"ศรีสุวรรณ" เตรียมร้อง ป.ป.ช. สอบกรรมการสรรหาส.ว. มีผลประโยชน์ทับซ้อน และขัดจริยธรรมร้ายแรง ด้าน"พรเพชร"โต้ กก.สรรหาส.ว.ไร้ผลประโยชน์ขัดกัน ยันไม่กดดันหาก ส.ส.ตรวจสอบการทำงาน ก็เจอ ส.ว. สอบกลับเช่นกัน "น้องวิษณุ" ยันได้นั่ง ส.ว.ต่อ เพราะผลงานในอดีต พร้อมรับกระบวนการตรวจสอบ แฉ กรธ.วางยา ไม่เปิดช่องให้เริ่มสรรหา ส.ว.ใหม่ หากพบ ส.ว.ชุดแรก โมฆะ
จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในส่วนของผู้ที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คัดเลือกจำนวน 194 คน อาจขัดต่อบทเฉพาะกาล มาตรา 269 (1) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ส่งผลให้ ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวอาจจะมีผลเป็นโมฆะ ก่อนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จำนวน 10 รายที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พร้อมระบุว่าได้สรรหาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดนั้น
วานนี้ (13 มิ.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า รายชื่อกรรมการสรรหา ส.ว.ที่เปิดเผยออกมานั้น ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างไร อีกทั้งกรรมการฯ เหล่านั้น จำนวนถึง 5 คนที่มีชื่อได้รับการเสนอให้เป็น ส.ว. นอกจากนั้น ยังมีเครือญาติของกรรมการสรรหาอีกหลายคน ก็ได้รับการเสนอชื่อด้วย การกระทำและการใช้อำนาจของคณะกรรมการสรรหาฯ ดังกล่าว อาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน และเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับอาจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมตามที่รัฐธรรมนูญ ม.219 กำหนด สมาคมฯ จึงจะไปยื่นคำร้อง เพื่อไต่สวน สอบสวน เอาผิดคณะกรรมการสรรหาทั้งหมด ตามกฎหมายต่อไป โดยจะไปยื่นคำร้องในวันนี้ (14 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.
ปัด กก.สรรหาผลประโยชน์ทับซ้อน
อีกด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ปรากฎชื่อเป็นกรรมการสรรหา ส.ว. และได้รับเลือกให้เป็น ส.ว.ว่า ตนได้ปฏิเสธการรับตำแหน่งกรรมการสรรหา ส.ว.กับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการสรรหา ส.ว.ทันที ที่ได้รับการทาบทาม และในวันรุ่งขึ้น ก็ได้ทำหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ เพราะในช่วงนั้นยังเป็นประธาน สนช.มีกฎหมายที่ค้างการพิจารณามากมาย จึงปฏิเสธรับตำแหน่ง และไม่เคยเข้าร่วมประชุมเลย ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องความเหมาะสม ที่มีกรรมการสรรหาส.ว. บางคน ได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว.ด้วย อาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หรือไม่นั้น มองว่า ไม่เข้าข่าย เพราะไม่มีข้อห้ามกรรมการสรรหาไปเป็น ส.ว. เมื่อบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสม ถูกต้อง ก็มีสิทธิรับตำแหน่งได้ จะไปห้ามรับตำแหน่งเพียงเพราะบังเอิญเป็นกรรมการสรรหาฯ คงไม่ถูก
“วิษณุ” ตะแบงเรื่องภายใน-ไม่เกี่ยว ปชช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว.เป็นเพียงคำสั่ง ไม่ใช่กฎหมาย ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพราะเป็นขั้นตอนภายใน ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่ถ้าการสรรหาใช้วิธีสมัคร จะต้องประกาศให้ประชาชนรู้ว่าสมัครกับใคร ที่ไหน อย่างไร ดังนั้น เมื่อเป็นสรรหา เป็นขั้นตอนภายใน จึงไม่ต้องประกาศ การประกาศหรือไม่ประกาศไม่มีผลใดๆทางกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็มีผลทางกฎหมาย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย จะนำเรื่องการสรรหา ส.ว.ไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ประธานสภาฯว่าจะให้หรือไม่ให้ ส่วนใครจะเป็นผู้ชี้แจงนั้น คงไม่มีใครชี้แจง เพราะเป็นอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำลังจะหมดไปอยู่แล้ว
“น้องวิษณุ” โวได้ ส.ว.เพราะผลงาน
ขณะที่ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. ซึ่งเป็นน้องชายของนายวิษณุ ที่เป็น 1 ในกรรมการสรรหา ส.ว.ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ได้คุยกับนายวิษณุ ถึงการสรรหาดังกล่าวว่า ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการทั้งคณะ ขณะที่กระบวนการคัดเลือกผู้รับตำแหน่ง ส.ว. ทราบว่า มาจากการกลุ่มรายชื่อบุคคลที่เคยทำหน้าที่เป็น ส.ว.ในอดีต สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) , สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และแบ่งกลุ่มตามสาขาอาชีพ กรณีที่ตนได้รับเลือกนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะการทำงานของตน ตั้งแต่สมัยเป็นส.ว.ต่อเนื่องถึง สปช. และ สปท. ที่ตั้งข้อสังเกต และแปรญัตติร่างกฎหมายหลายฉบับ และเสนองานด้านการปฏิรูป รวมถึงขับเคลื่อนงานปฏิรูปที่สำคัญต่อประเทศ
แฉ กรธ.วางยาไม่เปิดช่องสรรหาใหม่
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรัฐธรรมนูญ 2560 พบว่า ไม่มีการเขียนให้องค์กรใด มาเริ่มสรรหา ส.ว.ใหม่ กรณี ส.ว.ที่ได้รับการสรรหา ตามบทเฉพาะกาลต้องสิ้นสภาพไปทั้งหมด มีแต่เพียงการเขียนว่า หาก ส.ว.ตัวจริง สิ้นสภาพเป็นรายบุคคล ให้เลื่อนรายชื่อสำรอง ขึ้นมาแทน ทำให้การดำเนินการของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่จะยื่นญัตติ และอภิปรายให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญ มาศึกษาและตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว.ทั้งระบบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากพบว่าคุณสมบัติของ กรรมการสรรหา เช่น ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง และกระบวนการสรรหาในขั้นตอนต่างๆ ขัดกฎหมายก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เนื่องจากไม่เขียนทางออกไว้ ส.ว.ชุดแรก จะอยู่ในตำแหน่งไป จนครบวาระ 5 ปี ตามบทเฉพาะกาล ประกอบกับ คสช. 15 คน เป็นผู้คัดเลือก ส.ว. ตอนนี้ก็เหลือไม่กี่คน เพราะไปเป็นส.ว.และที่เหลือ ก็จะสลายตัวเมื่อ ครม.ประยุทธ์ 2 เข้าบริหารประเทศ.
จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ากระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในส่วนของผู้ที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คัดเลือกจำนวน 194 คน อาจขัดต่อบทเฉพาะกาล มาตรา 269 (1) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ส่งผลให้ ส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวอาจจะมีผลเป็นโมฆะ ก่อนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหา ส.ว. จำนวน 10 รายที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน พร้อมระบุว่าได้สรรหาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดนั้น
วานนี้ (13 มิ.ย.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า รายชื่อกรรมการสรรหา ส.ว.ที่เปิดเผยออกมานั้น ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีความเป็นกลางทางการเมืองอย่างไร อีกทั้งกรรมการฯ เหล่านั้น จำนวนถึง 5 คนที่มีชื่อได้รับการเสนอให้เป็น ส.ว. นอกจากนั้น ยังมีเครือญาติของกรรมการสรรหาอีกหลายคน ก็ได้รับการเสนอชื่อด้วย การกระทำและการใช้อำนาจของคณะกรรมการสรรหาฯ ดังกล่าว อาจเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน และเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับอาจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมตามที่รัฐธรรมนูญ ม.219 กำหนด สมาคมฯ จึงจะไปยื่นคำร้อง เพื่อไต่สวน สอบสวน เอาผิดคณะกรรมการสรรหาทั้งหมด ตามกฎหมายต่อไป โดยจะไปยื่นคำร้องในวันนี้ (14 มิ.ย.) เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.
