** พลังประชารัฐ คึกคัก ชื่นมื่น เมื่อ "ลุงป้อม" เข้าร่วมประชุมพรรคเป็นครั้งแรก ในฐานะ "ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์" แต่หลังการประชุม คงมีแต่ " 5รัฐมนตรี" ที่ต้องเครียดกว่าใคร เพราะมีการบ้านต้องกลับไปคิด
พรรคพลังประชารัฐ คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ้าของพรรคตัวจริง เข้าร่วมประชุมพรรคเป็นครั้งแรก ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค... บรรดาแกนนำพรรค และส.ส. ต่างยืนเข้าแถวปรบมือต้อนรับ มอบดอกกุหลาบขาว กุหลาบแดง โดยเฉพาะ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ เข้าไปมอบกุหลาบขาว ซึ่ง "ลุงป้อม" ก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง ว่า "เอ๋เหรอ เป็นไง " พร้อมเอามือไปแตะที่หัว ... จากนั้นก็เดินทักทาย ส.ส.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หยอกล้อผู้สื่อข่าว ช่างภาพที่ตามห้อมล้อม ว่าพอแล้ว ..."ผมอยากเห็นหน้าส.ส.ของผมบ้าง วันนี้ตื่นเต้น" ...
ขณะที่ "อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรค เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ พร้อมกล่าวต้อนรับว่า พวกเราอบอุ่นใจขึ้นเป็นพันเท่า ที่ "ลุงป้อม" มาเป็นประธานยุทธศาสตร์ฯ คอยชี้แนะ และเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา... บรรยากาศชื่นมื่นมาก
แต่เมื่อเข้าห้องประชุมแล้ว บรรยากาศ เป็นงานเป็นการก็เริ่มขึ้น เมื่อ "บิ๊กป้อม"พูดให้กำลังใจ ให้ความหวังกับ ผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบตก ว่า อย่าเพิ่มหมดกำลังใจ จะหาตำแหน่ง หางานที่เหมาะสมให้ อย่างเพิ่งย้ายพรรค เลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องได้มากกว่าเดิมแน่ ...
จากนั้นก็พูดถึงเรื่องงานสภาฯ ที่กำลังมีปัญหา เรื่องจำนวนเสียงส.ส.ปริ่มน้ำ ว่าที่ผ่านมาก็ได้ติดตามตลอด จึงขอกำชับให้เข้าประชุมสภาฯ กันให้ครบๆ ส่วนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อย่างพรรคภูมิใจไทย ก็ได้กำชับผ่าน"เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ไปแล้วเช่นกัน ...
และที่ออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ ก็คือ 5 รัฐมนตรี ที่เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เมื่อ "บิ๊กป้อม" พูดเอาไว้ให้เก็บไปคิดว่า การนั่งควบ 2 ตำแหน่ง คือเป็นทั้งรัฐมนตรี และเป็นส.ส.ด้วยนั้น จะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ... นี่ไม่ได้ไล่ แต่อยากให้เอาไปคิดดู ... พูดอย่างนี้ ความหมายก็คือ อยากให้ 5 รัฐมนตรี ลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเลื่อนคนที่อยู่ในบัญชีลำดับถัดไปขึ้นมาเป็นส.ส.แทน เพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ ที่อาจจะทำให้รัฐบาลล้มคว่ำได้ทุกเมื่อ ...
ว่ากันว่า ในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มีข้อตกลงเหมือนเป็น”สัญญาประชาคม”ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า รัฐมนตรี ที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องลาออกจากการเป็นส.ส. ยกเว้นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ...ซึ่งขณะนี้ พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็ได้ทำตามสัญญากันแล้ว จะมีเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ที่ยังไม่ลาออก...
เมื่อไปไล่เรียงดูแล้ว 5 รัฐมนตรี ที่ว่า ประกอบไปด้วย... "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม และ "สันติ พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง ...ก็คงต้องรอดูกันว่า ในวันสองวันนี้ 5 รัฐมนตรี จะตัดสินใจกันอย่างไร...
