แม้จะอธิบายชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีตมาหลายรอบแล้ว แต่คดีที่ก่อไว้ของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกขุดคุ้ยมาตีแผ่อีกจนได้
ต้นสัปดาห์นี้ หนังสือพิมพ์ เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ของออสเตรเลีย ได้นำเสนอเรื่องราวของผู้กองธรรมนัส โดยระบุว่า เคยถูกจับในคดีร่วมกันค้ายาเสพติด เมื่อปี 2536 พร้อมพวกรวม 4 คน และถูกศาลออสเตรเลียตัดสินจำคุก 9 ปี แต่ให้การรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือ 6 ปี
แต่ห้ามปล่อยตัวก่อนถูกจำคุก 4 ปี ระหว่างปี 2536-2540 ซึ่งขณะนั้นใช้ชื่อร.อ.ธรรมนัส โบกพรหม อายุ 27 ปี
ข้อมูลการถูกดำเนินคดีที่หนังสือพิมพ์เดอะ ซิดนีย์ตีแผ่ ขัดแย้งกับคำชี้แจงของผู้กองธรรมนัสก่อนหน้า ซึ่งอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการขนยาเสพติดเข้าออสเตรเลีย และถูกจำคุกเพียง 8 เดือนเท่านั้น
การรื้อฟื้นคดีเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แม้จะถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินจำคุกในต่างประเทศ แต่ก็เป็นคดีร้ายแรง และส่งผลกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้กองธรรมนัส ไม่ได้ชี้แจงอะไรมากนัก สำหรับอดีตที่ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาโจมตีรอบใหม่ เพียงแต่พูดสั้นๆ ว่า กลุ่มที่โจมตี เป็นฝ่ายตรงข้าม แก๊งเดิมๆ และไม่อยากจะตอบโต้
ผู้กองธรรมนัสเพิ่งให้สัมภาษณ์กรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ประกาศแยกตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า “ผมเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ขณะนี้เชื่อว่ากินจนอิ่มแล้ว น่าจะพอได้แล้ว เชื่อว่าปัญหานายพิเชษฐไม่ต้องเคลียร์ เพราะอาจเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด”
แม้ไม่ได้ระบุชัดว่า ลิงที่พูดหมายถึงใคร แต่ตัวแทน 10 พรรคเล็กก็ออกมาตอกกลับผู้กองธรรมนัสอย่างไม่เกรงกลัว
ผู้กองธรรมนัสเพิ่งย้ายจากพรรคเพื่อไทย เข้ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่สร้างผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะการเคลียร์ปัญหาความขัดแย้ง การแก่งแย่งและต่อรองโควตารัฐมนตรีภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล จนสามารถกำราบ 10 พรรคเล็กอยู่มือ และได้เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นการตบรางวัลจากพล.อ.ประยุทธ์
ผู้กองธรรมนัสมีชื่อติดโผเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่ก็หลุดไป โดยมีข่าวว่า โควตารัฐมนตรีที่ได้รับ อาจต้องให้น้องชายเข้ามารับตำแหน่งแทน เนื่องจากผู้กองธรรมนัสมีภาพลักษณ์เป็นผู้กว้างขวาง เคยถูกถอดยศ และมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีร่วมกันค้ายาเสพติดและถูกจับที่ออสเตรเลีย
จนพล.อ.ประยุทธ์กลัวจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล ไม่กล้าแต่งตั้ง
แต่สุดท้าย ผู้กองธรรมนัสก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ขณะที่บทบาทในการเคลียร์ปัญหาต่างๆ ภายในรัฐบาลยังเป็นภารกิจอยู่
หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ผู้กองธรรมนัสเดินสายชี้แจงเรื่องราวในอดีต และประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโจมตีไปรอบหนึ่งแล้ว แม้จะไม่ครอบคลุมในทุกพฤติกรรมที่เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ก็ทำให้กระแสการโจมตีจางหายไป อย่างน้อยชั่วระยะเวลาหนึ่ง
