วานนี้ (2ก.ค.) ที่หอประชุมบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนาะ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดโครงการสัมมนาส.ว. ประจำปี 2562 โดยนายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อภิปราย เรื่อง "ความสำคัญของการกลั่นกรองกฎหมายของส.ว." ว่า ส.ว.ชุดนี้เกิดมาจากปัญหาการเมืองขาดการตรวจสอบ ดังนั้นวุฒิสภา ต้องมีที่มาที่แตกต่าง จึงออกแบบมาเพื่อให้เป็นสภาพลเมือง สภาเติมเต็ม เป็นผู้ค้านพรรคการเมือง หากเห็นว่าอะไรไม่ดี ก็ต้องท้วงถาม นี่คือประสงค์ของรธน.
ทั้งนี้ รธน.กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศ ในหมวด 16 ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ถ้ารัฐบาลหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามกม.จริงจัง ถึงขั้นให้ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ได้ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ การปฏิรูปประเทศอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยกระดับให้ความสำคัญถึงขั้นกำหนดไว้ในรธน. และยกให้เป็นหน้าที่ของส.ว.ในการตรวจสอบรัฐบาล ว่าคืบหน้าอย่างไร พร้อมกำหนดให้ครม.รายงานให้ทราบทุก 3 เดือน
"ส.ว.ต้องทำหน้าที่ตาม มาตรา 270 ติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน 7 ด้านการปฏิรูป ทั้งนี้เรื่องการปฏิรูป ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่ทำมาตั้งแต่สภาปฏิรูปประเทศแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ บทเรียนของการปฏิรูปประเทศบอกเลยว่า จะรอแต่ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ดึงไปทางนั้นที ทางนี้ที ไม่ได้ อย่างน้อยต้องมีเป้าหมายชัดเจน ส.ว.ต้องทำให้สิ่งที่รธน. กำหนดเกิดมรรคเกิดผล" อดีต กรธ. กล่าว
นายอุดม กล่าวด้วยว่า วุฒิสภาดูเหมือนว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ขอเรียนว่า เป็นความปรารถนาของรธน.ที่จะทำให้เกิดความเชื่อมต่อ ดังนั้น ส.ว.จึงมีบทบาทนำสู่การเมืองที่ควรจะเป็น หากคิดว่าการกระทำใดจะทำให้เกิดปัญหา วุฒิสภาควรให้ข้อแนะนำ ตรวจสอบ และท้วงติงคนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยนำเอากฎเกณฑ์ หลักการวางกรอบให้เขาปฏิบัติ
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบทบาทของส.ว. กับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ ตอนหนึ่ง ว่า วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนไปร่วมประชุม สนช. ซึ่งมีอดีต สนช. สอบถามถึงการอยู่ร่วมกัน ตนบอกไปว่าเมื่อลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ทั้งนี้ปัจจุบันเรือแป๊ะ ส่งผู้โดยสารขึ้นท่าแล้วที่คลองผดุงกรุงเกษม แต่แป๊ะคนเดิมไปต่อด้วยเรือลำใหม่ ซึ่งตนเปรียบไม่ได้ว่า เรือของรัฐบาลใหม่ จะเป็นเรืออะไร แต่เรือลำดังกล่าวจะไปลำบากมากขึ้น เพราะไม่มีใครตามใจ ขณะที่กัปตันต้องตามใจลูกเรือ
"เรือต้องเดินหน้าต่อไป สุดแต่จะไปไหน เรือที่ลอยในน้ำ มีสำนวนไทยเปรียบว่าเป็น เรือปริ่มน้ำ แปลว่า ร่อๆ แร่ๆ สภาพเวลานี้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ปริ่มน้ำนั้นไม่อันตราย เพราะจะช่วยให้ระวัง แต่ที่สำคัญคือ กัปตัน ลูกเรือ และผู้โดยสาร ต้องร่วมมือกัน ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ หากใครไม่อยากวิดน้ำ เพราะวิดไม่เป็น หรือไม่สะดวก หรือไม่สบาย ก็อย่าเอาเท้าราน้ำ หรือที่เรียกว่า มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ขอให้นั่งนิ่งๆ สวดมนต์ เพราะหากเรือล่ม จะจมทั้งลำ เดือดร้อนทั้งประเทศ ซึ่งผมขอฝากส.ว. ด้วย แม้ไม่รู้ว่าจะอยู่ในกลุ่มลูกเรือ หรือผู้โดยสาร แต่หากเรือล่ม ต้องได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้นขอให้ ส.ว. ทำหน้าที่บทบาทให้ดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ตนขอเตือนส.ว. ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรธน. คือ 1. มาตรา 114 ส.ว. ต้องเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของใคร 2. มาตรา 113 ส.ว. ต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง หรือตกอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง 3. มาตรา 144 ส.ว. ต้องไม่แปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ของตนเอง 4. มาตรา 114 ส.