ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" หอบรมต. ล่องใต้ ตรวจราชการ จ.ยะลา ผลักดันเป็นเมืองทุเรียน พันธุ์พื้นเมืองมีชื่อเสียงเพียบ ก่อนลองคัดแยกทุเรียน จนหนามตำเลือดออก เบรกคนเสนอปลดล็อก "กระท่อม" บอกเอาทีละอย่าง
วานนี้ (7ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจุดแรกนายกฯ ไปเป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองฯ จ.ยะลา จากนั้น รับฟังรายงานความคืบหน้า การพัฒนาพื้นที่ และเป็นประธานกิจกรรมมอบเงินค่าตอบแทนการทำงานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจาก 5 จังหวัด มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้แทนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 ราย มอบบัตรส่งเสริมการลงทุน ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)และมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับภาคเอกชน ที่มีการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน(โฉนดที่ดิน) จำนวน 200 แปลง ให้กับผู้นำศาสนา และผู้แทนประชาชนของ จ.ยะลา และจ.ปัตตานี จำนวน 3 ราย
นายกฯ กล่าวว่า อัสลามมูอาลัยกุม ขอสวัสดีพี่น้อง วันนี้ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง มาเยี่ยมเยือน 3 จังหวัด กลุ่มภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาแก้ปัญหาต่างๆ เราให้ความสำคัญกับ พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้อย่างยิ่ง เพราะเป็นพื้นที่พิเศษ มีปัญหาในเรื่องความมั่นคง ซึ่งจะมี ศอ.บต.เสริมงานในระบบ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ก็จะเข้าสู่ระบบ ขอให้พี่น้องเข้าใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องกฎหมายพิเศษ ก็ต้องมีตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คนดีๆ คงเดือดร้อนไม่มาก
วันนี้มีคณะรัฐมนตรีใหม่ลงมา ฉะนั้นทุกอย่างถ้าเราเดินตามแผนงานที่ทำไว้แล้วบ้าง และเพิ่มใหม่บ้าง ให้สอดคล้อง โดยการจัดลำดับความเร่งด่วนให้เหมาะสม นายกรัฐมนตรีห่วงใยทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา แม้ที่นี้ชาวมุสลิมจะมากกว่าชาวพุทธ แต่ทุกอย่างอยู่ที่สันติสุข ซึ่งอยู่กันมาอดีตกาล สงบเรียบร้อยปลอดภัย อาจจะมีอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา อยู่ที่ว่าพวกเราจะแก้ไขกันอย่างไร ทุกศาสนาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์อุปถัมภก ทุกศาสนาเราคนไทยด้วยกัน แม้ว่าจะแต่งตัวต่างกัน แต่คนไทยด้วยกัน นี่คือดินแดนของเรา
ความมั่นคงความปลอดภัยจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาและความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน ทุกศาสนา ที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย นี่คือแผ่นดินของเราจะแบ่งแยกไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เราคือคนไทย ต้องช่วยกันบำรุงรักษาชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ดำรงไว้
"ผมทานข้าวไม่ค่อยได้ บางทีทานไม่ค่อยลง มันหลายอย่าง คำนินทาก็มีเยอะ ก็ช่างมัน เอาความดีชนะ หวังว่าพวกเราคงเข้าใจกันบ้าง" นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ตอนจัดรายการคืนความสุข บางคนเดี๋ยวก็ไปห้องน้ำบ้าง ปรับดูละครบ้าง วันนี้อย่าคิดถึงตนก็แล้วกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานวันนี้ น่าพอใจในระดับหนึ่ง และจะขับเคลื่อนต่อไป ทำงานแบบองค์รวมในทุกมิติบูรณางาน ทั้งแผนคน แผนเงิน แผนงานโครงการ โดยร่วมกับประชาชนในพื้นที่ อย่าสร้างผลกระทบต่อกัน
นอกจากนี้ในเรื่องพืชเสพติด วันนี้ขอให้ระมัดระวัง และค่อยเป็นค่อยไป ประเภทแรกยังไม่แล้วเสร็จ ประเภทที่ 2 ก็มาอีกแล้ว ใบกระท่อม ถ้าทำได้หากไม่ผิดกฎหมายตนก็ไม่ขัดข้อง
