รอง ผบ.ตร. แถลงทลายขบวนการยาลดอ้วนมรณะ พบเป็นโรงงานผลิตรายใหญ่สุดของประเทศ เจ้าของเคยผลิตยาลดความอ้วน "ลีน" ในเครือเมจิกสกิน ที่สมุทรสาคร เมื่อถูกตำรวจบุกเข้าทลายจึงไปสร้างโรงงานใหม่ที่ กาฬสินธุ์ ด้าน สคบ. แฉแหลก "ตร.ปคบ." มีเอี่ยว เป็นผู้ส่งผงยาไปให้ทำการผลิต
วานนี้ (7ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. แถลงผลการทลายโรงงานผลิตยาลดความอ้วน และเครือข่ายผู้จำหน่าย หลังเกิดกรณีน.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เสียชีวิต หลังสั่งยาลดความอ้วนจากคลินิกออนไลน์ จากเพจ "OBECARE"มารับประทาน
หลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วน ตั้งแต่ผู้ผลิต และผู้จำหน่าย รวม7 คน ประกอบด้วย น.ส.อัญมณี หีบแก้ว ซึ่งเปิดบัญชีรับโอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 34 ล้านบาท ในรอบปี นางต้อย เจ้าของโรงงานผลิต (บริษัท ดีดีคอสเมด จำกัด) หมอเดียร์ เจ้าของคลินิก ซึ่งเป็นลูกสาวของโรงงานผลิต มีผู้ร่วมกิจการ 2 คน คือน.ส.ปลา และ นายต่อ หุ้นส่วน โอบีแคร์ รวมถึงผู้ส่งยาลดความอ้วนอีก 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายจิรายุส พลศิริ เป็นคนไปส่งยาลดความอ้วน ที่ไปรษณีย์เภตรา จ.ปทุมธานี ให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ น.ส.ปลา นายต่อ และผู้ส่งยาจะได้รับค่าจ้างจากหมอเดียร์ เดือนละ 300,000 บาท
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของน.ส.มรกต จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิต จากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต หากผลออกมาว่า เกิดจากการกินยาลดความอ้วน ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
"สำหรับโรงงานผลิตยาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาลดความอ้วนผิดกม.รายใหญ่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ ยังพบความเชื่อมโยงว่า เดิมทีเจ้าของรง. เป็นขบวนการที่เคยตั้งรง. ผลิตยาลดความอ้วน "ลีน" ในเครือเมจิกสกิน ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกตำรวจบุกเข้าทลายรง. จึงมาสร้างใหม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในวันที่เข้าตรวจค้น พบลูกจ้างกำลังเผาทำลาย ยาไซบูทรามีน อยู่ 5 จุด โดยสูตรยาทุกตัวที่ผลิตจากโรงงาน มีส่วนผสมของไซบูทรามีนทั้งสิ้น และ จะใช้วิธีจ่ายยาเป็นชุด เพื่อกดอาการข้างเคียงของไซบูทรามีน จำนวน 7 ชนิด อาทิ ยานอนหลับ แก้อากการนอนไม่หลับ ยาระบาย เพื่อแก้อาการท้องผูก และยาแก้อาการใจสั่น ให้รับประทานไปควบคู่กัน หากบริโภคเข้าไปปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้ระบบไต และตับ ทำงานหนักและวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตในที่สุด" รองผบ.ตร. กล่าว
สำหรับ หมอเดียร์นั้น เป็นอดีตเภสัชกร ที่ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ และเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว รวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงอาญา 2 ปี พบว่าเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก โดยมีลูกจ้างคือ น.ส.ปลา และนายต่อ 2 สามีภรรยา ที่ติดหนี้กว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากเคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาจากโรงงาน แต่ถูกจับ ทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่ายา จึงมาขอทำงานใช้หนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากเพจเฟซบุ๊กโอบีแคร์ จำนวน 5,619 ราย สามารถไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุได้ เพื่อดำเนินกับบุคคลเหล่านี้ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกว่า 30 ล้านบาท
ส่วนกรณีเจ้าของโรงงานกล่าวอ้างว่า มีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน จ.กาฬสินธุ์ สอบสวนแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องปกปิด ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นผู้กระทำผิด และหากมีการพาดพิงถึงข้าราชการคนไหน ให้ปรากฏไว้ในสำนวน หลังจากผู้ต้องหาได้ให้การทั้งหมดเรียบร้อย ได้ให้ผู้ต้องหา รวมถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีมาพบในวันพุธที่ 10 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะเรียก เจ้าของโรงงาน หมอเดียร์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขอเรียนว่า ที่มีข่าวว่าเป็น สคบ.นั้น เป็นข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ตนยังไม่เคยให้สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นผู้ใหญ่ใน สคบ. หรือเป็นใคร แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่า หากมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า ถ้ามี ก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นข้าราชการหน่วยใด และถ้าเป็นตำรวจ จะยิ่งดำเนินการได้อย่างเต็มที่
