ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก 30.41 จุด สอดคล้องตลาดหุ้นเอเชียที่ติดลบกันถ้วนหน้า เหตุนักลงทุนกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน และประท้วงในฮ่องกงยืดเยื้อบานปลาย ด้านปตท. แจ้งครึ่งปีแรกกำไร 5.5 หมื่นล้าน ลดลงจากปีก่อนเกือบ 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่สถานการณ์ในฮ่องกงพวกผู้ประท้วงจำนวนมากบุกเข้าไปในท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงอีกในวันอังคาร (13 ส.ค.) ทำให้การปฏิบัติงานในสนามบินกลายเป็นอัมพาตอย่างร้ายแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่สื่อของปักกิ่งปล่อยคลิปกองกำลังความมั่นคงจีนยกเข้ามาประชิด
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (13 ส.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างแรง จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่บานปลาย และสถาการณ์การประท้วงปิดสนามบินในฮ่องกง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,620.23 จุด ลดลง 30.41 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.84% มูลค่าซื้อขาย 64,186.02 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,644.15 จุด ต่ำสุด 1,619.03 จุด นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิกว่า 3,395.21 ล้านบาท
โดยหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ PTT ราคาปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.82% มูลค่าการซื้อขาย 4,393.20 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.87% มูลค่า 4,382.82 ล้านบาท และ AOT ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.58% มูลค่า 3,139.07 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญในภูมิภาคเอเชีย ต่างปรับตัวลดลงเช่นกัน อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 25,281.30 จุด ลดลง 543.42 จุด หรือ 2.10% ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 20,455.44 จุด ลดลง 229.38 จุด หรือ 1.11% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนปรับตัวลดลง 17.73 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 2,797.26 จุด
ด้านบมจ. ปตท. ได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 บริษัทมีกำไรสุทธิ 25,938 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30,028 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 55,250 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 69,816 ล้านบาท
ผู้ประท้วงปิดสนามบินฮ่องกงเป็นวันที่ 2
ขณะที่สถานการณ์ภายในฮ่องกง ภายหลังสถานการณ์ทำท่ากระเตื้องคืนดีเป็นช่วงสั้นๆ ในตอนเช้าวันอังคาร (13) โดยมีหลายเที่ยวบินสามารถขึ้นและลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงได้ ถึงแม้มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปเป็นร้อยเที่ยวเช่นกัน แต่พอถึงช่วงบ่าย พวกผู้ประท้วงหลายพันคนที่สวมเสื้อยืดสีดำเป็นสัญลักษณ์ ได้กลับเข้ามาชุมนุมนั่งประท้วงในห้องโถงผู้โดยสารขาออก รวมทั้งนำเอารถเข็นกระเป๋าของสนามบินมาทำเป็นเครื่องกีดขวาง ปิดกั้นไม่ให้บรรดาผู้โดยสารเดินเข้าไปยังประตูตรวจเช็กความปลอดภัยได้
จนถึงเวลา 16.30 น. ผู้รับผิดชอบการท่าอากาศยานก็ได้ออกประกาศระงับบริการเช็กอินสำหรับเที่ยวบินขาออกที่ยังเหลืออยู่ ขณะที่เที่ยวบินซึ่งเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ไปแล้วจะยังคงดำเนินการต่อ
การท่าอากาศยานระบุว่าไม่คาดหมายว่าเที่ยวบินขาเข้าจะได้รับความกระทบกระเทือนใดๆ ถึงแม้มีอยู่หลายสิบเที่ยวบินได้ประกาศยกเลิกไปแล้ว นอกจากนั้น การท่าอากาศยานยังแนะนำประชาชนว่าอย่าได้เดินทางเข้ามายังสนามบินฮ่องกง ซึ่งเป็นฮับคมนาคมขนส่งที่แออัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ถึงแม้มีผู้เดินทางบางส่วนแสดงความเห็นอกเห็นใจการต่อสู้ของกลุ่มผู้ประท้วง แต่ก็ได้เกิดเหตุปะทะกันหลายครั้งระหว่างผู้ประท้วงกับพวกนักเดินทางซึ่งขอร้องวิงวอนให้พวกตนสามารถผ่านออกไปขึ้นเครื่องบินได้
ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงมีความไม่พอใจพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงของตำรวจ โดยเฉพาะจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ไปกว้างขวาง ซึ่งถูกระบุว่าตำรวจใช้ปืนปราบจลาจล บรรจุกระสุนที่เรียกว่า กระสุนถุงตะกั่ว ยิงใส่ผู้ประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วโดนใบหน้าของหญิงผู้ประท้วงคนหนึ่ง ตำรวจระบุว่ากำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้ แต่ผู้ประท้วงต่างระบุว่าหญิงผู้นี้บาดเจ็บถึงขั้นเสียตาข้างหนึ่ง
สื่อแพร่คลิปทหารจีนเตรียมพร้อมที่เซินเจิ้น
แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตบรหารพิเศษฮ่องกง แถลงข่าวว่า สถานการณ์รุนแรงที่ดำเนินอยู่กำลังผลักดันให้ฮ่องกงไปถึงจุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ซึ่งอันตรายและน่าเป็นห่วงมาก และสถานการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้เธอกังวลอย่างยิ่งว่า ฮ่องกงไปถึงจุดนั้นแล้ว
ลัม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่ง เรียกร้องให้ผู้ประท้วงหยุดและตรึกตรองว่า ต้องการให้ประเทศดำดิ่งสู่สถานการณ์อันตรายนั้นจริงหรือไม่ กระนั้น เธอยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องต่างๆ ของผู้ประท้วง
ในอีกด้านหนึ่ง ทางการจีนก็แสดงอาการหมดความอดทนมากขึ้นทุกขณะ โดยวันจันทร์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปักกิ่งซึ่งรับผิดชอบกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ได้ประณามผู้ประท้วงที่ขว้างระเบิดขวดน้ำมันใส่ตำรวจและเชื่อมโยงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นสัญญาณการปรากฏขึ้นมาของการก่อการร้าย
ต่อมาในวันอังคาร(13) สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนเรียกผู้ประท้วงว่า “แก๊งวายร้าย” และเตือนว่า ข้อเรียกร้องของคนเหล่านั้นจะไม่มีวันได้รับการตอบสนอง พร้อมทั้งส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นว่า กองกำลังความมั่นคงของแผ่นดินใหญ่อาจเข้าแทรกแซงเพื่อยุติการประท้วง
บทความของซินหวาเตือนด้วยว่า กลุ่มหัวรุนแรงกำลังผลักฮ่องกงตกหุบเหว
วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี)โพสต์คลิปบนเว็บไซต์เว่ยโป๋ พร้อมเสียงผู้บรรยายเตือนว่า “จะไม่มีการออมมือเด็ดขาดเมื่อต้องจัดการกับการก่อการร้าย” โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นทหารและรถหุ้มเกราะของจีนประจำอยู่ที่ชายแดนเมืองเซินเจิ้น ที่อยู่ติดกับฮ่องกง
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (13 ส.ค.) ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างแรง จากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่บานปลาย และสถาการณ์การประท้วงปิดสนามบินในฮ่องกง ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,620.23 จุด ลดลง 30.41 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.84% มูลค่าซื้อขาย 64,186.02 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,644.15 จุด ต่ำสุด 1,619.03 จุด นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิกว่า 3,395.21 ล้านบาท
โดยหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ PTT ราคาปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.82% มูลค่าการซื้อขาย 4,393.20 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.87% มูลค่า 4,382.82 ล้านบาท และ AOT ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.58% มูลค่า 3,139.07 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นสำคัญในภูมิภาคเอเชีย ต่างปรับตัวลดลงเช่นกัน อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 25,281.30 จุด ลดลง 543.42 จุด หรือ 2.10% ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 20,455.44 จุด ลดลง 229.38 จุด หรือ 1.11% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนปรับตัวลดลง 17.73 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 2,797.26 จุด
