xs
xsm
sm
md
lg

"ลุงตู่"เสียงปริ่มน้ำ หน้าตาครม.ขี้เหร่รอดยาก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ผ่านไปแบบลอยลำไปแล้วสำหรับการโหวตเลือก "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 500 เสียงเกินเสียงข้างมากของที่ประชุมร่วมรัฐสภาในเวลานั้นคือ 375 เสียงขึ้นไป แต่อย่าเพิ่งลิงโลดไป เพราะนั่นรวมเอาเสียงของสมาชิกวุฒิสภาหรือ ส.ว.จำนวน 250 เสียงเข้ามาด้วย และพวกเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ไม่มีโหวตแตกแถวแม้แต่เสียงเดียว
แต่ลำดับถัดไปหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเจอของจริง บททดสอบสุดป่วนจากบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ที่มาจากร้อยพ่อพันแม่ หรือแม้แต่ภายในพรรคพลังประชารัฐเอง ที่เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ เพราะเมื่อพิจารณาจากจำนวนเสียงสนับสนุนที่รวมกันทุกพรรคแล้วเกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ราวๆ 3-4 เสียงเท่านั้น และนี่ยังต้องหักเสียงของ ชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาผู้แทนฯ ออกไปอีก 1 เสียง ก็เหลือน้อยลงไปอีก
**ดังนั้น"นาวาลุงตู่" ลำนี้ มีลักษณะ"ปริ่มน้ำ" อย่างแท้จริง พลาดนิดเดียว หรือขาดความเป็นเอกภาพเมื่อใด ก็จบเห่ทันที
อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งการที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำแบบนี้ก็ใช่ว่าจะ"ไร้เสถียรภาพ" เสมอไป เพราะมีหลายประเทศที่เป็นรัฐบาลผสม มีเสียงข้างมากเกินมาแค่สองสามเสียง ก็อยู่ได้ หรือบางประเทศในยุโรปรัฐบาลผสมมีเสียงเกินมาแค่หนึ่งเสียงด้วยซ้ำไป ก็ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับประเทศไทย แม้ว่าจะมีองค์ประกอบในทางการเมืองต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ "ผู้นำ" รัฐบาล คือ นายกรัฐมนตรี ในที่นี้ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ดีแค่ไหน โดยเฉพาะโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะออกมามีหน้าตาแบบไหน มี "ยี้" มากน้อยแค่ไหน เพราะหากเริ่มต้นไม่สวยงามแล้วมันก็ยากที่จะเดินต่อไปข้างหน้าสะดวก และยิ่งมีเสียงในสภาผู้แทนฯ จำกัด โดยไม่อาจใช้เสียงของส.ว. เป็นตัวช่วยในการลงมติในร่างกฎหมายสำหรับเป็นเครื่องมือในการบริหารแผ่นดินมันก็ยิ่งหมิ่นเหม่
แต่อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า "ความศรัทธา" ของชาวบ้านเท่านั้นที่จะช่วยค้ำยันเสถียรของรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากแบบฉิวเฉียดแบบนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่การที่จะสร้างศรัทธาดังกล่าวให้เกิดขึ้นมาได้นั่นคือ ต้องมีผลงานสามารถแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านได้อย่างเห็นผลอย่างรวดเร็ว และต้องไม่โกง ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งหากทำได้ดี ชาวบ้านก็อยากให้อยู่นานๆ
แต่แม้ว่าจะมีเพียงสองสามเรื่องหลักๆเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาแทบทุกรัฐบาลยากที่จะผ่านด่านดังกล่าวไปได้ เพราะนอกจากจะไร้ผลงานแล้วยังมีเรื่องการทุจริตฉาวโฉ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดแบบนี้ ก็พอมองเห็นภาพชัดแล้วว่า อนาคตจะเป็นแบบไหน
**สำหรับรัฐบาลผสม ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีสถานะพิเศษนอกเหนือไปจากรัฐบาลหลายชุดก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการถูกค่อนแคะ วิพากษ์วิจารณ์ที่มาจากเผด็จการ หรือมีเจตนาสืบทอดอำนาจ มันก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้เห็นมากกว่าเป็นสองเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดารัฐมนตรีทั้งหลาย ที่มาจากหลายพรรคการเมือง ที่ส่วนหนึ่งมาด้วยโควตา ย่อมถูกคลางแคลงเรื่องความรู้ความสามารถ หรือไม่มีความเชี่ยวชาญในงานที่รับผิดชอบ ก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้หนัก
เชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องวางตัวอย่างไร เพื่อให้ตัวเองได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้นานๆ อันจะส่งผลไปถึงเสถียรภาพโดยรวมของรัฐบาลชุดนั่นด้วย และต้องไม่ลืมว่า ในยุคปัจจุบันเป็นโซเชียลที่การตรวจสอบจากสังคมมีความเข้มข้นมากอาจจะมากเสียยิ่งกว่าการตรวจสอบโดยฝ่ายค้านในสภาด้วยซ้ำไป ถึงได้บอกว่าจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
**อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าหลายคนเอาใจช่วยให้รัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มกำลัง บริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากมองในแง่บวก การที่มีเสียงปริ่มน้ำก็อาจทำให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจจนเกิดเอกภาพ มีความระมัดระวังในการทำหน้าที่ เพราะถูกจ้อง มองรอบทิศ มันก็อาจไปรอดก็เป็นได้ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น