ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เมื่อ“ธนาธร”ระบุถึง“ป๋าเปรม”รูปแบบรัฐที่ไม่ควรดำรงอยู่ แต่ย้อนดูอดีตวันวาน อาณาจักรพ่อฟ้าไทยซัมมิทฯ มี “แสนล้าน”วันนี้ เพราะ อานิสงส์นโยบายเศรษฐกิจยุคป๋ามิใช่หรือ?
กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ๋อย่างมาก กรณีการพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ภายหลังการอสัญกรรม เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยสองนักการเมืองรุ่นใหม่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" จากประชาธิปัตย์ ... เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างที่ทั้งคู่เข้าร่วมงานเสวนา “แนวทางการดำเนินงานของพรรคการเมืองในการลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างสังคมสวัสดิการ 9 ด้าน” ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา
เริ่มจาก "ธนาธร" ได้พูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางขึงขัง ดุดัน ตามสไตล์ ในตอนหนึ่งว่า "เมื่อเช้าเกิดการสูญเสียของบุคคลที่มีประวัติศาสตร์สำคัญทางการเมืองนั่นก็คือ คุณเปรม ติณสูลานนท์ ไอ้ระบบรัฐที่สร้างขึ้นมาในยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เนี่ยนะครับ ถ้ายังยอมให้รูปแบบรัฐที่เกิดขึ้นที่ถูกสร้างขึ้นในยุคนี้ดำรงอยู่ ไม่มีทางที่จะเกิดรัฐสวัสดิการได้"
จากนั้น "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พูดต่อจากธนาธร ด้วยท่าทางนิ่ง และน้ำเสียงสงบราบเรียบว่า "สักครู่คุณธนาธรพูดถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผมเห็นไม่เหมือนคุณธนาธร วันนี้เป็นวันที่ผมไม่สบายใจ เรื่องนี้ที่เราสูญเสียคนสำคัญไป ผมเรียนอย่างนี้นะครับ ท่านอายุ 99 ปี ผมว่าท่านทำคุณงามความดีให้ประเทศไทย เวลามันพิสูจน์ ดี-เลว ผมว่า เวลาเป็นตัวพิสูจน์ ท่านทำประเทศไทยเข้าสู่ช่วง“โชติช่วงชัชวาล”ท่านจัดตั้งการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ที่ทำให้คนไทยมีความมั่นคงทางพลังงาน ถ้าปตท.ไม่ได้ถูกแปรรูปไปแบบไม่ถูกไม่ควร ป่านนี้เราจะมีบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่มีความเข้มแข็ง ผมคิดว่าท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นคนดี คนไทยต้องยกเอาไว้นะครับ ท่านทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิตท่านอย่างครบถ้วน ผมคิดไม่เหมือนนะครับ ต้องขออนุญาต งานนี้พูดจากใจ ที่ผมรู้สึก สะเทือนในความรู้สึกผมนะครับ"
ว่ากันว่า คลิปนี้ฮอตมาก แพร่ไปยังหลายเพจและเฟซบุ๊กของคนทั่วไป จนบางเพจถูกรายงานเพื่อระงับการเผยแพร่ แต่ชาวเน็ตก็ยังคงแสดงความเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้วิจารณ์บางคนได้ตั้งคำถามถึง"ธนาธร"... ไม่ใช่เพราะ“รัฐบาลป๋า”ที่ธนาธรวิพากษ์วิจารณ์หรอกหรือ ที่ทำให้ ธุรกิจของตระกูล มีจุดเริ่มเติบโตแล้วร่ำรวยมาได้ถึงทุกวันนี้ ?
"ไทยซัมมิท กรุ๊ป" รวยเป็นแสนล้านวันนี้ได้ก็เพราะได้อานิสงส์จากการวางรากฐานเศรษฐกิจในยุค"รัฐบาลพล.อ.เปรม" ผลประโยชน์จากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ได้สร้างภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบับ มาบตาพุต กลายเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ทั้งการสร้างนิคมฯ รับออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้บริษัทญี่ปุ่น และการส่งออก ล้วนได้รับการผลักดันส่งเสริมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจในสมัยพล.อ.เปรม
ธุรกิจของตระกูลธนาธร มาจากพื้นฐานของการรับจ้างทำเบาะรถจักรยานยนต์ "พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ" พ่อของธนาธร เป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวเยาวราช ขณะที่ แม่ "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" ขายกระเพาะปลาอยู่ฝั่งตรงข้าม... "พัฒนา"เรียนหนังสือไม่สูง เพราะต้องช่วยพ่อแม่ขายก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ 8-9 ขวบ ตอนหลังพี่ชาย (สรรเสริญ จุฬางกูร) ชวนมาช่วยงานที่ร้านซ่อมเบาะ ซึ่งเปิดร่วมกับเพื่อน ชื่อว่า "สามอิ้ว" แปลว่า "สามมิตร" ช่วงแรกกิจการไม่ค่อยดี เพื่อนๆ จึงถอนตัวไปหมด และเหลือแต่คู่พี่น้อง ... วันหนึ่งโอกาสมา เมื่อยามาฮ่าหยิบยื่นงานผลิตเบาะรถมอเตอร์ไซค์มาให้ และขยายไปยี่ห้ออื่นๆ ธุรกิจไปได้ดี เริ่มสร้างโรงงาน และเปลี่ยนชื่อให้ดูอินเตอร์ขึ้น เป็น “ซัมมิท โอโตซีท อินดัสตรี จำกัด”ในปี 2515