เรื่องหาจำนวนเสียง ส.ส.มาเติมให้กับรัฐบาลนั้น แม้ "บิ๊กป้อม" จะบอกว่า ยังไม่ได้ติดต่อทาบทามพรรคใดเข้ามาร่วม ... แต่ก็มีข่าวออกมาจาก "นิยม วิวรรธนดิฐกุล" รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า พรรคมีส.ส.อยู่ 6 คน แต่จะมีย้ายข้างไปซบรัฐบาลส่วนหนึ่ง โดยตัวเขา และ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" อดีตหัวหน้าพรรค จะไม่ไปด้วย และจะแถลงข่าวถึงความชัดเจน ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ...เป็นอันว่า ตรงนี้ได้เพิ่มมาแล้วอย่างน้อย 4 เสียง ... เป็นการต้อนรับการเข้ามานั่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ของ"บิ๊กป้อม"
และมีโอกาสจะได้อีก 1 เสียง จาก ส.ส.เขต นครปฐม หลังมีข่าวว่า "นางจุมพิตา จันทรขจร" ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคอนาคตใหม่ ที่ประสบอุบัติเหตุและรักษาตัวอยู่ในเวลานี้จะลาออก ก็ต้องมีการเลือกตั้งกันใหม่... ซึ่งแน่นอนว่า "พลังประชารัฐ" ต้องทุ่มสรรพกำลัง ลงที่จุดนี้ ...นี่ยังไม่รวมถึงว่า หากในอนาคต "พรรคอนาคตใหม่" ถูกยุบพรรคจากหลายๆ เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็มีโอกาสที่ ส.ส.อนาคตใหม่ จะแตกรังเข้ามาอยู่ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลกันบ้างก็ได้
หลังการประชุมพรรค "บิ๊กป้อม" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า ขณะนี้ถือว่าได้เป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว หลังจากนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีกันภายในพรรค ให้พรรคมีความเข้มแข็ง เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ "พลังประชารัฐ" จะต้องได้ส.ส.มากกว่าครั้งนี้ ที่ได้มา 116 เสียง และหวังไว้ในใจลึกๆ คือ ควรจะได้เกินครึ่งสภาฯ ... แต่ตอนนี้ภารกิจหลักคือ นำพารัฐบาลนี้ให้อยู่ครบวาระ 4 ปี
ในความชื่นมื่นของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กับบรรยากาศ ที่ "ลุงป้อม" เข้าพรรคครั้งนี้ ...คงมีแต่ "5 รัฐมนตรี" ที่ต้องคิดหนัก กับการบ้านที่"ลุงป้อม"ฝากไว้...
**กรรม"เสือดำ"ไล่ล่า "เจ้าสัวเปรมชัย" กับเงื่อนไข ขอบวช 15 วัน-บริจาคเงิน 3 ล้าน-ไม่ยุ่งเกี่ยวกับปืนตลอดชีวิต ไถ่บาป! หลังถูกพิพากษาคดีครอบครองปืนจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา
วิบากกรรมจากผลคดี "เสือดำ" ของ "เจ้าสัว เปรมชัย กรรณสูต" ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ยังคงไล่ล่ามาอีกชุด ... ครานี้เป็นคดีครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ขยายผลจากคดีเสือดำ นำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักเจ้าสัวเปรมชัย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และก็พบอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาต
ศาลพิพากษาว่า "เจ้าสัวเปรมชัย" มีความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจริงตามฟ้อง แต่จำเลยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีความสุจริต มั่นคง มีโรคประจำตัว และไม่เคยต้องโทษร้ายแรงมาก่อน เคยทำคุณงามความดีให้กับสาธารณประโยชน์ และอาวุธปืนของกลาง เป็นมรดกที่ได้รับจากบิดา ก็ไม่ปรากฏว่าจะนำเอาอาวุธปืนไปประกอบอาชญากรรม
ศาลจึงพิพากษาลงโทษสถานเบา ให้จำคุก 1 ปี แต่ "เจ้าสัวเปรมชัย" รับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเคยถูกศาลลงโทษ ไปก่อนหน้านี้ ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มาแล้ว...
