xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.แจงสัมมนาที่รีสอร์ตรุกป่า หวังจุดกระแสแก้ข้อพิพาทที่ดิน ฝ่ายค้านหงายไพ่ซักฟอก”ลุงตู่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"ศรีสุวรรณ" เตรียมร้อง กกต. เสนอศาลรธน. ยุบพรรคพลังประชารัฐ ที่ไปจัดสัมมนา สนับสนุนรีสอร์ต รุกป่าวังน้ำเขียว ด้าน ส.ส.พปชร. เผยตั้งใจไปสัมมนาในพื้นที่ที่มีปัญหา เพื่อจุดกระแส แก้ข้อพิพาทที่ดินรัฐ ให้ประชาชน 2.4 ล้านคน อ้างถ้ารีสอร์ตผิด โรงพยาบาล ธนาคาร ตลาด ร้านค้า ก็ผิดหมด ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ เผยคดีนี้ อัยการสั่งไม่ฟ้อง ฝ่ายค้านหงายไพ่ซักฟอก"บิ๊กตู่" เตรียม 3ดาบ’ ฟันนโยบายรัฐ ดักคอรัฐบาลเมินแก้รธน.

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เพซบุ๊กส่วนตัว กรณีพรรคพลังประชารัฐ จัดงานสัมมนาส.ส.ของพรรค เมื่อวันที่ 21-22 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ การ์มองเต้ รีสอร์ต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งรีสอร์ต ดังกล่าวเคยถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ เข้าจับกุมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ข้อหาบุกรุกป่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 55 เนื้อที่ 20 ไร่ ต่อมาวันที่ 31 มี.ค.60 จับเพิ่มอีก 30 ไร่ 2 งาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบสิ่งปลูกสร้างจำนวน 18 รายการ โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว พื้นที่ดังกล่าวมีสถานะเป็นพื้นที่ป่า และยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ

การที่พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ได้ไปจัดสัมมนา ที่รีสอร์ตดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้รีสอร์ตดังกล่าว กระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ซึ่งต้องห้ามตาม มาตรา 45 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง อันมีความผิดตาม มาตรา 92(3) เป็นเหตุให้ ศาลรธน. สั่งยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคได้

ทั้งนี้ สมาคมฯ จะนำความพร้อมพยานหลักฐาน ไปยื่นร้องเรียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง และ กกต.ในวันนี้ (24ก.ค.) เพื่อดำเนินการไต่สวน และยื่นเรื่องให้ศาลรธน. มีคำสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ

ส.ส.โคราชเผยตั้งใจไปเพื่อให้เกิดกระแส

ด้านนายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพปชร. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนในฐานะคนจัดหาสถานที่ ทราบปัญหานี้อยู่แล้ว และเป็นความตั้งใจ ที่จะพาส.ส.ไปประชุมที่นี่ เพราะ ต้องการทำให้เกิดกระแส เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาของประชาชน กว่า 2.4 ล้านคน ที่ประสบปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างรัฐ กับราษฎร ซึ่ง อ.วังน้ำเขียว เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้

ทั้งนี้ เมื่อปี 55 กรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินคดีจับกุม ตรวจยึด ทุบทำลาย ทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างของราษฎร ทั้งที่มีอยู่เดิมและเข้ามาอยู่ใหม่ โดยอ้างว่าบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งไปถึงชั้นอัยการ ก็ไม่มีการสั่งฟ้อง จนกระทั่งปี 60 มีการจับกุมซ้ำ ซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุด จะไปกล่าวหาว่าเขาเป็นคนผิดไม่ได้ เพราะคนที่จะบอกว่าผิด คือศาล ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ

" ตอนนี้เขายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ส่วนเรื่องของรีสอร์ต สร้างตั้งแต่ปีไหน ไม่ใช่ประเด็น ที่จะต้องมาถาม ถ้าบอกว่าเขาผิด แปลว่า โรงพยาบาล อ.วังน้ำเขียวก็ผิด ตลาดก็ผิด ธนาคาร และร้านค้า ก็ผิดกันหมด" นายสมศักดิ์ กล่าว

อธิบดีเผยอัยการสั่งไม่ฟ้อง

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งแปลง และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแก่ง ดินสอ ป่าแก่งใหญ่ และป่าเขาสะโตน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 239 (พ.ศ. 2510) กฎกระทรวง ฉบับที่ 812 (พ.ศ. 2521) และกฎกระทรวง ฉบับที่ 895 (พ.ศ. 2523) ซึ่งกรมป่าไม้ไม่เคยมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ ส.ป.ก. เข้าไปดำเนินการปฏิรูป และพื้นที่ดังกล่าวมิได้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ส.ป.ก.ตามประกาศพระราชกฤษฎีกากาหนดเขตที่ดินฯ ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2521 แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานงานทางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.62 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ทราบว่า อัยการเจ้าของสำนวนคดีได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว และแจ้งเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องมายังสถานีตารวจภูธรวังน้ำเขียว เมื่อวันที่ 7 พ.ย.61 แต่สถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ก็ไม่ได้ดำเนินการแจ้งให้อุทยานแห่งชาติทับลานทราบ

จากการตรวจสอบเหตุผลที่อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เนื่องจากสำนักงาน ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา ได้ให้ ข้อมูลต่ออัยการว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพ.ร.ฎ. กำหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2521 ทัังนี กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนออัยการพิจารณาใหม่อีกครั้ง

