xs
xsm
sm
md
lg

ไฟเขียวขึ้นค่าแท็กซี่…พ่วงเซอร์ชาร์จสนามบิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน360 - "ศักดิ์สยาม"ไฟเขียวขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ กม.ที่ 1 -10 กม. จาก 6 บาทเป็น 6.50 บาท/กม. รถติดนานขึ้นเป็นนาทีละ 3 บาท ขึ้นเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบินจาก 50 บาทเป็น 70 บ.- 90 บาท มีผลใน 15 ต.ค. นี้ สั่งขบ.ทำแอพกลาง เลิก TAXI OK เร่งแก้กม.ดึงรถป้ายดำเข้าระบบ ยันแกร็บ แท็กซี่ ผิดกม.

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการแท็กซี่ ว่า ได้มีมติที่จะปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกโดยสารไม่เกิน 7คน (แท็กซี่มิเตอร์) ในเขตกรุงเทพมหานคร โดย (ค่าแรกเข้า) ระยะทาง 1 กิโลเมตรแรกเก็บเท่าเดิม 35 บาท, ระยะทางเกินกว่า 1 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 10 กิโลเมตรละ 6.50 บาท (เดิม 6 บาท) ปรับขึ้น 50 สตางค์ เพราะมีต้นทุนด้านเชื้อเพลิงเพิ่ม

ขณะที่ระยะต่อไป เก็บอัตราเดิม ได้แก่ ระยะทางเกินกว่า 10 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 7 บาท, ระยะทางเกินกว่า 20 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 40 กิโลเมตรละ 8 บาท , ระยะทางเกินกว่า 40 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 60 กิโลเมตรละ 8.50 บาท ระยะทางเกินกว่า 60 กิโลเมตรถึงกิโลเมตรที่ 80 กิโลเมตรละ 9 บาท ระยะทางเกินกว่า 80 กิโลเมตรขึ้นไป กิโลเมตรละ 10.50 บาท

ส่วนกรณีที่รถไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้ปรับขึ้นจากนาทีละ 2 บาทเป็น 3 บาท โดยจะมีผลก่อนวันที่ 15 ต.ค. 2562 ซึ่งในระหว่างนี้ ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เตรียมความพร้อมในการออกประกาศ พร้อมกันนี้ ให้นำเทคโนโลยีดิจิตอลใหม่มาใช้ เพื่อยกเลิกโครงการ TAXI OK ซึ่งแท็กซี่มีภาระต้องจ่ายค่าบริการ 350 บาท

สำหรับรถแท็กซี่ภายในท่าอากาศยาน จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และต้นทนจากการวิ่งรถเปล่าจากตัวเมืองไปสนามบิน และค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้สนามบิน จึงกำหนดค่าเซอร์ชาร์จ เพิ่มจาก 50 บาท เป็นรถขนาดเล็ก ไม่เกิน 70 บาท รถขนาดใหญ่ไม่เกิน 90 บาท ส่วนค่าสัมภาระขนาดเกิน 26 นิ้ว จะบริการฟรี 2 ชิ้นแรก ชิ้นที่ 3 เป็นต้นไป เก็บชิ้นละ 20 บาท ซึ่งขบ.จะประสานกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในการประกาศต่อไป ซึ่งเป็นมาตรฐานของบริการสนามบินในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมฯเร่งนำเทคโนโลยีดิจิตอล มาใช้บริหารรถแท็กซี่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะพัฒนาระบบ จัดทำแอพพลิเคชั่น ภายใน 1 เดือนให้สมบูรณ์ โดยจะเป็นแอพกลางผู้ให้บริการทุกคนเข้าระบบให้หมด เพราะกำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีการผูกขาด ดังนั้น อะไรที่ไม่เข้ามาตรฐานก็จะดำเนินการไม่ได้ เช่น ไม่ใช่บริษัทไทย

สำหรับการนำรถส่วนตัว รถป้ายดำให้บริการ ภายใต้ แกร็บ นั้น ยืนยันจะต้องนำมาอยู่ในระบบเดียวกัน ซึ่ง ต้องมีการแก้กฎหมาย ที่กำหนดประเภทรถในการให้บริการ เพื่อให้สามารถนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ ยืนยันว่า เป็นการทำเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเลือกใช้บริการ เป็นทางเลือก ซึ่งรถส่วนบุคคล จะมีโครงสร้างค่าโดยสารอีกแบบผู้โดยสารอีกกลุ่ม เป็นการแข่งขันในการให้บริการระหว่างแท็กซี่

อย่างไรก็ตาม ยังเห็นด้วยกับการปรับอายุรถแท็กซี่ จาก 9 ปี เป็น 12 ปี โดยกำหนดเงื่อนไขมาตรฐานรถ โดยกรมขนส่งฯจะตรวจสอบสภาพรถทุก 3 เดือน หากพบรถไม่ผ่านเกณฑ์จะต้องหยุดวิ่งทันที ไม่มีข้อยกเว้น


กำลังโหลดความคิดเห็น