จับตา"บิ๊กป้อม"เข้าพปชร. เตรียมเล่นการเมืองเต็มตัว

"บิ๊กป้อม"ลงพื้นที่โคราช พร้อมร่วมประชุมสัมมนาพรรคพปชร. ที่วังน้ำเขียววันนี้ จับตาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เล่นการเมืองเต็มตัว "อุตตม" เผย "บิ๊กตู่" ไม่กังวลแถลงนโยบายรัฐบาล พร้อมชี้แจงหากโดนซักฟอกเรื่องคุณสมบัติ ส่วนร่างคำแถลงนโยบายถึงสภา "ชวน" ถอดสูทขนด้วยตัวเอง พร้อมจัดส่งให้สมาชิก อัปข้อมูลเว็บไซต์ของรัฐสภาแล้ว เปิดนโยบายหลัก 12 เรื่อง นโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ที่ "บิ๊กตู่" จะแถลงต่อรัฐสภา เพื่อพัฒนาประเทศทุกด้าน แก้ปัญหาปากท้องประชาชน และปกป้องสถาบันฯ

วานนี้ (21ก.ค.) ที่โรงแรม การ์มองเต้ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐได้จัดสัมมนาเพื่อเสริมศักยภาพ ส.ส. ระหว่างวันที่ 21-22ก.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาล

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวถึง การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา รวมถึงการที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายคุณสมบัติ รัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รวมไปถึงรัฐมนตรีทุกคน พร้อมที่จะชี้แจง เพราะได้เตรียมการไว้แล้ว รวมถึงเรื่องนโยบายที่เกี่ยวข้องของแต่ละกระทรวง ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้ ส.ส.ได้เตรียมการ สำหรับการทำหน้าที่ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เพื่อจัดทัพ ว่าใครจะทำหน้าที่ในส่วนใดบ้าง

นายอุตตม บอกด้วยว่า ยังไม่ได้รับแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.โหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะมาร่วมการสัมมนาในครั้งนี้หรือไม่ รวมทั้งยังไม่มีข้อมูลว่า จะมาสมัครสมาชิก หรือมาดำรงตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาล และการอภิปรายของฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ว่า ได้เชิญ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐษนะเลขาธิการพรรคฯ มาพูดถึงแนวนโยบายรัฐบาล เบื้องต้นได้แบ่งคนที่จะทำหน้าที่อภิปรายนโยบายรัฐบาล และดูแลกฎ ระเบียบ ข้อบังคับในสภา ฝั่งละ 30 คน ส่วนการอภิปรายของฝ่ายค้าน เราแบ่งเวลาให้ 13 ชม.ครึ่ง ส่วนที่เหลือกอีกประมาณ 15 ชม. เป็นของรัฐบาล ส.ส. และ ส.ว. ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง ซึ่งการแบ่งเวลาเช่นนี้ ถือว่ารัฐบาลใจกว้างมาก ให้มากกว่ารัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ให้เวลา 10 ชม. ทั้งหมดเป็นการตอบโจทย์ว่า เราให้เวลาได้มากกว่าทุกๆ ครั้ง โดยการอภิปรายจะสิ้นสุดในเวลา 24.00 น. ของวันที่ 26 ก.ค. รวมเวลา 2 วัน 30 ชม.

ส่วนรัฐมนตรีที่คาดว่า จะถูกฝ่ายค้านซักฟอก เชื่อว่าแต่ละคนจะมีการเตรียมความพร้อมทั้งเอกสาร และคำชี้แจงไซ็แล้ว ส่วนทางพรรค จะดูแลในเรื่องของข้อบังคับการประชุม ส่วนคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี เคยมีการอธิบายเรื่องนี้แล้วในที่ประชุมรัฐสภา ก่อนลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จึงขึ้นอยู่กับฝ่ายค้าน จะพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ ที่จะนำเรื่องนี้มาอภิปรายซ้ำ อีกทั้งเรื่องนี้ก็อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ แล้ว

จับตา"บิ๊กป้อม"สมัครสมาชิกพปชร.

