ข่าวปนคน คนปนข่าว
** โอ้โห "ก๊วนลูกกรอก" คิดการใหญ่ "ณัฏฐพล" เตรียมส่งเมียรัก "ทยา" ชิงผู้ว่าฯกทม. หลังผู้ไม่หวังดีเตะตัดขาผู้ว่าฯ"ณรงค์ศักดิ์" หลุดวงโคจร
ต้องนับว่าไม่ธรรมดาสำหรับ "ก๊วนลูกกรอก" รอบตัว "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังได้ดิบได้ดี นั่งว่าการรัฐมนตรีหลายกระทรวง หลังจากโยกย้ายจาก "ประชาธิปัตย์" มาสร้างรังให้กับ "ลุงตู่" จนได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้รู้ทั้งรู้ว่า ชัยชนะในหลายจังหวัดนั้น มาจากบารมีของลุงตู่เอง ที่มีทั้ง "กระสุน" และ"อำนาจ" เต็มมือ แต่ก๊วนลูกกรอก ก็ยังได้เครดิตไปไม่น้อย ตั้งตัวเป็น "กุนซือพรรคพลังประชารัฐ" กลายเป็น "น้องรัก" ของลุงตู่ไปแล้ว
หลังจากคว้าเก้าอี้รัฐมนตรี เป็น "มือใหม่หัดขับ" ถึง 2 ตำแหน่ง ในกระทรวงสำคัญที่เป็น "มันสมอง" ของประเทศ อย่างกระทรวงศึกษาธิการ ที่ "เสี่ยตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้นั่งว่าการ และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ "เสี่ยบี" พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้ไป นี่ถ้ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ป่านนี้ยังต่อท้ายแถวใครอีกหลายคน เพราะบารมียังไม่ถึง แต่วันนี้ "บุญมีกรรมไม่บัง" ก็ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันเป็นการสมนาคุณ
ยัง ยังไม่พอ... ข่าวว่า ทีแรกมีทีท่าว่าจะผลักดัน "เสี่ยจั้ม" สกลธี ภัททิยกุล มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. หลังจากก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ผู้ว่าฯถ้ำหลวง "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" จะมาสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ลงสู้ศึก ตอนมีข่าว คนเขาซี้ดปากกันลั่น ว่ามันแน่ๆ เพราะน่าจะเป็นคนที่ต่อสู้กับ คนที่ "แกร่งสุดในปฐพี" อย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ของฝั่งเพื่อไทยได้ แต่แล้วมี "ผู้ไม่หวังดี" เตะตัดขา ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ตั้งแต่ไก่โห่ ลื่นไถลหกคะเมนไปแล้ว ... แล้วเขาว่ากันว่า ถึงตอนนี้เปลี่ยนจาก "เสี่ยจั้ม" เป็นคนใหม่แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เมียรักของ "ณัฏฐพล" เสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการ "ทยา ทีปสุวรรณ" นั่นแหละ
จะว่าก๊วนลูกกรอกคิดการใหญ่ ก็ใช่ แต่เพราะมั่นหมายว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นสถาบันทางการเมืองแบบพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องยึดครองพื้นที่กทม. เพื่อสร้างฐานการเมืองให้ได้ ส่วนเมียรัก จะมีบุญบารมี หรือความสามารถถึงไหมไม่รู้ว่าคิดกันหรือยัง ...
**เพราะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จึงตกลงกันว่า รัฐมนตรี ที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องลาออกจากส.ส. เพื่อให้บัญชีลำดับถัดไปได้ขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน ถึงวันนี้ ส.ส.ภูมิใจไทย กับ รวมพลังประชาชาติไทย ลาออกไปแล้ว แต่ของ พลังประชารัฐ และ ประชาธิปัตย์ ยังเฉย
ไม่รู้ว่าเป็น"สัญญาประชาคม" ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ที่ในช่วงจัดทำ"โผครม." พรรคแกนนำรัฐบาลพยายามออกมาให้ข่าวว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ คนใดที่ได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออก เพื่อให้บัญชีลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส. ยกเว้น หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เพื่อแก้ปัญหา"เสียงปริ่มน้ำ" เพราะคนที่เป็นรัฐมนตรี มีภารกิจมาก อาจจะไปทับซ้อนกับเวลาการประชุมสภา ในช่วงที่มีการโหวต ร่างกฎหมายสำคัญๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพ้โหวต จนทำให้รัฐบาลมีปัญหาได้
พรรคภูมิใจไทย ของ "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ขานรับข้อตกลงนี้ก่อนใครเพื่อน โดยสะกิดให้ "ทรงศักดิ์ ทองศรี" รมช.มหาดไทย และ"วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" รมช.พาณิชย์ ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพื่อเปิดโอกาสให้ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และ นายมารุต มัสยวาณิช ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตามมาด้วย "หม่อมเต่า" ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ที่แม้จะเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก็ลาออกเพื่อให้ "ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง" เลขาธิการพรรค ได้ขึ้นมาเป็น ส.ส. แต่เป็นส.ส.ได้แค่ 2 วัน "ทวีศักดิ์" ก็ลาออก โดยบอกว่ามีปัญหาสุขภาพ ทำให้ "จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์" ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.แทน
แต่เมื่อหันไปมองทาง"พรรคพลังประชารัฐ" ที่เป็นแกนนำรัฐบาล และน่าจะเป็นผู้ตั้งกติกานี้ ปรากฏว่า "ยังเฉย" ไม่มีใครลาออก...กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลฯ ก็ออกมาบอกว่า ที่ประชุมประธานยุทธศาสตร์พรรค เห็นว่ารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ทั้ง 5 คน ไม่จำเป็นต้องลาออก แม้จะควบตำแหน่งรัฐมนตรี ก็สามารถเดินทางไปร่วมประชุมสภาฯได้ อีกทั้งรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ส่วนใหญ่ ล้วนเป็นแกนหลักของพรรค หากลาออกจะกระทบกับแผนพัฒนาพรรคได้...ส่วน 5 รัฐมนตรีที่ยังควบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นใครกันบ้างนั้น ก็ลองไปตรวจดู ขออนุญาต ไม่เอารายชื่อมาไล่เรียงให้สะเทือนใจกัน...
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเห็นทางพรรคพลังประชารัฐ เฉย ก็เลยเฉยบ้าง จนกระทั่งในการประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อสองวันก่อน "กรณ์ จาติกวณิช" ก็ลุกขึ้นทวงถามถึงเรื่องนี้ กลางที่ประชุมว่า เมื่อไร "จุติ ไกรฤกษ์" รมว.การพัฒนาสังคมฯ และ "คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช" รมช.ศึกษาธิการ จะลาออก เพื่อให้ "พิสิฐ ลี้อาธรรม" และ"อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ" ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บ้าง เพราะเรื่องนี้ได้มีการตกลงกัน และเป็น"มติพรรค" มาแล้ว ...ซึ่งก็มีรายงานว่า "จุติ"ได้ขอให้ชะลอการลาออกไว้ก่อน ขณะที่ "คุณหญิงกัลยา" บอกว่า ได้เขียนใบลาออกไว้แล้ว เพียงรอความชัดเจนจากหัวหน้าพรรคเท่านั้น ว่าจะเอาอย่างไร...
เรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจหัวอก”คนนั่งควบ” ว่า การเป็นรัฐมนตรี แม้จะเป็นตำแหน่งใหญ่โต ที่นักการเมืองทุกคนใฝ่ฝันจะไปให้ถึงจุดนี้ แต่ก็มีโอกาสถูก "ปรับออก" ได้ตลอดเวลา ถ้าถูกปรับออกเมื่อไรก็ "ขาลอย" ทันที ส่วนตำแหน่งส.ส.ก็สำคัญ กว่าจะได้เป็นก็ "เลือดตาแทบกระเด็น" ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็น หรือถูกบีบคั้นจริงๆ คงไม่มีใครอยากออก ใครจะติฉินนินทาอย่างไร ก็ถือเสียว่า ไม่แสบ ไม่คัน ... ส่วนคนที่ลาออกไปแล้ว ก็ถือเป็นการแสดง"สปิริต"ไปก็แล้วกัน .