ด้านบมจ. ปตท. ได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 บริษัทมีกำไรสุทธิ 25,938 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30,028 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิ 55,250 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 69,816 ล้านบาท
ผู้ประท้วงปิดสนามบินฮ่องกงเป็นวันที่ 2
ขณะที่สถานการณ์ภายในฮ่องกง ภายหลังสถานการณ์ทำท่ากระเตื้องคืนดีเป็นช่วงสั้นๆ ในตอนเช้าวันอังคาร (13) โดยมีหลายเที่ยวบินสามารถขึ้นและลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงได้ ถึงแม้มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปเป็นร้อยเที่ยวเช่นกัน แต่พอถึงช่วงบ่าย พวกผู้ประท้วงหลายพันคนที่สวมเสื้อยืดสีดำเป็นสัญลักษณ์ ได้กลับเข้ามาชุมนุมนั่งประท้วงในห้องโถงผู้โดยสารขาออก รวมทั้งนำเอารถเข็นกระเป๋าของสนามบินมาทำเป็นเครื่องกีดขวาง ปิดกั้นไม่ให้บรรดาผู้โดยสารเดินเข้าไปยังประตูตรวจเช็กความปลอดภัยได้
จนถึงเวลา 16.30 น. ผู้รับผิดชอบการท่าอากาศยานก็ได้ออกประกาศระงับบริการเช็กอินสำหรับเที่ยวบินขาออกที่ยังเหลืออยู่ ขณะที่เที่ยวบินซึ่งเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ไปแล้วจะยังคงดำเนินการต่อ
การท่าอากาศยานระบุว่าไม่คาดหมายว่าเที่ยวบินขาเข้าจะได้รับความกระทบกระเทือนใดๆ ถึงแม้มีอยู่หลายสิบเที่ยวบินได้ประกาศยกเลิกไปแล้ว นอกจากนั้น การท่าอากาศยานยังแนะนำประชาชนว่าอย่าได้เดินทางเข้ามายังสนามบินฮ่องกง ซึ่งเป็นฮับคมนาคมขนส่งที่แออัดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ถึงแม้มีผู้เดินทางบางส่วนแสดงความเห็นอกเห็นใจการต่อสู้ของกลุ่มผู้ประท้วง แต่ก็ได้เกิดเหตุปะทะกันหลายครั้งระหว่างผู้ประท้วงกับพวกนักเดินทางซึ่งขอร้องวิงวอนให้พวกตนสามารถผ่านออกไปขึ้นเครื่องบินได้
ขณะเดียวกัน ผู้ประท้วงมีความไม่พอใจพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงของตำรวจ โดยเฉพาะจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ไปกว้างขวาง ซึ่งถูกระบุว่าตำรวจใช้ปืนปราบจลาจล บรรจุกระสุนที่เรียกว่า กระสุนถุงตะกั่ว ยิงใส่ผู้ประท้วงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วโดนใบหน้าของหญิงผู้ประท้วงคนหนึ่ง ตำรวจระบุว่ากำลังสอบสวนเหตุการณ์นี้ แต่ผู้ประท้วงต่างระบุว่าหญิงผู้นี้บาดเจ็บถึงขั้นเสียตาข้างหนึ่ง
สื่อแพร่คลิปทหารจีนเตรียมพร้อมที่เซินเจิ้น
แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตบรหารพิเศษฮ่องกง แถลงข่าวว่า สถานการณ์รุนแรงที่ดำเนินอยู่กำลังผลักดันให้ฮ่องกงไปถึงจุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ซึ่งอันตรายและน่าเป็นห่วงมาก และสถานการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้เธอกังวลอย่างยิ่งว่า ฮ่องกงไปถึงจุดนั้นแล้ว
ลัม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่ง เรียกร้องให้ผู้ประท้วงหยุดและตรึกตรองว่า ต้องการให้ประเทศดำดิ่งสู่สถานการณ์อันตรายนั้นจริงหรือไม่ กระนั้น เธอยังคงปฏิเสธข้อเรียกร้องต่างๆ ของผู้ประท้วง
ในอีกด้านหนึ่ง ทางการจีนก็แสดงอาการหมดความอดทนมากขึ้นทุกขณะ โดยวันจันทร์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปักกิ่งซึ่งรับผิดชอบกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ได้ประณามผู้ประท้วงที่ขว้างระเบิดขวดน้ำมันใส่ตำรวจและเชื่อมโยงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นสัญญาณการปรากฏขึ้นมาของการก่อการร้าย
ต่อมาในวันอังคาร(13) สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนเรียกผู้ประท้วงว่า “แก๊งวายร้าย” และเตือนว่า ข้อเรียกร้องของคนเหล่านั้นจะไม่มีวันได้รับการตอบสนอง พร้อมทั้งส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นว่า กองกำลังความมั่นคงของแผ่นดินใหญ่อาจเข้าแทรกแซงเพื่อยุติการประท้วง
บทความของซินหวาเตือนด้วยว่า กลุ่มหัวรุนแรงกำลังผลักฮ่องกงตกหุบเหว
วันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี)โพสต์คลิปบนเว็บไซต์เว่ยโป๋ พร้อมเสียงผู้บรรยายเตือนว่า “จะไม่มีการออมมือเด็ดขาดเมื่อต้องจัดการกับการก่อการร้าย” โดยคลิปดังกล่าวเผยให้เห็นทหารและรถหุ้มเกราะของจีนประจำอยู่ที่ชายแดนเมืองเซินเจิ้น ที่อยู่ติดกับฮ่องกง