"มีคนเสนอมาว่า จะเอาใบกระท่อม แต่อย่าเพิ่งไปตรงนั้นเลย วันนี้ก็มีปัญหาอยู่พอสมควรในเรื่องของการใช้กัญชา เพลาๆ ลงมั่ง ทีละเรื่อง จะเหมาทีเดียวกันหมด ใบนู้นใบนี้ มากันใหญ่ เอาทีละใบได้ไหม ถ้ามันเป็นประโยชน์ วันหน้าก็ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าดีก็ทำ"
นายกฯ ยังกล่าวถึงการผลักดัน จ.ยะลา ให้เป็นเมืองทุเรียน เพราะในพื้นที่ มีการปลูกทุเรียนพันธุ์ดีมากที่สุดในภาคใต้ ทุเรียนพันธุ์พื้นฐาน ที่มีชื่อเสียง ก็มีจำนวนมาก ถือเป็นความก้าวหน้าด้านการลงทุน "ผมทานแล้วทุเรียนยะลา อร่อยซิจ๊ะ กินแล้วบอกไม่อร่อยได้ไง" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปตรวจเยี่ยมโครงการทุเรียนคุณภาพ และการบริหารจัดการทุเรียนคุณภาพของเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร ณ ตลาดกลางยางพารา อ.เมืองฯ จ.ยะลา โดยนายกฯ กล่าวกับประชาชน ว่า วันนี้มาเยี่ยมเยียน ในฐานะรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง ขอบคุณมิตรไมตรี ที่มีให้กัน อยากให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมือง ยืนยันรัฐบาลใหม่ จะทุ่มทุกสรพพวิธีดูแลประชาชน แต่การแก้ปัญหาด้วยเงินอย่างเดียว มันไม่ยั่งยืน ต้องทำให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด
จากนั้น นายกฯ ได้เยี่ยมชมการคัดแยกทุเรียน พร้อมใช้ไม้เคาะเพื่อเช็กความสุกของทุเรียน โยนทุเรียนเพื่อขนขึ้นรถ พร้อมชิมทุเรียนพันธุ์กลาแต (ดอกทุเรียนสีชมพู) และ ทุเรียนพันธุ์ ยาตงซูซู (ทุเรียน 300 ปี) ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของนราธิวาส และยะลา โดยเมื่อนายกฯ ได้ชิมก็ชมว่า อร่อย หวานมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งจังหวะที่นายกฯได้หิ้วทุเรียนโดยไม่สวมถุงมือ ทำให้หนามตำมือจนเลือดออกอย่างเห็นได้ชัด แต่นายกฯบอกว่าไม่เจ็บ ไกลหัวใจเยอะ ไม่เป็นไร จากนั้น นายกฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนและข้าราชการ พร้อมกับบอกว่า "รักนายกฯ ก็ต้องรัก ครม.ของผมด้วย ทุเรียนมีเกรดเอ เกรดบี เกรดซี สำหรับผมน่ะ เกรดเอ"
วานนี้ (7ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจุดแรกนายกฯ ไปเป็นประธานพิธีเปิดอาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองฯ จ.ยะลา จากนั้น รับฟังรายงานความคืบหน้า การพัฒนาพื้นที่ และเป็นประธานกิจกรรมมอบเงินค่าตอบแทนการทำงานของผู้นำศาสนาในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจาก 5 จังหวัด มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้แก่ผู้แทนของกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 ราย มอบบัตรส่งเสริมการลงทุน ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)และมอบใบประกาศเกียรติคุณให้กับภาคเอกชน ที่มีการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน(โฉนดที่ดิน) จำนวน 200 แปลง ให้กับผู้นำศาสนา และผู้แทนประชาชนของ จ.ยะลา และจ.ปัตตานี จำนวน 3 ราย
นายกฯ กล่าวว่า อัสลามมูอาลัยกุม ขอสวัสดีพี่น้อง วันนี้ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง มาเยี่ยมเยือน 3 จังหวัด กลุ่มภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการพัฒนาแก้ปัญหาต่างๆ เราให้ความสำคัญกับ พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้อย่างยิ่ง เพราะเป็นพื้นที่พิเศษ มีปัญหาในเรื่องความมั่นคง ซึ่งจะมี ศอ.บต.เสริมงานในระบบ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ก็จะเข้าสู่ระบบ ขอให้พี่น้องเข้าใจในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องกฎหมายพิเศษ ก็ต้องมีตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คนดีๆ คงเดือดร้อนไม่มาก
