xs
xsm
sm
md
lg

จะไม่ให้รู้สึกสยองได้ไง?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"โสภณ องค์การณ์"

รัฐบาลของ “คณะลุงกระท้อนยิ่งทุบยิ่งหวาน” ถือว่าโชคดีมีชัยมีทั้งบุญเก่าและบุญใหม่เป็นตัวช่วยหนุนไม่ว่าจะเผชิญกับปัญหาอะไรดูเหมือนจะฟันฝ่าไปได้แม้บางครั้งอาจจะดูทุลักทุเลบ้างก็ตาม

จัดอยู่ในประเภทวาสนาดีมีโชคช่วยที่ป่วยก็หายที่หน่ายก็รักนั่นเลย

ทั้งเรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ฝ่ายค้านเล็งจะใช้เป็นเป้าใหญ่ก็กลายเป็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยหรือความเห็นว่าใครที่ไหนก็ไม่มีอำนาจจัดการเรื่องนี้ได้

ลุงกระท้อนจึงเปรียบเสมือนกระทะเคลือบสารเทฟล่อนทอดหรือผัดอะไรก็ไม่ติด ลื่นไหลไร้ปัญหาด้วยเหตุนี้ทำให้ซินแส 2 พ่อลูกเชื่อมั่นว่าลุงกระท้อนต้องอยู่ได้ยาว 8 ปีแน่

แต่ก็นั่นแหละ ซินแสทำนายทายทัก อย่างไรชะตาคนไม่สู้ฟ้าลิขิตเพราะความสำเร็จจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดการปัญหาให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข และก็ไม่มีปัญหาเรื่องโกงบ้านกินเมือง แบบฉาวโฉ่ แก้ตัวซักฟอกอย่างไรก็ไม่หมดคราบ นั่นแหละอาจเป็นเหตุให้ต้องพบจุดจบก่อนเวลา

และยิ่งในยุคของ “เศรษฐกิจโอเค” หรือ “เศรษฐกิจตกลง” ดังเช่นยุคนี้ ซึ่งทุกคนต้องดิ้นรนหารายได้เพื่อรับกับความไม่แน่นอนของอนาคต ก็ยิ่งทำให้มีสภาวะเปราะบางอ่อนไหวต่อความเย้ายวน ของลาภสักการะอันมิควรได้

ยิ่งนักการเมืองมีความจำเป็น ต้องเร่งถอนทุนสร้างรายได้พิเศษผ่านโครงการต่างๆด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้คำรับประกันของลุงกระท้อนว่าจะต้องไม่มีการทุจริตเด็ดขาด อยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก

โดยทั่วไปแล้ว รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับผลงานและความน่าเชื่อถือ หรือมีลูกเล่นพิสดารเช่นโครงการประชานิยมแจกของฟรีให้ชาวบ้านก็อาจช่วยชะลอเวลา ก่อนปัญหาจะลุกลามจนเอาไม่อยู่

ถ้าเสริมด้วยลูกเล่นตลกโปกฮาแบบคาเฟ่เป็นตัวช่วย ก็ทำให้ชุมชนบ้องตื้น ลุ่มหลงในความสามารถเพราะแต่ละคนย่อมมีจุดแข็งและ. ขายเฉพาะตัว

ลุงกระท้อนมีลีลาลื่นไหลรอบจัดจ้าน ถือว่าเป็นความสามารถพิเศษเสริมด้วยความอึดทนและความห้าวทำให้มีแฟนคลับระดับหนึ่ง

ปัญหาที่ลุงกระท้อนเผชิญ ถ้าเป็นระดับฝีมือธรรมดาคงจอดป้ายหรือเกยตื้นนานแล้ว

เรื่องที่จะตัดสินวัดความสามารถของลุงกระท้อนก็คือปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังตายซากปลุกไม่ตื่นฟื้นยากเหมือนม้าป่วย จะโด๊ปยาแรงอย่างไรก็ไม่ได้ผล

เรื่องเศรษฐกิจเป็นปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของชาวบ้านถ้าไม่มีรายได้และไม่มีช่องทางทำมาหากินก็จะยิ่งทำให้ปัญหาลุกลามดังที่เห็นได้ตลอดเวลาห้าปีที่คณะลุงกระท้อนเดี๋ยวจัดการจนหนี้ครัวเรือนและหนี้ประเทศยังคงทะยานไม่มีแววว่าจะอ่อนล้า