ว่ากันว่า ทนายของ"เจัาสัวเปรมชัย"ได้ขอให้ลงโทษสถานเบา และชะลอการลงโทษ โดยมีข้อเสนอ 3 ข้อ ว่า เจ้าสัวยักษ์ใหญ่ก่อสร้างจะไถ่บาป ด้วยการ หนึ่ง ขออุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล... สอง บริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 3 ล้านบาท ภายใน 1 ปี เพื่อการสาธารณประโยชน์ และ สาม จะไม่ข้องเกี่ยวกับอาวุธปืนตลอดชีวิต...
ศาลเห็นว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และขอให้จำเลยทำต่อไป โดยจำเลยสามารถนำไปใช้แสดงต่อศาลในชั้นอุทธรณ์ได้ ... จากนั้นทนายของเจ้าสัวเปรมชัย ได้ยื่นขอประกันตัว โดยมีวงเงินเดิมจากการประกันตัวในคดีล่าเสือดำ และคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน เป็น 2 แสนบาท ซึ่งครั้งนี้ศาลอนุมัติให้ประกันตัว โดยให้เพิ่มวงเงิน 3 แสนบาท รวมเป็น 5 แสนบาท...
อิสระภาพที่ต้องแลกของเจ้าสัวก็มีด้วยประการฉะนี้
รูป - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์- สมศักดิ์ เทพสุทิน- สันติ พร้อมพัฒน์
-เปรมชัย กรรณสูต
พรรคพลังประชารัฐ คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เจ้าของพรรคตัวจริง เข้าร่วมประชุมพรรคเป็นครั้งแรก ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค... บรรดาแกนนำพรรค และส.ส. ต่างยืนเข้าแถวปรบมือต้อนรับ มอบดอกกุหลาบขาว กุหลาบแดง โดยเฉพาะ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ เข้าไปมอบกุหลาบขาว ซึ่ง "ลุงป้อม" ก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง ว่า "เอ๋เหรอ เป็นไง " พร้อมเอามือไปแตะที่หัว ... จากนั้นก็เดินทักทาย ส.ส.ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หยอกล้อผู้สื่อข่าว ช่างภาพที่ตามห้อมล้อม ว่าพอแล้ว ..."ผมอยากเห็นหน้าส.ส.ของผมบ้าง วันนี้ตื่นเต้น" ...
ขณะที่ "อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรค เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ พร้อมกล่าวต้อนรับว่า พวกเราอบอุ่นใจขึ้นเป็นพันเท่า ที่ "ลุงป้อม" มาเป็นประธานยุทธศาสตร์ฯ คอยชี้แนะ และเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา... บรรยากาศชื่นมื่นมาก
แต่เมื่อเข้าห้องประชุมแล้ว บรรยากาศ เป็นงานเป็นการก็เริ่มขึ้น เมื่อ "บิ๊กป้อม"พูดให้กำลังใจ ให้ความหวังกับ ผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบตก ว่า อย่าเพิ่มหมดกำลังใจ จะหาตำแหน่ง หางานที่เหมาะสมให้ อย่างเพิ่งย้ายพรรค เลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องได้มากกว่าเดิมแน่ ...
จากนั้นก็พูดถึงเรื่องงานสภาฯ ที่กำลังมีปัญหา เรื่องจำนวนเสียงส.ส.ปริ่มน้ำ ว่าที่ผ่านมาก็ได้ติดตามตลอด จึงขอกำชับให้เข้าประชุมสภาฯ กันให้ครบๆ ส่วนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อย่างพรรคภูมิใจไทย ก็ได้กำชับผ่าน"เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ไปแล้วเช่นกัน ...