ส่วนที่มีรายงานว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ปคบ.นั้น ทางพล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอเวลาให้ตนได้ดำเนินการตรวจสอบก่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างจะมาพบตน ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ในฐานะผู้เสียหายคดีถูกเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน โดยขอยืนยัน หากพบข้าราชการเรียกรับสินบนจริง จะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญา ถึงที่สุด
สคบ.แฉ ที่แท้ "ตร.ปคบ." มีเอี่ยว
วันเดียวกันนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชี้แจงว่า จากกรณีข่าวแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ. เรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน ที่มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้มีรายงานความคืบหน้าแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าหน้าที่ สคบ.ได้เดินทางไปยัง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหาข้อเท็จจริง และร่วมสอบสวนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน การสอบสวนผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องจากกรณีดังกล่าว
ทราบว่า ผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ.นั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 ซึ่งตรงกับที่ผู้ต้องหาให้การ เมื่อถูกจับกุม "ขณะนี้ทราบชื่อและยศของนายตำรวจดังกล่าวแล้ว" หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะนำมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวสาวอ่างทองกินยาลดความอ้วนแล้วเสียชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายยาดังกล่าว โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ตัวผงยารวมไปถึงผลิตภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในชั้น 4 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมกับเรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน
วานนี้ (7ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. แถลงผลการทลายโรงงานผลิตยาลดความอ้วน และเครือข่ายผู้จำหน่าย หลังเกิดกรณีน.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เสียชีวิต หลังสั่งยาลดความอ้วนจากคลินิกออนไลน์ จากเพจ "OBECARE"มารับประทาน
หลังเกิดเหตุได้มีการสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วน ตั้งแต่ผู้ผลิต และผู้จำหน่าย รวม7 คน ประกอบด้วย น.ส.อัญมณี หีบแก้ว ซึ่งเปิดบัญชีรับโอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 34 ล้านบาท ในรอบปี นางต้อย เจ้าของโรงงานผลิต (บริษัท ดีดีคอสเมด จำกัด) หมอเดียร์ เจ้าของคลินิก ซึ่งเป็นลูกสาวของโรงงานผลิต มีผู้ร่วมกิจการ 2 คน คือน.ส.ปลา และ นายต่อ หุ้นส่วน โอบีแคร์ รวมถึงผู้ส่งยาลดความอ้วนอีก 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายจิรายุส พลศิริ เป็นคนไปส่งยาลดความอ้วน ที่ไปรษณีย์เภตรา จ.ปทุมธานี ให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ น.ส.ปลา นายต่อ และผู้ส่งยาจะได้รับค่าจ้างจากหมอเดียร์ เดือนละ 300,000 บาท
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของน.ส.มรกต จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใคร เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิต จากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต หากผลออกมาว่า เกิดจากการกินยาลดความอ้วน ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
"สำหรับโรงงานผลิตยาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาลดความอ้วนผิดกม.รายใหญ่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ ยังพบความเชื่อมโยงว่า เดิมทีเจ้าของรง. เป็นขบวนการที่เคยตั้งรง. ผลิตยาลดความอ้วน "ลีน" ในเครือเมจิกสกิน ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกตำรวจบุกเข้าทลายรง. จึงมาสร้างใหม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในวันที่เข้าตรวจค้น พบลูกจ้างกำลังเผาทำลาย ยาไซบูทรามีน อยู่ 5 จุด โดยสูตรยาทุกตัวที่ผลิตจากโรงงาน มีส่วนผสมของไซบูทรามีนทั้งสิ้น และ จะใช้วิธีจ่ายยาเป็นชุด เพื่อกดอาการข้างเคียงของไซบูทรามีน จำนวน 7 ชนิด อาทิ ยานอนหลับ แก้อากการนอนไม่หลับ ยาระบาย เพื่อแก้อาการท้องผูก และยาแก้อาการใจสั่น ให้รับประทานไปควบคู่กัน หากบริโภคเข้าไปปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้ระบบไต และตับ ทำงานหนักและวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตในที่สุด" รองผบ.ตร. กล่าว
