xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กตู่ได้เวลาโชว์ภาวะผู้นำ ทุบโต๊ะปิดเกมต่อรองเก้าอี้รมต.!!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

"คุยกันแล้ว ไม่มีปัญหา บ้านเมืองมาก่อนเสมอ"
"ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ ก็แล้วกัน นายกฯเป็นหัวหน้า ครม."
คำพูดดังกล่าวของ"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เผยให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล ออกมาให้เห็นชัด โดยเฉพาะการลงมาจัดการกับปัญหาความวุ่นวาย จากการต่อรองแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดเผยว่า "ได้คุยกันแล้ว ไม่มีปัญหา" ในความหมายก็คือ เขาได้ลงมาต่อสาย หรือได้พูดคุยกับบรรดาหัวหน้า หรือแกนนำกลุ่ม ก๊วน ที่เคลื่อนไหวกดดันอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐ และ พรรคร่วมรัฐบาล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำคัญเป็นเพราะรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นรัฐบาลผสมถึง 10 พรรค และมีเสียงปริ่มน้ำ นั่นคือมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เกินมาแค่ 2-3 เสียงเท่านั้น ทำให้ทุกเสียงสามารถเป็นตัวแปร ล้มคว่ำรัฐบาลได้ตลอดเวลา ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่จะเห็นบางพรรคที่แม้ว่าจะมี
เสียงส.ส.แค่ 1 หรือ 2 เสียง ยังบังอาจเคลื่อนไหว หรือยื่นคำขาดต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่เว้นแม้กระทั่งภายในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำในรัฐบาลครั้งนี้ ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ต่างมีก๊วน มีกลุ่ม เคลื่อนไหวกดดันไม่หยุดหย่อน
**สำหรับภายในพรรคพลังประชารัฐ อย่างที่ได้ห็นกันก็มีกลุ่มที่เรียกว่า ส.ส.ภาคอีสานตอนบน และ กลุ่มส.ส.ภาคใต้ ที่เรียกว่า กลุ่มด้ามขวานไทย ที่เรียกร้องขอตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับคนในกลุ่มของตัวเอง รวมไปถึงพรรคร่วมอย่างพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ที่มีอยู่ 2 เสียง ก็กล้ายื่นคำขาดให้ทบทวนตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นบางพรรค โดยให้เวลาก่อนการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่เช่นนั้นจะทบทวนขอไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ อะไรประมาณนั้น
อย่างไรก็ดี จากการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (18 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พรรคร่วมรัฐบาล ส่งรายชื่อมาให้ครบแล้ว กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติตามขั้นตอนก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในเดือนนี้ พร้อมกับย้ำว่า สามารถปรับคณะรัฐมนตรีได้ตลอดเวลา หากมีการร้องเรียน หรือพบการกระทำความผิด
**น่าสนใจตรงคำพูดที่ว่า เขาจะไม่ยอมให้แต่ละพรรคการเมืองบริหารจัดการกันแบบเอกเทศ หรือพรรคใครพรรคมัน แต่จะใช้วิธีการบริหารแบบขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล ตามแผนงานและยุทธศาสตร์ ความหมายก็คือ จะใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลกำกับดูแลทุกกระทรวง
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากการส่งสัญญาณว่า จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีได้ตลอดเวลา ยังรวมไปถึงการกระจายงาน หรือแต่งตั้งให้คนที่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีในครั้งนี้ได้มีภารกิจทำงานสำคัญของรัฐบาลอย่างทั่วถึงอีกด้วย อีกทั้งยังแสดงท่าที่ว่า อาจจะเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในอนาคตอันใกล้ โดยระหว่างนี้กำลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายอยู่ เพื่อหาช่วงจังหวะที่เหมาะสม
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาทั้งหมดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงการให้สัมภาษณ์อย่างละเอียด เมื่อวานนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาต้องแสดงบทบาทผู้นำรัฐบาลอย่างเต็มตัว รวมไปถึงบทบาทในฐานะนักการเมืองเต็มตัว ที่พร้อมเผชิญหน้าในทางการเมืองในรูปแบบรัฐสภาแล้ว
ที่น่าจับตาก็คือ หากเขาก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในอนาคตอันใกล้จริง นั่นก็หมายความว่า มีโอกาสที่จะมีการยุบสภาได้ตลอดเวลา หากถึงเวลาที่เหมาะสม แต่การลงสมัครรับเลือกตั้งในคราวหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองตามกฎหมาย ไม่น้อยกว่า 90 วัน เสียก่อน ถึงตอนนั้นแล้วค่อยมาจับตามองกันทีละขั้นตอน
** แต่นาทีนี้ถือว่า "บิ๊กตู่" ได้ลงมาใช้ภาวะผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มตัวแล้ว และยังเชื่อว่าจะต้อง "เข้ม" มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้นอาจเอาไม่อยู่ !!

-------------
กำลังโหลดความคิดเห็น