และที่ออกอาการหนาวๆ ร้อนๆ ก็คือ 5 รัฐมนตรี ที่เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เมื่อ "บิ๊กป้อม" พูดเอาไว้ให้เก็บไปคิดว่า การนั่งควบ 2 ตำแหน่ง คือเป็นทั้งรัฐมนตรี และเป็นส.ส.ด้วยนั้น จะเป็นอุปสรรคในการทำงานหรือไม่ ... นี่ไม่ได้ไล่ แต่อยากให้เอาไปคิดดู ... พูดอย่างนี้ ความหมายก็คือ อยากให้ 5 รัฐมนตรี ลาออกจาก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเลื่อนคนที่อยู่ในบัญชีลำดับถัดไปขึ้นมาเป็นส.ส.แทน เพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ ที่อาจจะทำให้รัฐบาลล้มคว่ำได้ทุกเมื่อ ...
ว่ากันว่า ในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาลนั้น มีข้อตกลงเหมือนเป็น”สัญญาประชาคม”ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า รัฐมนตรี ที่เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ จะต้องลาออกจากการเป็นส.ส. ยกเว้นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ...ซึ่งขณะนี้ พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็ได้ทำตามสัญญากันแล้ว จะมีเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ที่ยังไม่ลาออก...
เมื่อไปไล่เรียงดูแล้ว 5 รัฐมนตรี ที่ว่า ประกอบไปด้วย... "ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ" รมว.ศึกษาธิการ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.อุตสาหกรรม "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รมว.ยุติธรรม และ "สันติ พร้อมพัฒน์" รมช.คลัง ...ก็คงต้องรอดูกันว่า ในวันสองวันนี้ 5 รัฐมนตรี จะตัดสินใจกันอย่างไร...
เรื่องหาจำนวนเสียง ส.ส.มาเติมให้กับรัฐบาลนั้น แม้ "บิ๊กป้อม" จะบอกว่า ยังไม่ได้ติดต่อทาบทามพรรคใดเข้ามาร่วม ... แต่ก็มีข่าวออกมาจาก "นิยม วิวรรธนดิฐกุล" รองหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า พรรคมีส.ส.อยู่ 6 คน แต่จะมีย้ายข้างไปซบรัฐบาลส่วนหนึ่ง โดยตัวเขา และ "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" อดีตหัวหน้าพรรค จะไม่ไปด้วย และจะแถลงข่าวถึงความชัดเจน ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ ...เป็นอันว่า ตรงนี้ได้เพิ่มมาแล้วอย่างน้อย 4 เสียง ... เป็นการต้อนรับการเข้ามานั่งประธานยุทธศาสตร์ฯ ของ"บิ๊กป้อม"
และมีโอกาสจะได้อีก 1 เสียง จาก ส.ส.เขต นครปฐม หลังมีข่าวว่า "นางจุมพิตา จันทรขจร" ส.ส.นครปฐม เขต 5 พรรคอนาคตใหม่ ที่ประสบอุบัติเหตุและรักษาตัวอยู่ในเวลานี้จะลาออก ก็ต้องมีการเลือกตั้งกันใหม่... ซึ่งแน่นอนว่า "พลังประชารัฐ" ต้องทุ่มสรรพกำลัง ลงที่จุดนี้ ...นี่ยังไม่รวมถึงว่า หากในอนาคต "พรรคอนาคตใหม่" ถูกยุบพรรคจากหลายๆ เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็มีโอกาสที่ ส.ส.อนาคตใหม่ จะแตกรังเข้ามาอยู่ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลกันบ้างก็ได้
หลังการประชุมพรรค "บิ๊กป้อม" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า ขณะนี้ถือว่าได้เป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว หลังจากนี้จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีกันภายในพรรค ให้พรรคมีความเข้มแข็ง เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ "พลังประชารัฐ" จะต้องได้ส.ส.มากกว่าครั้งนี้ ที่ได้มา 116 เสียง และหวังไว้ในใจลึกๆ คือ ควรจะได้เกินครึ่งสภาฯ ... แต่ตอนนี้ภารกิจหลักคือ นำพารัฐบาลนี้ให้อยู่ครบวาระ 4 ปี
ในความชื่นมื่นของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กับบรรยากาศ ที่ "ลุงป้อม" เข้าพรรคครั้งนี้ ...คงมีแต่ "5 รัฐมนตรี" ที่ต้องคิดหนัก กับการบ้านที่"ลุงป้อม"ฝากไว้...
