“ทำให้ดีที่สุด ณ จุดที่ทำ เป็นให้ดีที่สุด ณ จุดที่เป็น”
“ว.วชิรเมธี” เขียนไว้ในหน้าที่แปดของหนังสือ “ยิ่งเรียบง่าย ยิ่งใกล้ความสุข” และในหน้าสิบสี่ “ว.วชิรเมธี” ยังเขียนให้คิดอีกสองประเด็น นั่นคือ
“ทุกนาทีจงใช้ให้คุ้มค่า เพราะเราไม่รู้ว่า...วันพรุ่งนี้จะมาถึงหรือเปล่า” และ “เคล็ดลับของการใช้ชีวิตที่คุ้มค่า ก็คือการมีชีวิตดังหนึ่งว่า ตัวกำลังจะตายในวันนี้”
ประโยคหลังทำให้นึกถึง “มหาตมะ คานธี” ผู้นำชาวอินเดียที่ต่อสู้กับมหาอำนาจนักล่าอาณานิคมอังกฤษด้วย “สันติวิธี” ที่กล่าวอมตะวาจาไว้ว่า
“จงใช้ชีวิตราวกับว่า...คุณจะตายในวันพรุ่งนี้ จงเรียนรู้ราวกับว่า...คุณจะมีชีวิตอยู่ตลอดกาล”
ถ้อยคำดังกล่าวมีคุณค่าเป็นเพียงแง่คิดแต่เมื่อ “มนุษย์” นำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง จะเปลี่ยน “แง่คิด” ให้ปรากฏเป็นจริงได้ โดยเฉพาะกับบรรดา “มนุษย์ผู้มีอำนาจ” ในมิติต่างๆ
ส่วน “ท่านพุทธทาส” ...ผู้รู้ถึงแก่นแท้ประชาธิปไตย “ท่านพุทธทาส” พูดไว้ตั้งแต่ปี 2519 แม้เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 2562 ท่านละสังขารไปนานแล้ว ทว่า “นักการเมืองไทย” ก็ยัง “เดินย่ำเท้าทำความชั่ว” ด้วยความเห็นแก่ตัวมิได้รักชาติจริง จนทำให้การเมืองชาติ “ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า” ซ้ำๆ ซากๆ ดัง “ท่านพุทธทาส” สรุปไว้ว่า
“ความเห็นแก่ตัวคือสาเหตุมูลฐานของทุกข์ในชีวิตและทุกข์ในสังคม ฉะนั้น การเมืองที่จะแก้ปัญหาได้จริง จึงต้องเป็นการเมืองที่เห็นแก่ส่วนรวม นี่จึงเป็นที่มาของการนิยามประชาธิปไตยคือประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่”
นิยามของ “ท่านพุทธทาส” ระบุชัดว่า...(ผล) ประโยชน์ของประชาชน (ต้อง) เป็นใหญ่ (หรือเป็นหลัก) !
ต่างจาก “นักการเมือง” มาจากเลือกตั้งและรัฐประหาร ที่ตีความประชาธิปไตยอย่างสามานย์ไว้ว่า
ประชาชนเป็นใหญ่ คือในการเลือกตั้งประชาชนหนึ่งคนมีสิทธิลงคะแนนได้หนึ่งเสียง!
แต่ด้วยประชาชนไร้ข้อมูลเที่ยงตรงรอบด้าน ฯลฯ การเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่เลือกผู้สมัคร ส.ส.โดยไม่รู้เลยว่าคนใดดีหรือคนใดเลว...!