ปัด กก.สรรหาผลประโยชน์ทับซ้อน
อีกด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ปรากฎชื่อเป็นกรรมการสรรหา ส.ว. และได้รับเลือกให้เป็น ส.ว.ว่า ตนได้ปฏิเสธการรับตำแหน่งกรรมการสรรหา ส.ว.กับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะประธานกรรมการสรรหา ส.ว.ทันที ที่ได้รับการทาบทาม และในวันรุ่งขึ้น ก็ได้ทำหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ เพราะในช่วงนั้นยังเป็นประธาน สนช.มีกฎหมายที่ค้างการพิจารณามากมาย จึงปฏิเสธรับตำแหน่ง และไม่เคยเข้าร่วมประชุมเลย ส่วนข้อวิจารณ์เรื่องความเหมาะสม ที่มีกรรมการสรรหาส.ว. บางคน ได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว.ด้วย อาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หรือไม่นั้น มองว่า ไม่เข้าข่าย เพราะไม่มีข้อห้ามกรรมการสรรหาไปเป็น ส.ว. เมื่อบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสม ถูกต้อง ก็มีสิทธิรับตำแหน่งได้ จะไปห้ามรับตำแหน่งเพียงเพราะบังเอิญเป็นกรรมการสรรหาฯ คงไม่ถูก
“วิษณุ” ตะแบงเรื่องภายใน-ไม่เกี่ยว ปชช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว.เป็นเพียงคำสั่ง ไม่ใช่กฎหมาย ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพราะเป็นขั้นตอนภายใน ไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่ถ้าการสรรหาใช้วิธีสมัคร จะต้องประกาศให้ประชาชนรู้ว่าสมัครกับใคร ที่ไหน อย่างไร ดังนั้น เมื่อเป็นสรรหา เป็นขั้นตอนภายใน จึงไม่ต้องประกาศ การประกาศหรือไม่ประกาศไม่มีผลใดๆทางกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา ก็มีผลทางกฎหมาย
ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย จะนำเรื่องการสรรหา ส.ว.ไปอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็อยู่ที่ประธานสภาฯว่าจะให้หรือไม่ให้ ส่วนใครจะเป็นผู้ชี้แจงนั้น คงไม่มีใครชี้แจง เพราะเป็นอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำลังจะหมดไปอยู่แล้ว
“น้องวิษณุ” โวได้ ส.ว.เพราะผลงาน
ขณะที่ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. ซึ่งเป็นน้องชายของนายวิษณุ ที่เป็น 1 ในกรรมการสรรหา ส.ว.ว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ได้คุยกับนายวิษณุ ถึงการสรรหาดังกล่าวว่า ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการทั้งคณะ ขณะที่กระบวนการคัดเลือกผู้รับตำแหน่ง ส.ว. ทราบว่า มาจากการกลุ่มรายชื่อบุคคลที่เคยทำหน้าที่เป็น ส.ว.ในอดีต สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) , สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และแบ่งกลุ่มตามสาขาอาชีพ กรณีที่ตนได้รับเลือกนั้น เชื่อว่าเป็นเพราะการทำงานของตน ตั้งแต่สมัยเป็นส.ว.ต่อเนื่องถึง สปช. และ สปท. ที่ตั้งข้อสังเกต และแปรญัตติร่างกฎหมายหลายฉบับ และเสนองานด้านการปฏิรูป รวมถึงขับเคลื่อนงานปฏิรูปที่สำคัญต่อประเทศ
แฉ กรธ.วางยาไม่เปิดช่องสรรหาใหม่
รายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรัฐธรรมนูญ 2560 พบว่า ไม่มีการเขียนให้องค์กรใด มาเริ่มสรรหา ส.ว.ใหม่ กรณี ส.ว.ที่ได้รับการสรรหา ตามบทเฉพาะกาลต้องสิ้นสภาพไปทั้งหมด มีแต่เพียงการเขียนว่า หาก ส.ว.ตัวจริง สิ้นสภาพเป็นรายบุคคล ให้เลื่อนรายชื่อสำรอง ขึ้นมาแทน ทำให้การดำเนินการของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่จะยื่นญัตติ และอภิปรายให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญ มาศึกษาและตรวจสอบกระบวนการสรรหา ส.ว.ทั้งระบบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากพบว่าคุณสมบัติของ กรรมการสรรหา เช่น ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง และกระบวนการสรรหาในขั้นตอนต่างๆ ขัดกฎหมายก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เนื่องจากไม่เขียนทางออกไว้ ส.ว.ชุดแรก จะอยู่ในตำแหน่งไป จนครบวาระ 5 ปี ตามบทเฉพาะกาล ประกอบกับ คสช. 15 คน เป็นผู้คัดเลือก ส.ว. ตอนนี้ก็เหลือไม่กี่คน เพราะไปเป็นส.ว.และที่เหลือ ก็จะสลายตัวเมื่อ ครม.ประยุทธ์ 2 เข้าบริหารประเทศ.