วานนี้ (11 ส.ค.) เพจ "ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 28 วินาที เผยให้เห็นน้ำป่าในพื้นที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ไหลลงมาอย่างรุนแรง หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ (10 ส.ค.)ที่ผ่านมา จึงอยากจะฝากไปถึงประชาชนบริเวณดังกล่าว โปรดระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัย และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและเตือนนักท่องเที่ยว แต่ยังสามารถเข้าท่องเที่ยวได้เพราะยังสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นสั่งปิด เพียงแต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ และสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ก็ให้เข้าช่วยเหลือทันที
ด้านนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้รายงานเข้ามาว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีฝนตกชุกเป็นระยะเวลาหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมาก และเกิดน้ำป่าไหลหลาก บริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกต่างๆไม่ว่า จะเป็นน้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ และน้ำตกวชิรธาร
วัดปริมาณน้ำฝนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.31) 190 มม. บริเวณกิ่วแม่ปาน 195 มม. บริเวณยอดดอยอินทนนท์ 191 มม. บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ อน.1 (แม่กลาง) 65 มม. บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ อน.2 (แม่แจ่ม) 130 มม. และบริเวณด่านตรวจฯ จุดที่ 5 (ขุนวาง) 140 มม. โดยเฉลี่ย ประมาณ 152 มม.
ส่วนสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตาก นายภควัต ขันธหิรัญ นายอำเภออุ้มผาง จ.ตาก ได้รับแจ้งว่า มีเหตุต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงหักหลายต้น ล้มทับถนนสาย แม่สอด- อุ้มผาง หมายเลขเส้นทาง 1090 เขต ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก หลังได้รับแจ้ง จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภออุ้มผาง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 องค์การบริหารส่วนตำบลโมโกร เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.1412 ประจำฐานบ้านตะปู
ที่เกิดเหตุพบต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงหักหลายต้น รวมถึงดินสไลด์ ทับถนนสายดังกล่าว 2 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 หลักกิโลเมตร ที่ 119 จุดที่ 2 หลักกิโลเมตรที่ 117 ส่วนรถทั้งสองฝั่ง ทั้งขาเข้าแม่สอดและอุ้มผาง ไม่สามารถสัญจรวิ่งผ่านได้ โดยเจ้าหน้าที่ ช่วยกันนำเลื่อยยนต์ ไปตัดต้นไม้ที่โค่นขวางถนนเพื่อเคลียร์พื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จึงสามารถให้รถวิ่งผ่านได้ ตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภออุ้มผาง เร่งซ่อมแซมสายไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย ต้องใช้หลายชั่วโมง จึงจะสามารถเคลียร์ได้ทุกพื้นที่
นายภควัต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอำเภออุ้มผาง ได้สั่งการให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนปกครองท้องถิ่น ทุกหมู่บ้านและตำบล ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นในพื้นที่และสถานการณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา นิยม อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.
ด้านนายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้รายงานเข้ามาว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีฝนตกชุกเป็นระยะเวลาหลายวัน ทำให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมมาก และเกิดน้ำป่าไหลหลาก บริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกต่างๆไม่ว่า จะเป็นน้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ และน้ำตกวชิรธาร
วัดปริมาณน้ำฝนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.31) 190 มม. บริเวณกิ่วแม่ปาน 195 มม. บริเวณยอดดอยอินทนนท์ 191 มม. บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ อน.1 (แม่กลาง) 65 มม. บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ อน.2 (แม่แจ่ม) 130 มม. และบริเวณด่านตรวจฯ จุดที่ 5 (ขุนวาง) 140 มม. โดยเฉลี่ย ประมาณ 152 มม.
ส่วนสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตาก นายภควัต ขันธหิรัญ นายอำเภออุ้มผาง จ.ตาก ได้รับแจ้งว่า มีเหตุต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงหักหลายต้น ล้มทับถนนสาย แม่สอด- อุ้มผาง หมายเลขเส้นทาง 1090 เขต ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก หลังได้รับแจ้ง จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภออุ้มผาง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 347 องค์การบริหารส่วนตำบลโมโกร เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.1412 ประจำฐานบ้านตะปู
ที่เกิดเหตุพบต้นไม้ขนาดใหญ่ ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงหักหลายต้น รวมถึงดินสไลด์ ทับถนนสายดังกล่าว 2 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 หลักกิโลเมตร ที่ 119 จุดที่ 2 หลักกิโลเมตรที่ 117 ส่วนรถทั้งสองฝั่ง ทั้งขาเข้าแม่สอดและอุ้มผาง ไม่สามารถสัญจรวิ่งผ่านได้ โดยเจ้าหน้าที่ ช่วยกันนำเลื่อยยนต์ ไปตัดต้นไม้ที่โค่นขวางถนนเพื่อเคลียร์พื้นที่ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จึงสามารถให้รถวิ่งผ่านได้ ตามปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภออุ้มผาง เร่งซ่อมแซมสายไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย ต้องใช้หลายชั่วโมง จึงจะสามารถเคลียร์ได้ทุกพื้นที่
นายภควัต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอำเภออุ้มผาง ได้สั่งการให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส่วนปกครองท้องถิ่น ทุกหมู่บ้านและตำบล ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นในพื้นที่และสถานการณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา นิยม อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.