วานนี้ (5ก.ย.) ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่ง บนเวทีระหว่างเป็นประธาน และให้ข้อคิดเห็นในการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 61 ว่า ขอชื่นชมการนำเสนอผลงานของนักศึกษา ที่มีพัฒนาการมาจากปีก่อนๆ มาก ซึ่งหลายอย่าง ก็อยู่ในแผนและขั้นตอนการดำเนินการแล้ว
"ผมไม่กังวลกับปัญหาภายนอกประเทศ แต่กังวลปัญหาภายในประเทศของเราเอง เพราะดิจิทัลฯ กันเหลือเกิน เดี๋ยวก็วิจารณ์กันว่า ทั้งนี้ เรื่องที่สำคัญผมรับได้ทั้งหมด ขณะที่บางเรื่องก็ทำให้เสียสมอง ปวดหัวทุกวัน เพราะแต่ละวัน ผมก็พูดไม่รู้กี่ที่ บางทีพูดอะไรไป สมองก็จำไม่ได้ นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่เป็นไร ยังสู้ไหว ตราบใดที่ยังมีรองนายกรัฐมนตรีเก่งๆอย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีช่วยกลาโหม มี พี่ป้อม ของเรา (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่เก่งๆ ยังมี พี่ป๊อก ของเรา (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) มีน้อง อิทธิพล คุณปลื้ม (รมว.วัฒนธรรม) มีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น มีความเกี่ยวพัน ยึดโยงกันทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากความมั่นคง มีเสถียรภาพทางการเมือง และการทหาร อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาในวันนี้คือ จะหารายได้จากที่ใด เพื่อดำเนินการด้านสาธารณสุข การศึกษา เพราะที่ผ่านมาเป็นการให้เปล่า ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก และจะเป็นภาระในอนาคต จึงขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไร ให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป
"ประเทศไทยมีปัญหาพอสมควร โดยปัญหาทั้งหมดอยู่ที่คนขาดความเชื่อมั่น ซึ่งปัญหานี้มาจากคำพูดของพวกเราทั้งสิ้น ถ้าทุกคนพูดว่ามันแย่ ทั้งหมดก็จะแย่ตาม เช่น จะไม่มีใครกล้าลงทุน เพราะกลัว ดังนั้นจึงต้องช่วยกันว่าปลุกทุกคนให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติได้อย่างไร "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจที่มีคนพยายามพูดว่า ประเทศของเราไม่ดี แต่กลับมีคนเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก ถ้าเราโจมตีกันไปมา ก็จะเกิดความเสียหาย เพราะสิ่งที่พูดไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ เพื่อให้นายกฯ เจ็บปวดเพียงคนเดียว แต่ประเทศจะเสียหายไปถึงข้างนอก จึงอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ เพราะคนไทยมีความละเอียดอ่อน จินตนาการสูง เชื่อคนง่าย อ่านข้อความไม่ถึง 3 บรรทัด ยังไม่จบ ก็โพสต์ลงโซเชียลฯแล้ว และ การโพสต์ในบางครั้งก็ไม่ได้รู้เรื่อง แต่ต้องการโพสต์เพื่อด่าลุงตู่ ด่ามันเข้าไป ไม่รู้ว่าเกลียดชังอะไรตนนักหนา และยังไม่รู้ตัวเลยว่าไปทำอะไรให้ใครเจ็บใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง กองทัพไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติว่า เป็นกองทัพที่ต้องมีศักยภาพ ทั้งคนและเครื่องมือ อุปกรณ์ต้องทันสมัยพอสมควร ถ้าเก่ามาก ก็อายเขา จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าตนอยากซื้อ ถ้ามันไม่ต้องซื้อได้ก็ดี รวมถึงเครื่องบิน ลองไปขึ้นกันดูบ้างสิ เว้นเครื่องบินของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ปลอดภัย แต่เครื่องบินที่มีอยู่ 20-30 ปี ที่ตกกันบ่อยๆ แล้วก็มาเสียใจกัน ทุกคนต้องนึกถึงชีวิตของคนที่ใช้สิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบนบก ทะเล อากาศ บางทีนายสั่งลูกน้องก็ไม่อยากไป เพราะอายเขา เพราะมันเก่าบุโรทั่งมาก วันนี้เราต้องดูส่วนนี้ให้เหมาะสม และจำเป็นจริงๆ แต่ไม่ใช่ซื้อกันเกลื่อน ไม่มีเงินขนาดนั้น ซึ่งเราต้องขายของให้มากขึ้น เวลาใครจะมาขายของ ตนถามว่า คุณจะซื้อของเรามากขึ้นหรือเปล่า ถ้าคุณซื้อสินค้าเกษตรของเรามากขึ้น เราก็จะซื้อเรือของเขามากขึ้น เวลาซื้อเรือลำหนึ่ง เครื่องบินลำหนึ่ง ต้องแลกข้าวหมดไปไม่รู้เท่าไหร่ ตนได้พูดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปด้วยว่าพร้อมซื้อ แต่ขอมีเงินก่อน ก็เป็นการกดดัน ต่อรอง ต่างตอบแทนกันอยู่แบบนี้