ว. ต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ใดๆของรัฐ ดังนั้นขอให้ระวังการร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งรวมถึงกรรมการกองผ้าป่า 5. ไม่ดำเนินการใดๆที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม และ 6. อย่าขาดประชุมเกิน 1 ใน 4 ของสมัยประชุม เพราะโทษของการกระทำผิดดังกล่าว คือการพ้นจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ รธน.กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศ ในหมวด 16 ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ถ้ารัฐบาลหรือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามกม.จริงจัง ถึงขั้นให้ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ได้ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ การปฏิรูปประเทศอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยกระดับให้ความสำคัญถึงขั้นกำหนดไว้ในรธน. และยกให้เป็นหน้าที่ของส.ว.ในการตรวจสอบรัฐบาล ว่าคืบหน้าอย่างไร พร้อมกำหนดให้ครม.รายงานให้ทราบทุก 3 เดือน
"ส.ว.ต้องทำหน้าที่ตาม มาตรา 270 ติดตาม เสนอแนะ เร่งรัดการปฏิรูปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน 7 ด้านการปฏิรูป ทั้งนี้เรื่องการปฏิรูป ไม่ใช่เพิ่งเกิด แต่ทำมาตั้งแต่สภาปฏิรูปประเทศแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ บทเรียนของการปฏิรูปประเทศบอกเลยว่า จะรอแต่ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ดึงไปทางนั้นที ทางนี้ที ไม่ได้ อย่างน้อยต้องมีเป้าหมายชัดเจน ส.ว.ต้องทำให้สิ่งที่รธน. กำหนดเกิดมรรคเกิดผล" อดีต กรธ. กล่าว
นายอุดม กล่าวด้วยว่า วุฒิสภาดูเหมือนว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่ขอเรียนว่า เป็นความปรารถนาของรธน.ที่จะทำให้เกิดความเชื่อมต่อ ดังนั้น ส.ว.จึงมีบทบาทนำสู่การเมืองที่ควรจะเป็น หากคิดว่าการกระทำใดจะทำให้เกิดปัญหา วุฒิสภาควรให้ข้อแนะนำ ตรวจสอบ และท้วงติงคนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยนำเอากฎเกณฑ์ หลักการวางกรอบให้เขาปฏิบัติ
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบทบาทของส.ว. กับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ ตอนหนึ่ง ว่า วันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนไปร่วมประชุม สนช. ซึ่งมีอดีต สนช. สอบถามถึงการอยู่ร่วมกัน ตนบอกไปว่าเมื่อลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ ทั้งนี้ปัจจุบันเรือแป๊ะ ส่งผู้โดยสารขึ้นท่าแล้วที่คลองผดุงกรุงเกษม แต่แป๊ะคนเดิมไปต่อด้วยเรือลำใหม่ ซึ่งตนเปรียบไม่ได้ว่า เรือของรัฐบาลใหม่ จะเป็นเรืออะไร แต่เรือลำดังกล่าวจะไปลำบากมากขึ้น เพราะไม่มีใครตามใจ ขณะที่กัปตันต้องตามใจลูกเรือ
"เรือต้องเดินหน้าต่อไป สุดแต่จะไปไหน เรือที่ลอยในน้ำ มีสำนวนไทยเปรียบว่าเป็น เรือปริ่มน้ำ แปลว่า ร่อๆ แร่ๆ สภาพเวลานี้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ปริ่มน้ำนั้นไม่อันตราย เพราะจะช่วยให้ระวัง แต่ที่สำคัญคือ กัปตัน ลูกเรือ และผู้โดยสาร ต้องร่วมมือกัน ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ หากใครไม่อยากวิดน้ำ เพราะวิดไม่เป็น หรือไม่สะดวก หรือไม่สบาย ก็อย่าเอาเท้าราน้ำ หรือที่เรียกว่า มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ขอให้นั่งนิ่งๆ สวดมนต์ เพราะหากเรือล่ม จะจมทั้งลำ เดือดร้อนทั้งประเทศ ซึ่งผมขอฝากส.ว. ด้วย แม้ไม่รู้ว่าจะอยู่ในกลุ่มลูกเรือ หรือผู้โดยสาร แต่หากเรือล่ม ต้องได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้นขอให้ ส.ว. ทำหน้าที่บทบาทให้ดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ตนขอเตือนส.ว. ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรธน. คือ 1. มาตรา 114 ส.ว. ต้องเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของใคร 2. มาตรา 113 ส.ว. ต้องไม่ฝักใฝ่พรรคการเมือง หรือตกอยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง 3. มาตรา 144 ส.ว. ต้องไม่แปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ของตนเอง 4. มาตรา 114 ส.ว. ต้องไม่เป็นเจ้าหน้าที่ใดๆของรัฐ ดังนั้นขอให้ระวังการร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งรวมถึงกรรมการกองผ้าป่า 5. ไม่ดำเนินการใดๆที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม และ 6. อย่าขาดประชุมเกิน 1 ใน 4 ของสมัยประชุม เพราะโทษของการกระทำผิดดังกล่าว คือการพ้นจากตำแหน่ง