พท.หงายไพ่ซักฟอก"บิ๊กตู่"

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การอภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ว่า เราได้กำหนดคนอภิปรายในสภาฯ จะเป็นลักษณะ ดาบ 1-2-3 หากดาบแรกตกหล่น คนที่เป็นดาบ2 จะรับหน้าที่ต่อไป โดยประเด็นหลักที่จะอภิปรายคือ นโยบาย โดยเฉพาะเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะทำ นอกจากนี้จะมุ่งเน้นไปที่ตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย เพราะคนที่จะเข้ามาขับเคลื่อนนโยบาย คือคนหน้าเดิมๆ

"การอภิปรายของเราจะมุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าจำนวนตัวผู้อภิปราย และไม่ห่วงเรื่องที่รัฐบาลตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ขึ้นมา เพราะก็อยู่กันมา 10-20 ปีแล้ว การอภิปรายหรือการประท้วงน่าจะอยู่ในกรอบที่ได้ตกลงกันไว้"

เมื่อถามถึง นโยบายการแก้รธน. นายสมพงษ์ กล่าวว่า นโยบายเรื่องการแก้ไขรธน. ของรัฐบาลถูกกำหนดไว้สั้นมาก เราจึงไม่คิดว่ารัฐบาลจะดำเนินการตามนั้น เพราะเขาไม่ได้เน้นเลย แต่ไปเน้นเรื่องอื่นๆ ที่ยังทำไม่ได้ แล้วเรื่องที่ไม่เน้น จะทำได้หรือ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายคุณสมบัตินายกฯ เพราะถือว่าเป็นคนที่มีความสำคัญ ในการจะเอานโยบายไปทำให้สำเร็จได้ ซึ่งรธน. กำหนดคุณสมบัตินายกฯไว้ ท่านต้องยืนยันความโปร่งใสนี้ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ และรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกสงสัย ต้องชี้แจง ไม่เช่นนั้นการที่ท่านขึ้นไปทำหน้าที่ขับเคลื่อนกระทรวงต่างๆ ท่ามกลางความสงสัยคงไม่สง่างาม

มท.สั่งเตรียมข้อมูลสู้ฝ่ายค้าน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บริหารในกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดีทุกกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำงานปลัดกระทรวงฯ ปลัด กทม. และปลัดเมืองพัทยา เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยขอให้ติดตามการถ่ายทอดสดการแถลงนโยบายฯ จัดเตรียมข้อมูลชี้แจง หากมีการอภิปรายพาดพิงในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ รมว.มหาดไทย และ รมช.มหาดไทย มอบหมายบุคลากรฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นรองอธิบดี รองผู้ว่าฯ หรือเทียบเท่า ประจำที่ตั้ง ณ หน่วยงาน รวมถึงมอบหมายเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยไปประจำศูนย์ประสานงานในการแถลงนโยบายฯ ที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หน่วยงานละ 2 คน เพื่อประสานการจัดทำข้อมูลชี้แจงของหน่วยงานด้วย

ให้เวลาฝ่ายค้านเต็มที่ 13ชั่วโมงครึ่ง

วานนี้ (23ก.ค.) มีการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่าย (ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-ส.ว.) เพื่อหารือเรื่องกำหนดกรอบเวลาในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ฏ,ษซหลังประชุม ว่า ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล จะใช้เวลาประมาณ 28 ชั่วโมงครึ่ง หรือ ประมาณ 2 วัน เศษๆ โดยตนและ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ในฐานะรองประธานรัฐสภา พยายามจะดูแลให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและจบในตอนกลางคืน ซึ่งเราจะเริ่มประชุมตั้งแต่ 09.30 น. และจบที่เวลาประมาณ 24.00-01.00 น.

สำหรับเวลาในการอภิปรายนั้น ฝ่ายรัฐบาลได้ 5 ชม. ซึ่งถือว่าได้น้อย แต่ไม่เป็นไร เพราะสามารถปรับในทางปฏิบัติได้ ส่วนฝ่ายค้านได้ 13 ชม.ครึ่ง ทั้งนี้ หากฝ่ายใดลุกขึ้นประท้วง ก็จะคิดเวลาของฝ่ายนั้นไป ใครที่เกเร ยุคสมัยนี้ชาวบ้านก็จะเป็นผู้ตรวจสอบ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่วิป3ฝ่ายหารือกัน เห็นชอบว่า จะมีการอภิปราย 2 วัน คือวันที่ 25 - 26 ก.ค. ตั้งแต่ 09.30.- 24.00 น. ซึ่งจะมีเวลาทั้งหมดประมาณ 29 ชม. โดยที่ประชุมเห็นควรให้ฝ่ายค้านมีเวลาอภิปราย13 ชม. 30 นาที คณะรัฐมนตรี (ครม.) 5 ชั่วโมง ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล 5 ชั่วโมง สมาชิกวุฒิสภา 5 ชม. รวม 28 ชม. 30 นาที โดยในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล แบ่งตามสัดส่วน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 123 นาที พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 63 นาที พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 59 นาที พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 12 นาที นอกจากนี้ พรรคชาติพัฒนา พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคพลังท้องถิ่นไท รวมกัน 17 นาที ส่วน 10 พรรคเล็กรวมกัน 20 นาที
กำลังโหลดความคิดเห็น