สำหรับ หมอเดียร์นั้น เป็นอดีตเภสัชกร ที่ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ และเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว รวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงอาญา 2 ปี พบว่าเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก โดยมีลูกจ้างคือ น.ส.ปลา และนายต่อ 2 สามีภรรยา ที่ติดหนี้กว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากเคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาจากโรงงาน แต่ถูกจับ ทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่ายา จึงมาขอทำงานใช้หนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากเพจเฟซบุ๊กโอบีแคร์ จำนวน 5,619 ราย สามารถไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุได้ เพื่อดำเนินกับบุคคลเหล่านี้ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกว่า 30 ล้านบาท
ส่วนกรณีเจ้าของโรงงานกล่าวอ้างว่า มีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน จ.กาฬสินธุ์ สอบสวนแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องปกปิด ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นผู้กระทำผิด และหากมีการพาดพิงถึงข้าราชการคนไหน ให้ปรากฏไว้ในสำนวน หลังจากผู้ต้องหาได้ให้การทั้งหมดเรียบร้อย ได้ให้ผู้ต้องหา รวมถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีมาพบในวันพุธที่ 10 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะเรียก เจ้าของโรงงาน หมอเดียร์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ขอเรียนว่า ที่มีข่าวว่าเป็น สคบ.นั้น เป็นข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ตนยังไม่เคยให้สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นผู้ใหญ่ใน สคบ. หรือเป็นใคร แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่า หากมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ดร.วิระชัย กล่าวว่า ถ้ามี ก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นข้าราชการหน่วยใด และถ้าเป็นตำรวจ จะยิ่งดำเนินการได้อย่างเต็มที่
ส่วนที่มีรายงานว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ปคบ.นั้น ทางพล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอเวลาให้ตนได้ดำเนินการตรวจสอบก่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างจะมาพบตน ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ ในฐานะผู้เสียหายคดีถูกเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน โดยขอยืนยัน หากพบข้าราชการเรียกรับสินบนจริง จะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญา ถึงที่สุด
สคบ.แฉ ที่แท้ "ตร.ปคบ." มีเอี่ยว
วันเดียวกันนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ชี้แจงว่า จากกรณีข่าวแอบอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ. เรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน ที่มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ขณะนี้มีรายงานความคืบหน้าแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าหน้าที่ สคบ.ได้เดินทางไปยัง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อหาข้อเท็จจริง และร่วมสอบสวนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน การสอบสวนผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องจากกรณีดังกล่าว
ทราบว่า ผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง สคบ.นั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 ซึ่งตรงกับที่ผู้ต้องหาให้การ เมื่อถูกจับกุม "ขณะนี้ทราบชื่อและยศของนายตำรวจดังกล่าวแล้ว" หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะนำมารายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวสาวอ่างทองกินยาลดความอ้วนแล้วเสียชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายยาดังกล่าว โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ตัวผงยารวมไปถึงผลิตภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในชั้น 4 สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคส่วนกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมกับเรียกรับเงินเดือนละ 20,000 บาท เพื่อการประกอบธุรกิจขายยาลดความอ้วน