ยิ่งหารายได้ไม่เก่ง แต่เก่งเรื่องการกู้เงินสร้างหนี้สิน ทำต่อเนื่อง วันหนึ่งข้างหน้าก็จะอยู่ในสภาพเหมือนงูกินหางตัวเอง และเมื่อถึงวาระนั้นต่อให้ 10 ซินแส นักดูโหงวเฮ้ง จัดฮวงจุ้ยเก่งอย่างไรคงเอาไม่อยู่

เป็นข่าวมาโดยตลอดเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความจริงที่ว่าถ้ายังไม่หยุด ก็จะไม่มีใครรอดโดยไม่เจ็บตัว

คู่ค้าแข่งตั้งกำแพงภาษีทั้งสองประเทศรู้ชัดกว่าใครและด้วยเหตุนี้ทางอเมริกา และจีนจึงตัดสินใจเลื่อนการขึ้นกำแพงภาษีออกไปอย่างน้อยสองเดือนเพราะรู้ดีว่าจากสภาวะที่เป็นอยู่ขณะนี้จะยิ่งเลวร้ายส่งผลให้เห็นในช่วงต้นปีหน้าแน่นอน

รัฐบาลลุงกระท้อน มีแผนกู้เงินต่อเนื่องและคาดแบบลมๆ แล้งๆ ว่าจะสามารถทำงบประมาณให้สมดุลในปี 2575 ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ก็ยังไม่มีใครรับประกัน

แต่ถ้ายังกู้ต่อเนื่อง กู้ไม่หยุด ต้องรับภาระใช้หนี้คืนทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น และจำนวนยอดหนี้สูงกว่าปัจจุบันก็คงไม่ต้องจินตนาการให้มากมายว่าอนาคตของประเทศไทยจะน่าสยองขวัญแค่ไหน ถ้ามีหนี้สินเกินกว่าขีดความสามารถที่จะชำระคืนได้

แล้ววันนั้นจะมีใครยืนเชิดหน้า ยืดอกประกาศเสียงดังฟังชัดว่าจะขอรับผิดชอบต่อความเสียหาย ถ้ามีจริงคงจะเป็นรายแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ขอรับผิดชอบกับความหายนะในผลงานของตัวเอง

คำประกาศรับผิดชอบช่วยอะไรไม่ได้เพราะไม่มีใครจะใช้หนี้คืนได้ยกเว้นแต่คนไทยทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ คนจนจะต้องรับภาระจนหลังแอ่นเสมอในฐานะของคนที่ไม่สามารถหนีปัญหาของประเทศไปอยู่เมืองนอกได้พร้อมกับความมั่งคั่งจากเงินร้อน และทรัพย์สินจากการโกง

ถ้าวิกฤตเช่นนั้นเกิดขึ้นจริงคนก่อหนี้ จะอยู่ที่ไหนและไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ถ้ายังกู้ต่อเนื่องโดยขีดความสามารถในการชำระหนี้ไม่เพียงพอ

ตัวอย่างมีให้เห็นในกลุ่มประเทศละตินอเมริกาและยุโรปบางประเทศที่ใช้เงินเกินตัวและผู้นำรัฐบาลไม่คำนึงถึงความเสียหายในการใช้จ่ายแบบคนมือเติบเพียงเพื่อต้องการให้อยู่ในอำนาจนานๆ

เราเองก็มีปัญหาจากการบริหารงานผิดพลาดส่งผลให้ต้องลดค่าเงินบาทและกู้เงินจากองค์กรระหว่างประเทศ และอย่านึกว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยถ้าเรายังไม่จดจำประวัติศาสตร์อันขมขื่น

สำคัญอยู่ที่ว่าคนจดจำประวัติศาสตร์ ก็คือประชาชนคนหน้าเดิมๆ แต่คนสร้างความหายนะมักจะไม่ซ้ำหน้ากัน แต่มีเหมือนกันก็คือไร้ยางอาย ไม่ซื่อสัตย์ คิดคดต่อบ้านเมือง เป็นผู้ทรยศประชาชน

ใครเป็นใครแต่รู้กันอยู่ เดี๋ยวนี้เริ่มมีเสียงจากเสนาบดีบางรายแล้วว่าอย่ามาโทษรัฐบาล เพราะเพิ่งทำงานได้ไม่ถึง 2 เดือน

ได้ยินแบบนี้ถ้าไม่รู้สึกสยดสยองจะให้ลุกขึ้นฟ้อน ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร!


กำลังโหลดความคิดเห็น