นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กท้าทาย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ไปสาบานวัดพระแก้ว พิสูจน์คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยว่า เรื่องดังกล่าวผ่านกระบวนการยุติธรรมมาหมดแล้วว่า นายอุตตมไม่ได้กระทำผิด และนายอุตตม ได้ชี้แจงในที่ประชุมรัฐสภาไปแล้วอย่างชัดเจน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ สังคมก็รับทราบ
"เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปสาบานวัดพระแก้ว เพราะการสาบานไม่ใช่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ความจริงต้องพิสูจน์ด้วยเหตุและผลมากกว่า นายพานท้องแท้สามารถพิสูจน์ตัวในศาล กระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับนายพานทองแท้ ถ้าไม่ผิด คือไม่ผิด อย่าไปเที่ยวสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วเลย เดี๋ยวจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาใครที่ทำร้าย หรือคิดร้ายกับประเทศ ล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น นายพานทองแท้น่าจะทราบดี" นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้ว รมว.คลังจะเอาเวลาไปขับเคลื่อนงาน เพราะพี่น้องประชาชนมีความคาดหวังว่า รัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และทุกนโยบายที่รัฐบาลแถลงนั้นจะเร่งดำเนินการทันที เพราะพี่น้องประชาชนรออยู่ ตนเชื่อว่า เมื่อรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายได้เต็มที่ เศรษฐกิจฐานรากของประเทศจะดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้น และประเทศจะเดินไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่านายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง มีกำหนดจะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29 ก.ค.–1 ส.ค.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น และจะเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนญี่ปุ่น ถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย และยืนยันความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
โอกาสนี้ รมว.คลัง และคณะมีกำหนดเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐของประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเงินระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย นาย Taro Aso รองนายกฯ และรมว.คลังของญี่ปุ่น นาย Hiroshige Seko รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และ นาย Tadashi Maeda ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC)รวมทั้งมีกำหนดพบปะผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนและสถาบันการเงินของประเทศญี่ปุ่น อาทิ นาย Nobuhiko Sasaki ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (JETRO)นาย Kazuho Tanaka ผู้ว่าการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Japan Finance Corporation (JFC)เป็นต้น
นอกจากนี้ นายอุตตม มีกำหนดเข้าร่วมการเสวนา เรื่อง "ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลังของไทยและความต่อเนื่องของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)" โดยจะมีผู้แทนสมาพันธ์ธุรกิจชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น (Keidanren) ประมาณ 30 บริษัท เข้าร่วมรับฟังการเสวนาดังกล่าว ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย ที่จะนำเสนอแนวนโยบายเศรษฐกิจให้แก่ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันต่อไป
"เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปสาบานวัดพระแก้ว เพราะการสาบานไม่ใช่การพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ความจริงต้องพิสูจน์ด้วยเหตุและผลมากกว่า นายพานท้องแท้สามารถพิสูจน์ตัวในศาล กระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับนายพานทองแท้ ถ้าไม่ผิด คือไม่ผิด อย่าไปเที่ยวสาบานต่อหน้าวัดพระแก้วเลย เดี๋ยวจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาใครที่ทำร้าย หรือคิดร้ายกับประเทศ ล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น นายพานทองแท้น่าจะทราบดี" นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้ว รมว.คลังจะเอาเวลาไปขับเคลื่อนงาน เพราะพี่น้องประชาชนมีความคาดหวังว่า รัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และทุกนโยบายที่รัฐบาลแถลงนั้นจะเร่งดำเนินการทันที เพราะพี่น้องประชาชนรออยู่ ตนเชื่อว่า เมื่อรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายได้เต็มที่ เศรษฐกิจฐานรากของประเทศจะดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้น และประเทศจะเดินไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวัง
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่านายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง มีกำหนดจะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 29 ก.ค.–1 ส.ค.นี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น และจะเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนญี่ปุ่น ถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย และยืนยันความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
โอกาสนี้ รมว.คลัง และคณะมีกำหนดเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐของประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเงินระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย นาย Taro Aso รองนายกฯ และรมว.คลังของญี่ปุ่น นาย Hiroshige Seko รมว.เศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น และ นาย Tadashi Maeda ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC)รวมทั้งมีกำหนดพบปะผู้บริหารระดับสูงของภาคเอกชนและสถาบันการเงินของประเทศญี่ปุ่น อาทิ นาย Nobuhiko Sasaki ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (JETRO)นาย Kazuho Tanaka ผู้ว่าการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ Japan Finance Corporation (JFC)เป็นต้น
นอกจากนี้ นายอุตตม มีกำหนดเข้าร่วมการเสวนา เรื่อง "ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจ การเงินการคลังของไทยและความต่อเนื่องของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)" โดยจะมีผู้แทนสมาพันธ์ธุรกิจชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น (Keidanren) ประมาณ 30 บริษัท เข้าร่วมรับฟังการเสวนาดังกล่าว ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย ที่จะนำเสนอแนวนโยบายเศรษฐกิจให้แก่ภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันต่อไป