xs
xsm
sm
md
lg

"เพื่อไทย"รื้อเงินกู้กรุงไทย ถาม"นายแม้ว-ลูกโอ๊ค"หรือยัง !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ก็พอเข้าใจได้ว่าการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (บางคน) กำลังจะตั้งกระทู้ถามสด "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังจากที่มั่นใจแล้วว่า อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ในรัฐบาลใหม่ ตามข่าวบอกว่าจะมีการขุดคุ้ยเอาเรื่องการทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย จำนวน 9,900 ล้านบาท เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนมาเล่นงาน โดยอ้างว่า อุตตม เป็นหนึ่งในห้าคณะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทยในยุคนั้น ที่ปล่อยกู้ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร โดยหยิบหยกเอาเรื่องหลักจริยธรรม และขัดรัฐธรรมนูญ แล้วแต่ที่จะอ้าง
สำหรับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นดังกล่าว หากพอติดตามร่องรอยจะเห็นการจุดพลุขึ้นมาก่อนจาก "พิชัย นริพทะพันธุ์" อดีตสมาชิกพรรคเพื่อชาติ ที่พยายามตั้งคำถามในเรื่องจริยธรรมจากเรื่องดังกล่าว ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ หากต้องมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และต่อมาก็มี "ชลน่าน ศรีแก้ว" ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็รับลูกยื่นกระทู้ถามสดในเรื่องนี้ตามมา
แม้ว่าในที่สุดแล้ว กระทู้ดังกล่าวได้ตกไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนาทีนี้หลายคนจะมองออกได้ไม่ยากว่านี่คือ "เกมป่วน" เพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาล และอุตตม เป็นหลัก แต่ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งผลที่จะตามมาก็ยังไม่รู้ว่า "แรงสั่นสะเทือน" จะย้อนกลับมาหาใครได้มากกว่ากัน
**หากกล่าวสำหรับคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทยนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 ในยุครัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร" ก็ต้องย้ำว่า เป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และแม้ว่าตามหลักการแล้วสำหรับการทุจริตมันไม่สมควรเป็นเรื่องเก่า หรือใหม่ ผิดถูกก็ต้องว่ากันไปแบบตรงไปตรงมาไม่มียกเว้น แต่สำหรับกรณีของ อุตตม สาวนายน นั้นผ่านมาหลายรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยมาหลายยุค กลับไม่เห็นมีเรื่องขุดคุ้ยเพื่อเอาผิดมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และแม้ว่าที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงไหน ก็ต้องดำเนินการหากพบว่ามีการกระทำผิด
แต่นี่ผ่านมาหลายรัฐบาล เกือบจะยี่สิบปีเข้าไปแล้ว และที่ผ่านมาหน่วยงานตรวจสอบการทุจริตทั้งหลายก็ไม่เคยฟ้องร้องให้ตกเป็นจำเลยมาก่อน
แต่อีกด้านหนึ่งกลับพบว่า มีแต่การฟ้องร้องดำเนินคดีกับรายอื่นๆ ทั้งนักการเมือง อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง ก็ได้พิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมปี 58 จำนวน 27 ราย คนละ 18 ปี และในจำนวนนั้นก็มี ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1 เสียด้วย แต่หลบหนีคดีไปก่อน ศาลจึงได้จำหน่ายคดีชั่วคราว แต่ล่าสุดเมื่อมีการออกกฎหมายฉบับใหม่ออกมาทำให้สามารถรื้อคดีดังกล่าวสำหรับกรณีของ ทักษิณ โดยเป็นการพิจารณาคดีแบบลับหลังจำเลย และเชื่อว่าอีกไม่นานนัก คงจะมีการพิพากษาคดีออกมา
**เมื่อดูกจากแบ็กกราวด์แล้ว สำหรับใครก็ตามที่เป็น"นายใหญ่" ก็น่าจะหนาวขึ้นไปอีก เพราะในจำนวน 26 รายก่อนหน้านั้น โดนไปคนละ 18 ปี ดังนั้นสำหรับจำเลยที่ 1 หวยจะออกแบบไหนก็น่าจะเดาออก
ส่วนที่ตามติดกันมาหลังจากยืดเยื้อกันมานาน ก็คือ "ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ในที่สุดก็ต้องโดนคดีไปด้วย จากคดีไปเกี่ยวโยงกับคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย โดยถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดี "ร่วมกันฟอกเงิน" ในศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลนัดพิพากษาคดี ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปีนี้ และเขาก็ย้ำว่า "ไม่หนี"
ซึ่งก็ต้องรอพิสูจน์กันต่อไปว่า พูดจริงหรือไม่ แต่เวลานี้ถือว่าเวลาไล่หลังกระชั้นเข้ามาทุกทีแล้ว
ที่ผ่านมาถือว่าเรื่องเงียบไปพักหนึ่งแล้ว การที่มีการจุดพลุขึ้นมาจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยดังกล่าวข้างต้น มันก็ทำให้คดีนี้ "ถูกสะกิด" ขึ้นมาอีกครั้ง ให้กลายเป็นที่จับตาอีกครั้งหรือไม่ และเป้าหมายหลักก็น่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร กับ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร มากกว่า โดยเฉพาะรายหลัง จะต้องถูกจับตาว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ "จะหนี" หรือไม่ หนี เพราะงานนี้ "เสี่ยงคุก" สูงมาก
**ดังนั้นถึงได้บอกว่า การจะรื้อเรื่องคดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทยขึ้นอีกครั้ง เพื่อหมายมั่นปั้นมือจะดิสเครดิตรัฐบาล ดิสเครดิต อุตตม สาวนายน แต่เมื่อเป็นเรื่องเก่าผ่านมาเกือบยี่สิบปี และที่ผ่านมา อุตตม ก็เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ทำไมไม่จัดการตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมต้องรอให้เป็นรัฐมนตรีคลังเสียก่อน และที่สำคัญจะขุดเรื่องที่ว่านี้ ถาม "นายแม้ว กับลูกโอ๊ค" แล้วหรือยัง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น