วันนี้มีคณะรัฐมนตรีใหม่ลงมา ฉะนั้นทุกอย่างถ้าเราเดินตามแผนงานที่ทำไว้แล้วบ้าง และเพิ่มใหม่บ้าง ให้สอดคล้อง โดยการจัดลำดับความเร่งด่วนให้เหมาะสม นายกรัฐมนตรีห่วงใยทุกคน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา แม้ที่นี้ชาวมุสลิมจะมากกว่าชาวพุทธ แต่ทุกอย่างอยู่ที่สันติสุข ซึ่งอยู่กันมาอดีตกาล สงบเรียบร้อยปลอดภัย อาจจะมีอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา อยู่ที่ว่าพวกเราจะแก้ไขกันอย่างไร ทุกศาสนาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์อุปถัมภก ทุกศาสนาเราคนไทยด้วยกัน แม้ว่าจะแต่งตัวต่างกัน แต่คนไทยด้วยกัน นี่คือดินแดนของเรา
ความมั่นคงความปลอดภัยจะเป็นพื้นฐานในการพัฒนาและความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วน ทุกศาสนา ที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยมาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งตาย นี่คือแผ่นดินของเราจะแบ่งแยกไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตาม เราคือคนไทย ต้องช่วยกันบำรุงรักษาชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ ดำรงไว้
"ผมทานข้าวไม่ค่อยได้ บางทีทานไม่ค่อยลง มันหลายอย่าง คำนินทาก็มีเยอะ ก็ช่างมัน เอาความดีชนะ หวังว่าพวกเราคงเข้าใจกันบ้าง" นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ตอนจัดรายการคืนความสุข บางคนเดี๋ยวก็ไปห้องน้ำบ้าง ปรับดูละครบ้าง วันนี้อย่าคิดถึงตนก็แล้วกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานวันนี้ น่าพอใจในระดับหนึ่ง และจะขับเคลื่อนต่อไป ทำงานแบบองค์รวมในทุกมิติบูรณางาน ทั้งแผนคน แผนเงิน แผนงานโครงการ โดยร่วมกับประชาชนในพื้นที่ อย่าสร้างผลกระทบต่อกัน
นอกจากนี้ในเรื่องพืชเสพติด วันนี้ขอให้ระมัดระวัง และค่อยเป็นค่อยไป ประเภทแรกยังไม่แล้วเสร็จ ประเภทที่ 2 ก็มาอีกแล้ว ใบกระท่อม ถ้าทำได้หากไม่ผิดกฎหมายตนก็ไม่ขัดข้อง
"มีคนเสนอมาว่า จะเอาใบกระท่อม แต่อย่าเพิ่งไปตรงนั้นเลย วันนี้ก็มีปัญหาอยู่พอสมควรในเรื่องของการใช้กัญชา เพลาๆ ลงมั่ง ทีละเรื่อง จะเหมาทีเดียวกันหมด ใบนู้นใบนี้ มากันใหญ่ เอาทีละใบได้ไหม ถ้ามันเป็นประโยชน์ วันหน้าก็ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าดีก็ทำ"
นายกฯ ยังกล่าวถึงการผลักดัน จ.ยะลา ให้เป็นเมืองทุเรียน เพราะในพื้นที่ มีการปลูกทุเรียนพันธุ์ดีมากที่สุดในภาคใต้ ทุเรียนพันธุ์พื้นฐาน ที่มีชื่อเสียง ก็มีจำนวนมาก ถือเป็นความก้าวหน้าด้านการลงทุน "ผมทานแล้วทุเรียนยะลา อร่อยซิจ๊ะ กินแล้วบอกไม่อร่อยได้ไง" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปตรวจเยี่ยมโครงการทุเรียนคุณภาพ และการบริหารจัดการทุเรียนคุณภาพของเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกร ณ ตลาดกลางยางพารา อ.เมืองฯ จ.ยะลา โดยนายกฯ กล่าวกับประชาชน ว่า วันนี้มาเยี่ยมเยียน ในฐานะรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง ขอบคุณมิตรไมตรี ที่มีให้กัน อยากให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมือง ยืนยันรัฐบาลใหม่ จะทุ่มทุกสรพพวิธีดูแลประชาชน แต่การแก้ปัญหาด้วยเงินอย่างเดียว มันไม่ยั่งยืน ต้องทำให้ถูกวิธี อย่างไรก็ตาม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สำคัญที่สุด
จากนั้น นายกฯ ได้เยี่ยมชมการคัดแยกทุเรียน พร้อมใช้ไม้เคาะเพื่อเช็กความสุกของทุเรียน โยนทุเรียนเพื่อขนขึ้นรถ พร้อมชิมทุเรียนพันธุ์กลาแต (ดอกทุเรียนสีชมพู) และ ทุเรียนพันธุ์ ยาตงซูซู (ทุเรียน 300 ปี) ซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองของนราธิวาส และยะลา โดยเมื่อนายกฯ ได้ชิมก็ชมว่า อร่อย หวานมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งจังหวะที่นายกฯได้หิ้วทุเรียนโดยไม่สวมถุงมือ ทำให้หนามตำมือจนเลือดออกอย่างเห็นได้ชัด แต่นายกฯบอกว่าไม่เจ็บ ไกลหัวใจเยอะ ไม่เป็นไร จากนั้น นายกฯ ได้ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนและข้าราชการ พร้อมกับบอกว่า "รักนายกฯ ก็ต้องรัก ครม.ของผมด้วย ทุเรียนมีเกรดเอ เกรดบี เกรดซี สำหรับผมน่ะ เกรดเอ"