นายวิรัช ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาร่วมงานสัมมนาพรรค ในวันนี้ (22ก.ค.) หรือไม่ว่า "ขอให้รอดูดีกว่า ว่าท่านจะมาหรือไม่ ถ้าเกิดออกข่าวไปว่า ท่านมา แล้วสุดท้ายท่านไม่มา ผมก็เสียอีก ขอให้รอดูดีกว่า ถ้ามาก็เห็น"

เมื่อถามว่า พรรคได้จัดเตรียมเอกสาร แบบฟอร์มสมัครสมาชิกพรรค ให้ทั้ง 2 ท่านแล้วใช่หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า "ก็อยู่ที่ตัวท่าน วันนี้ถ้าดูตามกฎหมายแล้ว ท่านสามารถดำเนินกิจกรรมร่วมกับพรรคการเมืองได้ ตั้งแต่วันที่ท่านเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เพราะฉะนั้น ในส่วนตรงนี้ก็ถือว่า ท่านเป็นส่วนหนึ่งของพรรคแล้ว และท่านก็ส่งข่าวมาตลอด และถ้าเผื่อท่านมา ก็ต้องถือว่าท่านมีส่วนร่วม หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน เรื่องวัน เวลา ก็อาจจะมาได้ และสัปดาห์หน้า ก็จะได้มีโอกาสได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง"

ทั้งนี้แหล่งข่าวกล่าวว่า วันนี้ (22พ.ค.) พล.อ.ประวิตร จะมาร่วมประชุมสัมมนาด้วย เพื่อเป็นการให้กำลังใจ ส.ส. และถือเป็นการเปิดตัวเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว เพราะขณะนี้ไม่ได้เป็น คสช.แล้ว และจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพปชร.ด้วย

"บิ๊กตู่"อยู่กรุงเทพฯ-"บิ๊กป้อม"ไปโคราช

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า วันนี้(22 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีภารกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงช่วงเย็น โดยในเวลา 13.30 น. นายกาย ไรเดอร์ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมด้านการศึกษาระดับโลก ครั้งที่ 8 และเยือนประเทศสมาชิกในโอกาสครบรอบ 100 ปี ILO ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นในเวลา 16.45 น.นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลและพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค.62 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนี ที่พระลานพระราชวังดุสิต

ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไม่ได้มีการแจ้งวาระงานอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.ค.พล.อ.ประวิตร มีภารกิจเดินทางไปตรวจราชการด้านความมั่นคง ที่ จ.นครราชสีมา โดยหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จะเดินทางไปให้กำลังใจ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในช่วงการปิดสัมมนาที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาด้วย โดยจะใช้เวลาไม่นานก็จะเดินทางกลับ

"ชวน"ถอดสูทขนร่างนโยบายฯ

วานนี้ (21 ก.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขานุการประธานรัฐสภา เดินทางมายังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบเอกสาร ร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่จะใช้แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ซึ่งเอกสารได้ส่งมาถึงสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเวลา12.35 น. โดย นายชวน พร้อมคณะทำงาน ได้ลงไปรับเอกสารทั้งหมด และมีข้อสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่รัฐสภาให้ทำการบรรจุหีบห่อ และจัดส่งให้กับสมาชิกรัฐสภาทันที ภายในเวลา 14.00 ของวันเดียวกัน ซึ่งนายชวน ได้กำกับดูแลในการดำเนินการบรรจุหีบห่อ และช่วยเจ้าหน้าที่ขนเอกสาร เพื่อส่งให้สมาชิกด้วยตนเอง อีกทั้งได้สั่งการให้นำข้อมูลขึ้นออนไลน์ บนเว็บไซต์ของสภาฯ เพื่อให้สมาชิกสามารถดาวน์โหลดได้ทันที

ด้านนายอิสระ กล่าวว่า ประธานรัฐสภา มีความกังวลเกี่ยวกับการส่งเอกสาร ร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ที่จะต้องจัดส่งให้สมาชิกรัฐสภา ซึ่งแม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุด แต่ท่านได้ติดตามเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ทราบว่าเอกสารเพิ่งเดินทางมาถึง ที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เมื่อเวลา 12.35 น. ท่านจึงรีบสั่งการให้ดำเนินการบรรจุหีบห่อ และจัดส่งให้กับสมาชิกรัฐสภาให้แล้วเสร็จ ภายในเวลา 14.00น. ของวันเดียวกัน เพื่อให้สมาชิกมีเวลาพิจารณาศึกษาเอกสารดังกล่าวให้มากที่สุด ซึ่งนายชวน ได้เดินทางมากำกับดูแลในการดำเนินการบรรจุหีบห่อและส่งเอกสารดังกล่าวด้วยตนเอง ทั้งนี้ สมาชิกสามารถดาวโหลดเอกสารดังกล่าวได้แล้ว ที่เว็บไซต์ของรัฐสภา

เปิดนโยบายหลัก12เรื่องเร่งด่วน12 เรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการครม. ได้ส่งอีเมล์เอกสารคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่ นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงต่อรัฐสภา ในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ไปถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาแล้ว โดยนายกฯ จะกล่าวถึงนโยบายหลักของรัฐบาล 12 ด้าน และนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง โดยนโยบายหลัก ซึ่งเป็นทิศทางการบริหารของรัฐบาลใน 4 ปีข้างหน้า มีดังนี้ 1. ปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ 2. สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ 3. ทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม 4. สร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก 5. พัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย 6. พัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค 7. พัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก 8. ปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย 9. พัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทาง สังคม 10. ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 11. ปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ 12. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรม

ส่วนนโยบายเร่งด่วน 12 ด้านนั้นไม่ได้กำหนดกรอบเวลา มีดังนี้ 1. แก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน 2. ปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 3. มาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก 4. ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม 5. ยกระดับศักยภาพของแรงงาน 6. วางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต 7. เตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 8. แก้ปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมือง และฝ่ายราชการประจํา 9. แก้ปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ 10. พัฒนาระบบการให้บริการประชาชน 11. จัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้ง และอุทกภัย 12. สนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ นโยบายสำคัญ ที่สังคมให้ความสนใจเช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ที่พรรคพปชร. หาเสียงไว้ มีกำหนดไว้ในนโยบายเร่งด่วน ข้อ 5 แต่ไม่ได้ระบุว่า จะขึ้นค่าแรงเมื่อใด และเท่าไร ระบุให้รอการพิจารณาของคณะกรรมการไตรภาคี ส่วนนโยบายการแก้ไขรธน.นั้น มีกำหนดไว้ในนโยบายเร่งด่วน ข้อ 12 เพียง 3 บรรทัด ไม่ได้กำหนดเวลา แต่ตีกรอบว่าให้มีพิจารณาศึกษาการแก้ไขรธน. ในส่วนของวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรธน.

ส่วนนโยบายเร่งด่วน ข้อ 7 การเตรียมคนไทยเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ยังมีจุดที่น่าสนใจว่า จะเกิดการควบคุมข้อมูลข่าวสาร ในโซเชียลฯ หรือไม่ เพราะมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า "ให้สร้างความรู้ความเข้าใจ การใช้ดิจิทัล สื่อออนไลน์ และโครงข่ายสังคมออนไลน์ ของคนไทย เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบเชิงสังคม ความปลอดภัย อาชญากรรมทางไซเบอร์ และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง"

ปชป.วาง 3 แนวทางในการอภิปราย

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคปนะชาธิปัตย์ ในฐานะประธานส.ส.ของพรรค กล่าวถึงว่า ตนได้เชิญ ส.ส.ของพรรค มาประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม ในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ ในส่วนของ ส.ส.ประชาธิปัตย์ มีผู้ให้ความสนใจที่จะอภิปรายนโยบายของรัฐบาล จำนวนมาก ซึ่งพรรคฯจะประชุมพิจารณาบุคคลที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้ส.ส. ได้แสดงบทบาทอย่างเต็มที่ การแถลงนโยบายครั้งนี้ และจะอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ โดยมี 3 แนวทางดังนี้ 1. นโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียงไว้ช่วงเลือกตั้ง ได้ถูกนำมาบรรจุไว้ในนโยบายครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไร 2. นำเสนอข้อมูล มาตรการ การปฏิบัติตามนโยบาย ให้ได้ผลจริงในทางปฏิบัติ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อการทำงานของรัฐบาล และ 3. ตรวจสอบความเป็นไปได้ของนโยบาย ทั้งนโยบายเร่งด่วน และนโยบายหลัก เชื่อมั่นว่าการอภิปรายนโยบายของส.ส. ประชาธิปัตย์ จะช่วยทำให้รัฐบาลมีข้อมูลที่ครบถ้วน หลากหลาย นำไปใช้กับการบริหารประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวมต่อไป

เสรีพิศุทธ์"เดินหน้าล้างมรดกคสช.

พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายว่า ให้ดูเรื่องการจัดการมรดกของคสช. ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งกลไกผ่านรัฐธรรมนูญ ทั้งส.ว. 250 คน องค์กรอิสระ อย่างกกต. ที่จัดการเลือกตั้งและคำนวณผลการเลือกตั้ง จนทำให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และตัดคะแนนเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะไปคำนวณเป็นส.ส.ไป 10 กว่าคน ส่งผลถึงคะแนนเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย

"ตอนนี้ผมทำหนังสือข้อมูล ถึงคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารแห่งชาติ เพื่อขอข้อมูลของ กกต. ในการดำเนินการวินิจฉัยยกคำร้องที่ผมยื่นตรวจสอบพรรคพปชร. ทั้งเรื่องคุณสมบัติการเป็นนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การคำนวนสูตร ส.ส.ของกกต.ว่ามีเหตุผลใด ในการคำนวณส.ส. โดยใช้คะแนน 3-4 หมื่นคะแนนได้ส.ส. 1 คน ทำให้คะแนนของพรรคฝ่ายค้านหายไป ทั้งที่ควรจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 10 คน" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว