รมช.เกษตรฯ รับหนังสือผู้นำท้องถิ่น ขอทับลานใช้แนวเขตปี 43 แก้ปัญหาทับซ้อนที่ทำกิน เจ้าตัวลั่นแก้ที่ทับซ้อนยุคนี้ พร้อมคืนชีพ “วันแม็พ” แจงไร้นโยบายทุบรีสอร์ทพื้นที่ ส.ป.ก. ชี้ไม่เกิดประโยชน์ ยึดหรือเช่านำเงินเข้ากองทุนช่วยเกษตรกรแทน
วานนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายชุณห์ ศิริชัยคีรี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นำผู้นำท้องถิ่นและท้องที่ จาก อ.ครบุรี อ.เสิงสาง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 50 คน สวมเครื่องแบบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับหนังสือ ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้วย จากกรณีการประกาศแนวเขตอุทยานฯ ทับลาน เมื่อปี 2524 ของกรมอุทยานฯ ทับซ้อนที่อยู่อาศัยทำมาหากินของราษฎรโดยมีราษฎรใน 4 อำเภอของ จ.นครราชสีมา และ 1 อำเภอ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งราษฎรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ถูกจับกุมดำเนินคดีมากกว่า 350 คดี
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาแนวเขตพื้นที่ทับซ้อน โดยร่วมมือกันระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และเรื้อรังมานาน แต่จะได้รับการแก้ไขในยุคนี้ ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจาก รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ประสานงานกับรมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะนำโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตรา 1:4000 (One map: วันแม็ป) ซึ่งกระทรวงทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการไว้แล้ว มาพิจารณาใช้ ปัญหาต่างๆ จะถูกคลี่คลายไป จะได้รู้ชัดเจนว่าป่ารุกชาวบ้าน หรือชาวบ้านรุกป่า เป็นที่ของหน่วยงานใด คณะกรรมการชุดนี้ ได้เริ่มประชุมกันในสัปดาห์นี้แล้ว เนื่องจากเรามีข้อมูลเก่าอยู่ เหลือเพียงตัดสินใจว่า จะใช้แนวเขตไหนที่ถูกต้อง เมื่อได้แนวเขตแล้ว ก็จะนำเข้าที่ประชุม ครม. ให้อนุมัติอีกครั้ง เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน
เมื่อถามว่า จะมีมาตรการจัดการกับนายทุนอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนายทุน ถ้าเป็นที่ของกรมอุทยานฯ หรือ กรมป่าไม้ เขาคงแก้ปัญหาเอง แต่ถ้าเป็นเรื่องของ ส.ป.ก. ตนมีนโยบายชัดเจนว่า จะเอาที่ดินที่สังกัดของ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้ชาวบ้าน และเกษตรกรได้ทำกิน หากมีการใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก. ก็ต้องจัดสรรให้คนกลุ่มใหม่ ที่ขึ้นทะเบียนไว้แทน ส่วนกรณีที่มีการนำไปสร้างรีสอร์ทนั้น ยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการทุบทำลายรีสอร์ท โดยจะให้มีการใช้กฎหมายยึดมาเป็นของรัฐ และให้เจ้าของรีสอร์ทเช่าดำเนินการต่อ และนำเงินมาเข้ากองทุน ส.ป.ก. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายอื่นๆ ต่อไป
วานนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายชุณห์ ศิริชัยคีรี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นำผู้นำท้องถิ่นและท้องที่ จาก อ.ครบุรี อ.เสิงสาง อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 50 คน สวมเครื่องแบบกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้รับหนังสือ ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ด้วย จากกรณีการประกาศแนวเขตอุทยานฯ ทับลาน เมื่อปี 2524 ของกรมอุทยานฯ ทับซ้อนที่อยู่อาศัยทำมาหากินของราษฎรโดยมีราษฎรใน 4 อำเภอของ จ.นครราชสีมา และ 1 อำเภอ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งราษฎรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ถูกจับกุมดำเนินคดีมากกว่า 350 คดี
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาแนวเขตพื้นที่ทับซ้อน โดยร่วมมือกันระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข และเรื้อรังมานาน แต่จะได้รับการแก้ไขในยุคนี้ ทั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจาก รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้ประสานงานกับรมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราทำงานไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะนำโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตรา 1:4000 (One map: วันแม็ป) ซึ่งกระทรวงทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการไว้แล้ว มาพิจารณาใช้ ปัญหาต่างๆ จะถูกคลี่คลายไป จะได้รู้ชัดเจนว่าป่ารุกชาวบ้าน หรือชาวบ้านรุกป่า เป็นที่ของหน่วยงานใด คณะกรรมการชุดนี้ ได้เริ่มประชุมกันในสัปดาห์นี้แล้ว เนื่องจากเรามีข้อมูลเก่าอยู่ เหลือเพียงตัดสินใจว่า จะใช้แนวเขตไหนที่ถูกต้อง เมื่อได้แนวเขตแล้ว ก็จะนำเข้าที่ประชุม ครม. ให้อนุมัติอีกครั้ง เชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน
เมื่อถามว่า จะมีมาตรการจัดการกับนายทุนอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนายทุน ถ้าเป็นที่ของกรมอุทยานฯ หรือ กรมป่าไม้ เขาคงแก้ปัญหาเอง แต่ถ้าเป็นเรื่องของ ส.ป.ก. ตนมีนโยบายชัดเจนว่า จะเอาที่ดินที่สังกัดของ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้ชาวบ้าน และเกษตรกรได้ทำกิน หากมีการใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของ ส.ป.ก. ก็ต้องจัดสรรให้คนกลุ่มใหม่ ที่ขึ้นทะเบียนไว้แทน ส่วนกรณีที่มีการนำไปสร้างรีสอร์ทนั้น ยืนยันว่าไม่มีนโยบายในการทุบทำลายรีสอร์ท โดยจะให้มีการใช้กฎหมายยึดมาเป็นของรัฐ และให้เจ้าของรีสอร์ทเช่าดำเนินการต่อ และนำเงินมาเข้ากองทุน ส.ป.ก. เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายอื่นๆ ต่อไป