ทว่า...จากปรากฏการณ์จริงของการเมืองไทย สรุปได้ว่า...นักการเมืองส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนไม่ดี เพราะชาติมักได้ “รัฐบาลเผด็จการรัฐสภา” โกงเลือกตั้งและโกงชาติ! รวมทั้งมักได้ “รัฐบาลเผด็จการรัฐประหาร” ที่ไม่ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้งเสมอ
รัฐบาลทั้งสองรูปแบบนี้ มักบริหารชาติด้วยสูตร “สมบัติชาติผลัดกันโกง” ใช้อำนาจรัฐทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง โดยมิได้ทำเพื่อชาติเป็นหลักจนบั่นทอนความมั่นคงของชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์-ประชาชนมาตลอด
ชาติไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรมีค่ามหาศาล ประชาชนส่วนใหญ่ควรกินดีอยู่ดีมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นกันแล้ว แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหา “รวยกระจุก จนกระจาย” อย่างหนักมาจนทุกวันนี้
สิบกว่าปี! ที่รัฐบาลเลือกตั้งเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ครองเมือง มีการโกงชาติอย่างมโหฬารมาตลอด เฉพาะ “จำนำข้าวกำมะลอ” เรื่องเดียว “พี่คิด-น้องโกง” ผลาญและโกงเงินชาติเสียหายไปกว่า 5-6 แสนล้านบาท จน “พี่น้องมหาภัยคู่นี้” ต้องหนีคุกตะรางเร่ร่อนในต่างแดนจนทุกวันนี้
ห้าปีกว่า! ที่รัฐบาลรัฐประหาร “บิ๊กตู่” ครองเมือง มีอำนาจมาตรา 44 ในกำมือ เกิดโครงการยักษ์ทั้งดี-ไม่ดี ทั้งจำเป็น-ไม่จำเป็นมากมาย แต่จับคนโกงชาติได้แค่ “คดีปลาซิวปลาสร้อย” เช่น โกงเงินอาหารเด็กนักเรียน โกงเงินผู้สูงอายุ โกงเงินผู้พิการ โกงเงินพระสงฆ์ และวัด ฯลฯ
การโกงชาติระดับ “คดีปลากะโห้-ปลาฉลาม-ปลาวาฬ” นั้น ส่วนใหญ่มีแต่คดีเก่าๆ ในเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” กับพวกพ้องเท่านั้น แต่อีกหลายคดีของอดีต “นายกฯ โคตรโกง” คืบหน้าเชื่องช้ายิ่งกว่า “เรือเกลือ” เสียอีก
ส่วนคดีใหม่ๆ เรื่องใหญ่ๆ ของการโกงชาติ ที่พัวพันกับคนใกล้ตัว “บิ๊กตู่” คดีความยังเงียบกริบอยู่ใน “องค์กรอิสระ” ที่ใกล้ชิดกับ “พี่น้องสามปอ” ซึ่งทำท่าจะเปลี่ยนเป็น “องค์กรไม่อิสระ” ไปเสียแล้ว เพราะผ่านไปกว่า 5 ปีหลายเรื่องยังเอาผิด “ใครหน้าไหน” ไม่ได้
แต่ที่ร้ายยิ่งกว่า “ยุงลาย” ในห้วงน้ำฝนรอระบาย คือ รัฐบาล “บิ๊กตู่” ปล่อยให้ “ผู้ต้องหาอดีตนายกฯ” หนีไปต่อหน้าต่อตา ก่อนศาลจะตัดสินให้ติดคุก 2 ปีเพียงแค่ไม่กี่วัน จนวันนี้ “คนในเครื่องแบบ” ที่พา “ผู้ต้องหาขาใหญ่” หนี ยังลอยนวลไม่โดนลงโทษเลยนะเฟ้ย!...
“รัฐบาลเลว” มักกระสันอยากสืบทอดอำนาจ แต่ยามมีอำนาจกลับไม่ทำเพื่อชาติจริงจัง! การสืบทอดอำนาจของ “รัฐบาลเลว” จึงเป็นเรื่องสามานย์ เพราะหวังจะใช้อำนาจเพื่อแสวงหา และกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง
“รัฐบาลดี” มักไม่อยากสืบทอดอำนาจ ทว่าเพราะได้สร้างผลงานดีๆ ให้ชาติมากมายจึงมีแต่เสียงชื่นชมผสานเสียงเรียกร้องดังจากทุกสารทิศเรียกร้องให้สืบทอดอำนาจเป็นรัฐบาลต่อไป เพื่อจะได้ “สานงานเก่า-สร้างงานใหม่” ให้ชาติและประชาชน..
“ผู้นำชาติคนใด” ยามมีอำนาจอยู่ในกำมือ แต่ทำผลงานส่วนใหญ่ด้วย “ปาก” ...ย่อมมิได้รักชาติจริง!
“ผู้นำชาติคนใด” ยามมีอำนาจในกำมือ แล้วทำผลงานดีๆ ให้ชาติมิได้หยุดหย่อนประชาชนถือเป็น “ผู้นำรักชาติจริง”!
ผลงาน 5 ปีกว่าของ “บิ๊กตู่” ไม่เข้าตาประชาชนผิดคำพูดที่จะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง-ก็จบเห่แล้ว!
ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ “บิ๊กตู่” ทำให้รัฐบาล “ราชสีห์” ของตนเองกลายพันธุ์เป็นรัฐบาล “เป็ดง่อยก้าบๆ” บริหารชาติผิดพลาดจนแพ้ศึกการเมืองครั้งนี้ ถ้า “บิ๊กตู่” เสียหายคนเดียว-ก็เป็นเรื่องของ “บิ๊กตู่”!
แต่การได้รัฐบาลปริ่มน้ำครานี้ชาติเสียหายใหญ่หลวงแน่...“บิ๊กตู่” เอ๋ย...!?