นายกฯ กล่าวว่า หลายอย่างอาจเป็นบริบทของโลกในเวลานี้ ดังนั้น กองทัพต้องมีประสิทธิภาพในทุกมิติ เราไม่ได้เตรียมไว้รบอย่างเดียว ต้องเตรียมไว้ฝึกร่วมกับต่างประเทศด้วย หลายคนอาจบอกว่าวันนี้ไม่มีการรบกันแล้ว ซึ่งวันนี้ไม่ได้รบกันแบบขนาดใหญ่ แต่รบกันตามแนวชายแดน ที่มีความขัดแย้ง รบในพื้นที่จำกัด ถ้ารบกันรุนแรงก็จะหยุดเจรจา ถ้าเราหยุดไม่ได้แต่แรก หรือสู้เขาไม่ได้ เขตชายแดนที่เคยเกิดปัญหา ไม่มีทางที่จะต่อรองเขาได้ ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้มีไว้ให้เกิดความเกรงใจ ถ้ารบเราต้องเหนือกว่า ถ้ามันจำเป็น เราไม่ได้อยากรบกับใครอยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาล และกองทัพ ในการดูแลความมั่นคง
นายกฯกล่าวว่า สถานการณ์วันนี้อยากให้ทุกคนช่วยลดความขัดแย้งทางสังคมให้ได้ อะไรที่โพสต์มาไม่น่าสนใจอย่าไปโพสต์ต่อใครจะด่านายกฯ จะชมนายกฯ ตนก็ไม่สนใจ ทางพระสอนไว้แล้วว่า อย่าไปดีใจ เมื่อมีคนรัก อย่าไปเสียใจเมื่อคนไม่ชอบ คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ สาธุ ตนปลงทุกวัน บางทีก็อึดอัดอกจะแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ต้องมีความสุขกับการทำงาน ส่วนความทุกข์ก็อีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้กับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนมีวันนี้ได้เพราะท่านสอนผมมา ไม่มีใครเข้าใจหรอก ถ้าเราไม่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาแบบผมกับท่าน อยู่ชายแดนมาด้วยกัน ตนก็หนุ่ม ท่านก็หนุ่ม มีความห่วงใยที่ดีให้กัน มีความผูกพันและร่วมชะตากรรมกันมา คนที่ 2 คือ พี่ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ ตนถึงมายืนจุดนี้ ก็พิสูจน์ตัวกันมานาน ท่านก็ไว้ใจผม นอนบ้านเดียวกันมาทั้งหมดความสัมพันธ์นี้มากกว่า 40 ปี ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ หรือตอบแทนอะไรกันทั้งสิ้น
"ผมไม่กังวลกับปัญหาภายนอกประเทศ แต่กังวลปัญหาภายในประเทศของเราเอง เพราะดิจิทัลฯ กันเหลือเกิน เดี๋ยวก็วิจารณ์กันว่า ทั้งนี้ เรื่องที่สำคัญผมรับได้ทั้งหมด ขณะที่บางเรื่องก็ทำให้เสียสมอง ปวดหัวทุกวัน เพราะแต่ละวัน ผมก็พูดไม่รู้กี่ที่ บางทีพูดอะไรไป สมองก็จำไม่ได้ นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ แต่ไม่เป็นไร ยังสู้ไหว ตราบใดที่ยังมีรองนายกรัฐมนตรีเก่งๆอย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รัฐมนตรีช่วยกลาโหม มี พี่ป้อม ของเรา (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่เก่งๆ ยังมี พี่ป๊อก ของเรา (พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา) มีน้อง อิทธิพล คุณปลื้ม (รมว.วัฒนธรรม) มีผู้บัญชาการเหล่าทัพ ทั้งหมดล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น มีความเกี่ยวพัน ยึดโยงกันทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดเริ่มต้นจากความมั่นคง มีเสถียรภาพทางการเมือง และการทหาร อันจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาในวันนี้คือ จะหารายได้จากที่ใด เพื่อดำเนินการด้านสาธารณสุข การศึกษา เพราะที่ผ่านมาเป็นการให้เปล่า ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก และจะเป็นภาระในอนาคต จึงขอให้ทุกคนช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไร ให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป
