวินิจฉัยไม่น่าเกี่ยวกับการทำงานของสภาฯ ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นยิ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยในเรื่องนี้ยิ่งเป็นความจำของสภาฯที่จะต้องใช้กระบวนการของสภาฯในการซักถามข้อเท็จจริงเสนอแนะตรวจสอบและหาข้อยุติด้วยวิถีทางของฝ่ายนิติบัญญัติ
“วันนี้เชื่อว่า ส.ส. ทุกคนคงโล่งใจและพร้อมอภิปรายกันได้อย่างเต็มที่หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเพราะก่อนหน้านี้มีผู้มีอำนาจหลายคนอ้างว่าอาจเป็นการก้าวล่วงศาล ถ้าสภาฯนำเรื่องที่กำลังอยู่ในการพิจารณามาอภิปรายอย่างไรก็ดีการอภิปรายตามมาตรา 152 ในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนเท่านั้น แต่สภาฯต้องอภิปรายเรื่องการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของงบประมาณด้วย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าว
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวเสริมว่า ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือกับ นายชวน ถึงการอภิปรายเรื่องดังกล่าว โดยนายชวนกำชับว่า การอภิปรายขออย่าก้าวล่วงไปถึงเบื้องบน ซึ่งพวกเรายื่นยันกับนายชวนไปว่า ไม่ก้าวล่วงแน่นอน เพราะไม่มีความจำเป็น เป็นห่วงแต่การชี้แจงของรัฐบาลเท่านั้นที่จะไปก้าวล่วงหรือแอบอ้างหรือไม่
“ไพบูลย์” เตือนระวังโดนสอบเอง
อีกด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวหากฝ่ายค้านยังเดินหน้าที่จะอภิปรายในประเด็นนี้ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะกระทำการ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจมีฝ่ายตรวจสอบยื่นเรื่องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ จึงขอเตือนด้วยความเป็นห่วงการกระทำใดๆ ของฝ่ายค้านที่จะพิจารณาประเด็นซึ่งอยู่ในเขตพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์มีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง และฝ่ายค้านอาจถูกตรวจสอบเอง
วานนี้ (12 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ในประเด็นที่คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และจะส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรต้องถอนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ ในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ว่า ญัตตินี้ไม่ได้ตกไปโดยอัตโนมัติ ประธานสภาฯไม่สามารถถอนเองได้ แต่จะต้องมีใครไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง อยู่ที่การประสานงานของทางสภาฯ และถ้ามีการถอนญัตติ รัฐบาลก็ไม่ต้องไปชี้แจง หากผู้ยื่นญัตติไม่ถอนรัฐบาลต้องไปชี้แจงกันเหมือนเดิม แต่ขอบเขตอภิปรายจะต้องเปลี่ยนจากเดิมที่คิดไว้ ซึ่งถือว่าจะดีขึ้น ขณะที่ขอบเขตในการอภิปรายจะต้องอยู่ภายในข้อบังคับของสภาฯที่มีอยู่แล้ว และผู้อภิปรายจะต้องระมัดระวังกรณีจะไปวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
เมื่อถามถึงแนวโน้มว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯจะไปชี้แจงเองหรือมอบหมายรัฐมนตรีรายอื่นไปชี้แจงต่อสภาฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้เตรียมการไว้อย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ โดยเฉพาะนายกฯ ไปตอบเอง ไม่ต้องสงสัยเป็นอย่างอื่นเลย ดูจากวาระงานวันที่ 18 ก.ย.แล้ว นายกฯ จะออกมางานที่เมืองทองธานี แล้วจะกลับเข้าไปประชุมสภาฯต่อ หรือแม้แต่ตนเองก็เช่นกัน กำลังให้ทีมงานประสานเลื่อนวาระงานบางงานของตนอยู่ ส่วน ครม.ก็ต้องเข้าด้วยกัน เพราะยังไม่รู้ว่าในการอภิปรายจะมีใครโดนหางพายุไต้ฝุ่น
“ชวน” ไฟเขียวเดินหน้าต่อ
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยว่า สภาฯยังคงประชุมและอภิปรายทั่วไปในประเด็นเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ตามระเบียบวาระในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะถือเป็นเรื่องที่สภาตรวจสอบได้ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นคนละภารกิจกับศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนจะกำชับให้สมาชิกระมัดระวังในการอภิปรายเพื่อไม่ให้กระทบกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาฯที่ให้สิทธิในการอภิปรายซักถาม และเสนอแนะให้คำแนะนำ
“เพื่อไทย” ยังเชื่อเข้าทางฝ่ายค้าน
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยถูกผิดในกรณีถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนแต่อย่างใด เพียงแต่วินิจฉัยเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยในเรื่องนี้ซึ่งอาจผูกพันไปถึงองค์กรตามรัฐธรรมนูญอื่นๆหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่มั่นใจว่าผลการวินิจฉัยไม่น่าเกี่ยวกับการทำงานของสภาฯ ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้นยิ่งศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยในเรื่องนี้ยิ่งเป็นความจำของสภาฯที่จะต้องใช้กระบวนการของสภาฯในการซักถามข้อเท็จจริงเสนอแนะตรวจสอบและหาข้อยุติด้วยวิถีทางของฝ่ายนิติบัญญัติ
“วันนี้เชื่อว่า ส.ส. ทุกคนคงโล่งใจและพร้อมอภิปรายกันได้อย่างเต็มที่หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเพราะก่อนหน้านี้มีผู้มีอำนาจหลายคนอ้างว่าอาจเป็นการก้าวล่วงศาล ถ้าสภาฯนำเรื่องที่กำลังอยู่ในการพิจารณามาอภิปรายอย่างไรก็ดีการอภิปรายตามมาตรา 152 ในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนเท่านั้น แต่สภาฯต้องอภิปรายเรื่องการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีการชี้แจงแหล่งที่มาของงบประมาณด้วย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าว
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวเสริมว่า ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือกับ นายชวน ถึงการอภิปรายเรื่องดังกล่าว โดยนายชวนกำชับว่า การอภิปรายขออย่าก้าวล่วงไปถึงเบื้องบน ซึ่งพวกเรายื่นยันกับนายชวนไปว่า ไม่ก้าวล่วงแน่นอน เพราะไม่มีความจำเป็น เป็นห่วงแต่การชี้แจงของรัฐบาลเท่านั้นที่จะไปก้าวล่วงหรือแอบอ้างหรือไม่
“ไพบูลย์” เตือนระวังโดนสอบเอง
อีกด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวหากฝ่ายค้านยังเดินหน้าที่จะอภิปรายในประเด็นนี้ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะกระทำการ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจมีฝ่ายตรวจสอบยื่นเรื่องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้ จึงขอเตือนด้วยความเป็นห่วงการกระทำใดๆ ของฝ่ายค้านที่จะพิจารณาประเด็นซึ่งอยู่ในเขตพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์มีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง และฝ่ายค้านอาจถูกตรวจสอบเอง