**กรรม"เสือดำ"ไล่ล่า "เจ้าสัวเปรมชัย" กับเงื่อนไข ขอบวช 15 วัน-บริจาคเงิน 3 ล้าน-ไม่ยุ่งเกี่ยวกับปืนตลอดชีวิต ไถ่บาป! หลังถูกพิพากษาคดีครอบครองปืนจำคุก 6 เดือนไม่รอลงอาญา
วิบากกรรมจากผลคดี "เสือดำ" ของ "เจ้าสัว เปรมชัย กรรณสูต" ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ยังคงไล่ล่ามาอีกชุด ... ครานี้เป็นคดีครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่ขยายผลจากคดีเสือดำ นำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักเจ้าสัวเปรมชัย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และก็พบอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาต
ศาลพิพากษาว่า "เจ้าสัวเปรมชัย" มีความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจริงตามฟ้อง แต่จำเลยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีความสุจริต มั่นคง มีโรคประจำตัว และไม่เคยต้องโทษร้ายแรงมาก่อน เคยทำคุณงามความดีให้กับสาธารณประโยชน์ และอาวุธปืนของกลาง เป็นมรดกที่ได้รับจากบิดา ก็ไม่ปรากฏว่าจะนำเอาอาวุธปืนไปประกอบอาชญากรรม
ศาลจึงพิพากษาลงโทษสถานเบา ให้จำคุก 1 ปี แต่ "เจ้าสัวเปรมชัย" รับสารภาพ จึงลดโทษเหลือจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเคยถูกศาลลงโทษ ไปก่อนหน้านี้ ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มาแล้ว...
ว่ากันว่า ทนายของ"เจัาสัวเปรมชัย"ได้ขอให้ลงโทษสถานเบา และชะลอการลงโทษ โดยมีข้อเสนอ 3 ข้อ ว่า เจ้าสัวยักษ์ใหญ่ก่อสร้างจะไถ่บาป ด้วยการ หนึ่ง ขออุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล... สอง บริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 3 ล้านบาท ภายใน 1 ปี เพื่อการสาธารณประโยชน์ และ สาม จะไม่ข้องเกี่ยวกับอาวุธปืนตลอดชีวิต...
ศาลเห็นว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และขอให้จำเลยทำต่อไป โดยจำเลยสามารถนำไปใช้แสดงต่อศาลในชั้นอุทธรณ์ได้ ... จากนั้นทนายของเจ้าสัวเปรมชัย ได้ยื่นขอประกันตัว โดยมีวงเงินเดิมจากการประกันตัวในคดีล่าเสือดำ และคดีติดสินบนเจ้าพนักงาน เป็น 2 แสนบาท ซึ่งครั้งนี้ศาลอนุมัติให้ประกันตัว โดยให้เพิ่มวงเงิน 3 แสนบาท รวมเป็น 5 แสนบาท...
อิสระภาพที่ต้องแลกของเจ้าสัวก็มีด้วยประการฉะนี้
รูป - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ - สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ - พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์- สมศักดิ์ เทพสุทิน- สันติ พร้อมพัฒน์
-เปรมชัย กรรณสูต