"ประเทศไทยมีปัญหาพอสมควร โดยปัญหาทั้งหมดอยู่ที่คนขาดความเชื่อมั่น ซึ่งปัญหานี้มาจากคำพูดของพวกเราทั้งสิ้น ถ้าทุกคนพูดว่ามันแย่ ทั้งหมดก็จะแย่ตาม เช่น จะไม่มีใครกล้าลงทุน เพราะกลัว ดังนั้นจึงต้องช่วยกันว่าปลุกทุกคนให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติได้อย่างไร "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เข้าใจที่มีคนพยายามพูดว่า ประเทศของเราไม่ดี แต่กลับมีคนเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก ถ้าเราโจมตีกันไปมา ก็จะเกิดความเสียหาย เพราะสิ่งที่พูดไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ เพื่อให้นายกฯ เจ็บปวดเพียงคนเดียว แต่ประเทศจะเสียหายไปถึงข้างนอก จึงอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจ เพราะคนไทยมีความละเอียดอ่อน จินตนาการสูง เชื่อคนง่าย อ่านข้อความไม่ถึง 3 บรรทัด ยังไม่จบ ก็โพสต์ลงโซเชียลฯแล้ว และ การโพสต์ในบางครั้งก็ไม่ได้รู้เรื่อง แต่ต้องการโพสต์เพื่อด่าลุงตู่ ด่ามันเข้าไป ไม่รู้ว่าเกลียดชังอะไรตนนักหนา และยังไม่รู้ตัวเลยว่าไปทำอะไรให้ใครเจ็บใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึง กองทัพไทย ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติว่า เป็นกองทัพที่ต้องมีศักยภาพ ทั้งคนและเครื่องมือ อุปกรณ์ต้องทันสมัยพอสมควร ถ้าเก่ามาก ก็อายเขา จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าตนอยากซื้อ ถ้ามันไม่ต้องซื้อได้ก็ดี รวมถึงเครื่องบิน ลองไปขึ้นกันดูบ้างสิ เว้นเครื่องบินของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ปลอดภัย แต่เครื่องบินที่มีอยู่ 20-30 ปี ที่ตกกันบ่อยๆ แล้วก็มาเสียใจกัน ทุกคนต้องนึกถึงชีวิตของคนที่ใช้สิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบนบก ทะเล อากาศ บางทีนายสั่งลูกน้องก็ไม่อยากไป เพราะอายเขา เพราะมันเก่าบุโรทั่งมาก วันนี้เราต้องดูส่วนนี้ให้เหมาะสม และจำเป็นจริงๆ แต่ไม่ใช่ซื้อกันเกลื่อน ไม่มีเงินขนาดนั้น ซึ่งเราต้องขายของให้มากขึ้น เวลาใครจะมาขายของ ตนถามว่า คุณจะซื้อของเรามากขึ้นหรือเปล่า ถ้าคุณซื้อสินค้าเกษตรของเรามากขึ้น เราก็จะซื้อเรือของเขามากขึ้น เวลาซื้อเรือลำหนึ่ง เครื่องบินลำหนึ่ง ต้องแลกข้าวหมดไปไม่รู้เท่าไหร่ ตนได้พูดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปด้วยว่าพร้อมซื้อ แต่ขอมีเงินก่อน ก็เป็นการกดดัน ต่อรอง ต่างตอบแทนกันอยู่แบบนี้
นายกฯ กล่าวว่า หลายอย่างอาจเป็นบริบทของโลกในเวลานี้ ดังนั้น กองทัพต้องมีประสิทธิภาพในทุกมิติ เราไม่ได้เตรียมไว้รบอย่างเดียว ต้องเตรียมไว้ฝึกร่วมกับต่างประเทศด้วย หลายคนอาจบอกว่าวันนี้ไม่มีการรบกันแล้ว ซึ่งวันนี้ไม่ได้รบกันแบบขนาดใหญ่ แต่รบกันตามแนวชายแดน ที่มีความขัดแย้ง รบในพื้นที่จำกัด ถ้ารบกันรุนแรงก็จะหยุดเจรจา ถ้าเราหยุดไม่ได้แต่แรก หรือสู้เขาไม่ได้ เขตชายแดนที่เคยเกิดปัญหา ไม่มีทางที่จะต่อรองเขาได้ ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้มีไว้ให้เกิดความเกรงใจ ถ้ารบเราต้องเหนือกว่า ถ้ามันจำเป็น เราไม่ได้อยากรบกับใครอยู่แล้ว ตรงนี้ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาล และกองทัพ ในการดูแลความมั่นคง
นายกฯกล่าวว่า สถานการณ์วันนี้อยากให้ทุกคนช่วยลดความขัดแย้งทางสังคมให้ได้ อะไรที่โพสต์มาไม่น่าสนใจอย่าไปโพสต์ต่อใครจะด่านายกฯ จะชมนายกฯ ตนก็ไม่สนใจ ทางพระสอนไว้แล้วว่า อย่าไปดีใจ เมื่อมีคนรัก อย่าไปเสียใจเมื่อคนไม่ชอบ คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ สาธุ ตนปลงทุกวัน บางทีก็อึดอัดอกจะแตก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ต้องมีความสุขกับการทำงาน ส่วนความทุกข์ก็อีกส่วนหนึ่ง ทั้งนี้กับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งตนมีวันนี้ได้เพราะท่านสอนผมมา ไม่มีใครเข้าใจหรอก ถ้าเราไม่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาแบบผมกับท่าน อยู่ชายแดนมาด้วยกัน ตนก็หนุ่ม ท่านก็หนุ่ม มีความห่วงใยที่ดีให้กัน มีความผูกพันและร่วมชะตากรรมกันมา คนที่ 2 คือ พี่ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ ตนถึงมายืนจุดนี้ ก็พิสูจน์ตัวกันมานาน ท่านก็ไว้ใจผม นอนบ้านเดียวกันมาทั้งหมดความสัมพันธ์นี้มากกว่า 40 ปี ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ หรือตอบแทนอะไรกันทั้งสิ้น