** 2 ส.ส.สาวดาวสภา "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช กับ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ฟ้องกันนัว ข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากสร้างกระแสดรามาในโซเชียลฯ เรื่องเฟกนิวส์ เรียกเรตติ้ง กันมาหลายวัน
ปะทะคารมผ่านทางโซเชียลฯ และในสภาฯ กันมาหลายรอบ จนมีแฟนคลับคอยติดตาม "ฝีปาก" กันมากมาย และถูกยกให้เป็น "ส.ส.ดาวเด่น" ของสภาฯ ยุคนี้ คนหนึ่งคือ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนอีกคนคือ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ...เรื่องปะทะกันในสภาฯ ไม่มีปัญหา เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ฟ้องร้องกันไม่ได้ ... แต่เมื่ออยู่นอกสภา โดยเฉพาะการปะทะกันผ่านโซเชียลฯ นี่แฟนคลับต่างคาดหมายกันล่วงหน้าว่า ไม่ช้าไม่นานต้องมีฟ้องร้องกันแน่... แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆ ...
ต้นเหตุก็มาจากเรื่อง "บึ้มป่วนกรุง" ที่เกิดเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากนั้นก็มีผู้โพสต์รูป "ช่อ" กับชายที่หน้าคล้ายผู้ต้องสงสัย ที่ทางตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ แล้ว "เอ๋" ก็แชร์ต่อ พร้อมข้อความที่เพิ่มเติมลงไป ... เมื่อ "ช่อ" เห็นเข้าก็โวยผ่านสื่อ ขู่ว่าจะฟ้องร้อง ว่าสร้างข่าวเท็จ ส่วน "เอ๋" ก็ลั่นจะฟ้องเช่นกัน ว่าแถลงข่าวใส่ร้าย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกผู้คนเกลียดชัง
แล้วเมื่อวานนี้ (7ส.ค.) "ช่อ" พร้อมทนาย ก็ไปศาล ยื่นฟ้อง "เอ๋" ข้อหาหมิ่นประมาท ที่โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวหาว่า "ช่อ" และ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด ที่กรุงเทพฯ และความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ...แต่ไม่ฟ้องข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยอ้างว่า จุดยืนของพรรค ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากละเมิดสิทธิ เสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน จึงฟ้องเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาท
ขณะที่ "เอ๋" ก็ไปที่ สน.ลุมพินี แจ้งความดำเนินคดีกับ "ช่อ" พรรณิการ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากที่ได้มีการแถลงข่าว ต่อว่าใส่ร้ายตนเองด้วยคำพูดในลักษณะว่า เป็นคนที่ทำให้สังคมแตกแยก ทำข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นคนที่โดนเล่นงาน ทั้งข่าวปลอม เฟซบุ๊กปลอม จนคนเข้ามาคอมเมนต์ด่าเป็นพัน
นี่เป็นเพียงการฟ้องร้องกัน "ยกแรก" ของสองสาวดาวสภา ...ที่บรรดา "ติ่ง" ของทั้งสองฝ่ายเชื่อว่า ถ้ายังไม่มีลดราวาศอกกัน หลังจากนี้น่าจะมี ยกสอง..สาม..ตามมาแน่
--------
รูป- ทยา ทีปสุวรรณ - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ - จุติ ไกรฤกษ์
-พรรณิการ์ วานิช - ปารีณา ไกรคุปต์
** โอ้โห "ก๊วนลูกกรอก" คิดการใหญ่ "ณัฏฐพล" เตรียมส่งเมียรัก "ทยา" ชิงผู้ว่าฯกทม. หลังผู้ไม่หวังดีเตะตัดขาผู้ว่าฯ"ณรงค์ศักดิ์" หลุดวงโคจร
ต้องนับว่าไม่ธรรมดาสำหรับ "ก๊วนลูกกรอก" รอบตัว "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังได้ดิบได้ดี นั่งว่าการรัฐมนตรีหลายกระทรวง หลังจากโยกย้ายจาก "ประชาธิปัตย์" มาสร้างรังให้กับ "ลุงตู่" จนได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้รู้ทั้งรู้ว่า ชัยชนะในหลายจังหวัดนั้น มาจากบารมีของลุงตู่เอง ที่มีทั้ง "กระสุน" และ"อำนาจ" เต็มมือ แต่ก๊วนลูกกรอก ก็ยังได้เครดิตไปไม่น้อย ตั้งตัวเป็น "กุนซือพรรคพลังประชารัฐ" กลายเป็น "น้องรัก" ของลุงตู่ไปแล้ว
หลังจากคว้าเก้าอี้รัฐมนตรี เป็น "มือใหม่หัดขับ" ถึง 2 ตำแหน่ง ในกระทรวงสำคัญที่เป็น "มันสมอง" ของประเทศ อย่างกระทรวงศึกษาธิการ ที่ "เสี่ยตั้น" ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้นั่งว่าการ และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ "เสี่ยบี" พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้ไป นี่ถ้ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ป่านนี้ยังต่อท้ายแถวใครอีกหลายคน เพราะบารมียังไม่ถึง แต่วันนี้ "บุญมีกรรมไม่บัง" ก็ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันเป็นการสมนาคุณ
ยัง ยังไม่พอ... ข่าวว่า ทีแรกมีทีท่าว่าจะผลักดัน "เสี่ยจั้ม" สกลธี ภัททิยกุล มาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. หลังจากก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า ผู้ว่าฯถ้ำหลวง "ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร" จะมาสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ลงสู้ศึก ตอนมีข่าว คนเขาซี้ดปากกันลั่น ว่ามันแน่ๆ เพราะน่าจะเป็นคนที่ต่อสู้กับ คนที่ "แกร่งสุดในปฐพี" อย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ของฝั่งเพื่อไทยได้ แต่แล้วมี "ผู้ไม่หวังดี" เตะตัดขา ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ตั้งแต่ไก่โห่ ลื่นไถลหกคะเมนไปแล้ว ... แล้วเขาว่ากันว่า ถึงตอนนี้เปลี่ยนจาก "เสี่ยจั้ม" เป็นคนใหม่แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เมียรักของ "ณัฏฐพล" เสนาบดีกระทรวงศึกษาธิการ "ทยา ทีปสุวรรณ" นั่นแหละ
จะว่าก๊วนลูกกรอกคิดการใหญ่ ก็ใช่ แต่เพราะมั่นหมายว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นสถาบันทางการเมืองแบบพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องยึดครองพื้นที่กทม. เพื่อสร้างฐานการเมืองให้ได้ ส่วนเมียรัก จะมีบุญบารมี หรือความสามารถถึงไหมไม่รู้ว่าคิดกันหรือยัง ...
**เพราะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ จึงตกลงกันว่า รัฐมนตรี ที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องลาออกจากส.ส. เพื่อให้บัญชีลำดับถัดไปได้ขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน ถึงวันนี้ ส.ส.ภูมิใจไทย กับ รวมพลังประชาชาติไทย ลาออกไปแล้ว แต่ของ พลังประชารัฐ และ ประชาธิปัตย์ ยังเฉย
ไม่รู้ว่าเป็น"สัญญาประชาคม" ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ที่ในช่วงจัดทำ"โผครม." พรรคแกนนำรัฐบาลพยายามออกมาให้ข่าวว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ คนใดที่ได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออก เพื่อให้บัญชีลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส. ยกเว้น หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เพื่อแก้ปัญหา"เสียงปริ่มน้ำ" เพราะคนที่เป็นรัฐมนตรี มีภารกิจมาก อาจจะไปทับซ้อนกับเวลาการประชุมสภา ในช่วงที่มีการโหวต ร่างกฎหมายสำคัญๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการแพ้โหวต จนทำให้รัฐบาลมีปัญหาได้
พรรคภูมิใจไทย ของ "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ขานรับข้อตกลงนี้ก่อนใครเพื่อน โดยสะกิดให้ "ทรงศักดิ์ ทองศรี" รมช.มหาดไทย และ"วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" รมช.พาณิชย์ ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพื่อเปิดโอกาสให้ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และ นายมารุต มัสยวาณิช ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตามมาด้วย "หม่อมเต่า" ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ที่แม้จะเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก็ลาออกเพื่อให้ "ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง" เลขาธิการพรรค ได้ขึ้นมาเป็น ส.ส. แต่เป็นส.ส.ได้แค่ 2 วัน "ทวีศักดิ์" ก็ลาออก โดยบอกว่ามีปัญหาสุขภาพ ทำให้ "จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์" ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.แทน
แต่เมื่อหันไปมองทาง"พรรคพลังประชารัฐ" ที่เป็นแกนนำรัฐบาล และน่าจะเป็นผู้ตั้งกติกานี้ ปรากฏว่า "ยังเฉย" ไม่มีใครลาออก...กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ "พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" รมว.ดิจิทัลฯ ก็ออกมาบอกว่า ที่ประชุมประธานยุทธศาสตร์พรรค เห็นว่ารัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ทั้ง 5 คน ไม่จำเป็นต้องลาออก แม้จะควบตำแหน่งรัฐมนตรี ก็สามารถเดินทางไปร่วมประชุมสภาฯได้ อีกทั้งรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.ส่วนใหญ่ ล้วนเป็นแกนหลักของพรรค หากลาออกจะกระทบกับแผนพัฒนาพรรคได้...ส่วน 5 รัฐมนตรีที่ยังควบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นใครกันบ้างนั้น ก็ลองไปตรวจดู ขออนุญาต ไม่เอารายชื่อมาไล่เรียงให้สะเทือนใจกัน...
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเห็นทางพรรคพลังประชารัฐ เฉย ก็เลยเฉยบ้าง จนกระทั่งในการประชุม ส.ส.ของพรรค เมื่อสองวันก่อน "กรณ์ จาติกวณิช" ก็ลุกขึ้นทวงถามถึงเรื่องนี้ กลางที่ประชุมว่า เมื่อไร "จุติ ไกรฤกษ์" รมว.การพัฒนาสังคมฯ และ "คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช" รมช.ศึกษาธิการ จะลาออก เพื่อให้ "พิสิฐ ลี้อาธรรม" และ"อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ" ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นส.ส.บ้าง เพราะเรื่องนี้ได้มีการตกลงกัน และเป็น"มติพรรค" มาแล้ว ...ซึ่งก็มีรายงานว่า "จุติ"ได้ขอให้ชะลอการลาออกไว้ก่อน ขณะที่ "คุณหญิงกัลยา" บอกว่า ได้เขียนใบลาออกไว้แล้ว เพียงรอความชัดเจนจากหัวหน้าพรรคเท่านั้น ว่าจะเอาอย่างไร...
เรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจหัวอก”คนนั่งควบ” ว่า การเป็นรัฐมนตรี แม้จะเป็นตำแหน่งใหญ่โต ที่นักการเมืองทุกคนใฝ่ฝันจะไปให้ถึงจุดนี้ แต่ก็มีโอกาสถูก "ปรับออก" ได้ตลอดเวลา ถ้าถูกปรับออกเมื่อไรก็ "ขาลอย" ทันที ส่วนตำแหน่งส.ส.ก็สำคัญ กว่าจะได้เป็นก็ "เลือดตาแทบกระเด็น" ดังนั้น ถ้าไม่จำเป็น หรือถูกบีบคั้นจริงๆ คงไม่มีใครอยากออก ใครจะติฉินนินทาอย่างไร ก็ถือเสียว่า ไม่แสบ ไม่คัน ... ส่วนคนที่ลาออกไปแล้ว ก็ถือเป็นการแสดง"สปิริต"ไปก็แล้วกัน .