แต่ถูกหยิบยกเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกจนได้ และไม่ใช่จากแก๊งเดิม หรือฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่เป็นการขุดคุ้ยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ของออสเตรเลีย ทำให้สังคมตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติความเหมาะสมในตำแหน่งรัฐมนตรีของผู้กองธรรมนัส
และต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์แสดงจุดยืนในการแต่งตั้งผู้กองธรรมนัส หลังจากที่ถูกเปิดโปงคดีร่วมกันค้ายาเสพติด แต่แม้จะเป็นพฤติกรรมในอดีต แต่ส่งผลกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลโดยตรง
พล.อ.ประยุทธ์เสี่ยงเผชิญความเสื่อมในศรัทธาของประชาชน ตั้งแต่แต่งตั้งผู้กองธรรมนัสแล้ว ซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีผู้กองธรรมนัสก็ยังไม่จบ
เมื่อสื่อออสเตรเลียให้ความสนใจ และขุดคุ้ยข้อมูลคดียาเสพติดมาตอกย้ำ นอกจากจะทำให้เก้าอี้รัฐมนตรีของผู้กองธรรมนัสสั่นสะเทือนแล้ว ยังส่งกระทบต่อคะแนนนิยมรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ด้วย
5 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตกเป็นเป้าโจมตีใหญ่ แต่พล.อ.ประยุทธ์ปกป้องมาตลอด ปัจจุบัน ผู้กองธรรมนัสกำลังตกเป็นเป้าโจมตี แต่พล.อ.ประยุทธ์จะอุ้มผู้กองธรรมนัสอีกคนไหวหรือไม่
การได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี อาจเป็นใบรับประกันว่า อดีตของผู้กองธรรมนัสได้เคลียร์หมดแล้ว แต่เพราะตำแหน่งที่พล.อ.ประยุทธ์ตบรางวัลให้ กลับทำให้ผู้กองธรรมนัสตกเป็นเป้าของการตรวจสอบ และการรื้อค้นพฤติกรรมในอดีตมาเปิดโปงให้สาธารณชนรับรู้มากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์อาจนิ่งเฉย ทำเป็นไม่รับรู้ถึงกระแสการโจมตีผู้กองธรรมนัส ไม่แสดงท่าทีใดๆ กับคดีเก่าที่หนังสือพิมพ์ออสเตรเลียขุดคุ้ยขึ้นมาตีแผ่ จนเป็นที่อับอายทั่วโลก
แต่ถ้าปล่อยให้กรณีผู้กองธรรมนัสอึมครึม จะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลแน่ เพราะกระแสการโจมตีจะถูกขยายผลต่อไป จนอาจถูกยกระดับถึงพล.อ.ประยุทธ์ในที่สุด
ผู้กองธรรมนัส ได้รับฉายา มือเคลียร์ทั่วทิศ แต่คดีเก่าของผู้กองธรรมนัส ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคลียร์ให้กระจ่าง ศรัทธาของพล.อ.ประยุทธ์คงเสื่อมลงต่อไป ไม่มีโอกาสกอบกู้คืนมา
ปมคดีค้ายาเสพติดของผู้กองธรรมนัส ยังไม่จบตามที่พล.อ.ประยุทธ์พยายามออกมาสยบข่าว แต่ข้อโจมตีของผู้กองธรรมนัสจะจบโดยสมบูรณ์ได้ เมื่อข้อเท็จจริงในการถูกจับดำเนินคดีค้าเฮโรอีนที่ออสเตรเลียได้รับการพิสูจน์
และสิ่งที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอดีตผู้กองธรรมนัส ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงรัฐบาลทำหนังสือถึงรัฐบาลออสเตรเลีย ขอรายละเอียดคดีการจับกุมและจำคุกผู้กองธรรมนัส ความจริงทุกอย่างก็จะกระจ่าง ไม่ต้องโจมตีหรือแก้ตัวกันให้วุ่นวายกันต่อไป
พล.อ.ประยุทธ์อยากให้ปมผู้กองธรรมนัสจบหรือไม่ ถ้าต้องการให้จบ สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือถึงรัฐบาลออสเตรเลีย ขอรายละเอียดคดีผู้กองธรรมนัส ทุกอย่างจบแน่