xs
xsm
sm
md
lg

จีดีพีQ2ต่ำสุด5ปี คลังชงกระตุ้นศก. 3.16 แสนล้าน ดันทั้งปีโตตามเป้า 3%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน 360-"สภาพัฒน์"เผยจีดีพีไตรมาส 2/62 โต 2.3% ต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี พร้อมปรับลดจีดีพีปี 62 ใหม่ เหลือโตแค่ 3% เหตุสงครามการค้าฉุดส่งออกติดลบ การบริโภค การท่องเที่ยวซบ "อุตตม" เข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้านบาท เข้า ครม. วันนี้ มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.55-0.56% ดันจีดีพีปีนี้โตตามเป้าที่ 3% ด้านแบงก์ชาติเล็งปรับคาดการณ์จีดีพีในเดือนก.ย.นี้

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2/62 ขยายตัว 2.3% ซึ่งเป็นการเติบโตต่ำสุดในรอบ 19 ไตรมาส หรือในรอบเกือบ 5 ปี ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/57 และเป็นการชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/62 ที่ขยายตัว 2.8% ส่งผลให้จีดีพีครึ่งปีแรก 2562 ขยายตัว 2.6% หลังจากส่งออกติดลบ 4.2% เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้การบริโภคชะลอตัว รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยวขยายตัวต่ำ

พร้อมกันนี้ สศช.ได้ปรับลดประมาณจีดีพีปี 2562 ใหม่ เหลือขยายตัว 3% หรือเติบโตในช่วง 2.7-3.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.6% หรือเติบโตในช่วง 3.3-3.8% และคาดจะขยายตัว 3.5% ในปี 2563

"เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน กระตุ้นการบริโภค การผลักดันการส่งออก การสนับสนุนการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังขยายตัวได้ 3.4% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยรวมทั้งปี 2562 โตได้ 3% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้"นายทศพรกล่าว

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 3% แม้สภาพัฒน์ประกาศจีดีพีไตรมาส 2/62 ขยายตัวที่ 2.3% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และเป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตต่อไปได้

โดยในวันนี้ (20 ส.ค.) กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 มาตรการ ได้แก่ 1.ช่วยเหลือค่าครองชีพ ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2.บรรเทาค่าครองชีพสำหรับเกษตรกรผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง และ 3.กระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ หาก ครม. เห็นชอบตามวงเงินที่เสนอ 3.16 แสนล้านบาท จะช่วยกระตุ้นจีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.55-0.56% ทำให้มั่นใจจีดีพีของไทยปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

"มั่นใจ ครม. จะให้ความเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะได้ผ่านการกลั่นกรองของ ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมาแล้ว เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจะเร่งดำเนินการภายในปลายเดือนส.ค.นี้ หรือต้นก.ย. เพื่อให้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบให้เร็วที่สุด ซึ่งจะมีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายอุตตมกล่าว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในเดือนก.ย.นี้ ธปท.จะพิจารณาปรับลดจีดีพี ปี 2562 ใหม่ เนื่องจากมาตรการการกีดดันทางการค้าที่ยังรุนแรงและยืดเยื้อยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกรุนแรงขึ้น หลังจากเมื่อเดือนมิ.ย.ได้ปรับคาดการณ์จีดีพีของปี 2562 ลงมาที่ 3.3% จากต้นปีคาดโต 3.8% ส่วนเงินบาทแข็งค่า ธปท. ได้พยายามลดแรงกระแทก มีมาตรการสกัดการเก็งกำไร และเปิดเสรีให้คนนำเงินออกไปลงทุนมากขึ้น เช่น ไปซื้อโรงงาน โดยคาดว่าความผันผวนของเงินบาทจะยังคงมีมากขึ้น ซึ่งต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินสกุลท้องถิ่นทำการค้า ทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และใช้บัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น