** 2 ส.ส.สาวดาวสภา "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช กับ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ฟ้องกันนัว ข้อหาหมิ่นประมาท หลังจากสร้างกระแสดรามาในโซเชียลฯ เรื่องเฟกนิวส์ เรียกเรตติ้ง กันมาหลายวัน
ปะทะคารมผ่านทางโซเชียลฯ และในสภาฯ กันมาหลายรอบ จนมีแฟนคลับคอยติดตาม "ฝีปาก" กันมากมาย และถูกยกให้เป็น "ส.ส.ดาวเด่น" ของสภาฯ ยุคนี้ คนหนึ่งคือ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนอีกคนคือ "เอ๋" ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ...เรื่องปะทะกันในสภาฯ ไม่มีปัญหา เพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง ฟ้องร้องกันไม่ได้ ... แต่เมื่ออยู่นอกสภา โดยเฉพาะการปะทะกันผ่านโซเชียลฯ นี่แฟนคลับต่างคาดหมายกันล่วงหน้าว่า ไม่ช้าไม่นานต้องมีฟ้องร้องกันแน่... แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆ ...
ต้นเหตุก็มาจากเรื่อง "บึ้มป่วนกรุง" ที่เกิดเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากนั้นก็มีผู้โพสต์รูป "ช่อ" กับชายที่หน้าคล้ายผู้ต้องสงสัย ที่ทางตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ แล้ว "เอ๋" ก็แชร์ต่อ พร้อมข้อความที่เพิ่มเติมลงไป ... เมื่อ "ช่อ" เห็นเข้าก็โวยผ่านสื่อ ขู่ว่าจะฟ้องร้อง ว่าสร้างข่าวเท็จ ส่วน "เอ๋" ก็ลั่นจะฟ้องเช่นกัน ว่าแถลงข่าวใส่ร้าย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกผู้คนเกลียดชัง
แล้วเมื่อวานนี้ (7ส.ค.) "ช่อ" พร้อมทนาย ก็ไปศาล ยื่นฟ้อง "เอ๋" ข้อหาหมิ่นประมาท ที่โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวหาว่า "ช่อ" และ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด ที่กรุงเทพฯ และความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ...แต่ไม่ฟ้องข้อหา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยอ้างว่า จุดยืนของพรรค ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากละเมิดสิทธิ เสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน จึงฟ้องเฉพาะข้อหาหมิ่นประมาท
ขณะที่ "เอ๋" ก็ไปที่ สน.ลุมพินี แจ้งความดำเนินคดีกับ "ช่อ" พรรณิการ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากที่ได้มีการแถลงข่าว ต่อว่าใส่ร้ายตนเองด้วยคำพูดในลักษณะว่า เป็นคนที่ทำให้สังคมแตกแยก ทำข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นคนที่โดนเล่นงาน ทั้งข่าวปลอม เฟซบุ๊กปลอม จนคนเข้ามาคอมเมนต์ด่าเป็นพัน
นี่เป็นเพียงการฟ้องร้องกัน "ยกแรก" ของสองสาวดาวสภา ...ที่บรรดา "ติ่ง" ของทั้งสองฝ่ายเชื่อว่า ถ้ายังไม่มีลดราวาศอกกัน หลังจากนี้น่าจะมี ยกสอง..สาม..ตามมาแน่
--------
รูป- ทยา ทีปสุวรรณ - ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ - จุติ ไกรฤกษ์
-พรรณิการ์ วานิช - ปารีณา ไกรคุปต์