แรกๆ รับทำแต่เบาะรถ ก่อนที่จะของานทำชิ้นส่วนรถจากญี่ปุ่นด้วย เพื่อความมั่นคงของธุรกิจ ทำไปทำมา งานผลิตชิ้นส่วนรถเติบโตเร็วมาก จึงแยกตัวมาตั้งโรงงานเอง โดยซื้อที่ดินบนถนนบางนา-ตราด กม.16 และเปิดบริษัทใหม่ชื่อ “ไทยซัมมิทโอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด”ในปี 2520 รับผลิตเฉพาะชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ต่อมาก็ซื้อที่ดินรอบข้างขยายไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรงงานของกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท กรุ๊ป ในปัจจุบัน
รวมถึงที่ "อรรถวิชช์" ว่าไว้ ยุคของ"พล.อ.เปรม"ได้สร้างประเทศให้ "โชติช่วงชัชวาล" โดยหากมองย้อนกลับไป การวางรากฐานความมั่นคงทางพลังงาน การก่อตั้งการปิโตรเลียม และการใช้ทรัพยากรอย่างก๊าชธรรมชาติภายในประเทศมาผลิตพลังงานไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลงมาก ทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่างๆตามมาอีกมากมาย รวมทั้งการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์
นี่ก็ผลงานของ นโยบาย“รัฐบาลพล.อ.เปรม”ที่เขาวิพากษ์ว่า เป็นรัฐที่ใช้ไม่ได้ ไม่ควรยินยอมให้คงอยู่หรอกหรือ .
** สู่ขอ ปชป. มาร่วมรัฐบาลไม่ใช่เรื่องหมู ... ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน เพราะการประชุม กก.บห. และ ส.ส.ของพรรค ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เมื่อ "ลุงตู่" บอกปัดเรื่องแก้ รธน. แถมจะขอสกรีนคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเอง คนประชาธิปัตย์บอกว่า รับไม่ได้ที่ "ลุงตู่" ลุแก่อำนาจ เสียมารยาททางการเมือง
เมื่อ"อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญพรรค ยกขบวนไป "สู่ขอ" พรรคประชาธิปัตย์ ให้มาเข้าร่วมรัฐบาล เมื่อวันก่อน (27พ.ค.) โดยมี "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เลขาธิการพรรค ปชป. ออกมาต้อนรับเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็พากันไปเจรจาหารือ เกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาจับไม้จับมือกัน แม้ภาพที่ออกมาจะดูยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ลึกๆ แล้วบรรยากาศการเจรจาไม่ค่อยจะชื่นมื่นเท่าใดนัก เพราะประชาธิปัตย์ ยังคงบอกว่า การจะเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วม อยู่ที่มติของที่ประชุมกรรมการบริหาร และส.ส.ของพรรค พร้อมเสนอเงื่อนไข เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงเอาไว้ด้วย
คล้อยหลัง "ขบวนขันหมาก" ของพลังประชารัฐ ออกพ้นลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมไปได้ครู่เดียว "วัชระ เพชรทอง" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ก็ออกมาถือป้าย "ไม่เอาประยุทธ์ เป็นนายกฯ " ...ขณะเดียวกันในโลกโซเชียลฯ ก็มีกระแสคัดค้านการร่วมรัฐบาลของปชป. กันอย่างแพร่หลาย.. ในทวิตเตอร์ ได้ติดแฮชแท็ก"ฝ่ายค้านอิสระ" โดยติด 1 ใน 10 Top Trend Thai อยู่ในอันดับที่ 4 นอกจากนี้ ในทวิตเตอร์ ยังมีกลุ่มสนับสนุน ปชป. ได้ทำกราฟฟิก แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาล เช่น ข้อความว่า "เรามาชิงตัวเจ้าสาว ไปกับเราเถอะนะ" และ "บ้านนี้หวงลูกสาว" เป็นต้น...
ยังมี "ไอติม" นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ อยู่ในกลุ่ม"นิวเดม" ของพรรค ก็ได้โพสต์ทั้งเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ แสดงจุดยืนทางการเมืองอีกครั้งว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดของพรรคคือ "ฝ่ายค้านอิสระ" ที่ 20 กว่าประเทศทั่วโลกเขาก็ทำกัน ...นอกจากนี้ยังมีกระแส "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จะลาออกจากการเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ กลับมาอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกระแสที่ว่ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ อภิสิทธิ์ บอกว่า "เป็นข่าวโคมลอย" ...เรียกได้ว่ากระแสต้านการเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อหนุน "ลุงตู่"อยู่ต่อ มาแรงมาก…
ขณะที่ผู้ติดตามการเมืองก็เฝ้ารอเวลาสำคัญ คือ 17.00 น. (28 พ.ค.) ที่ ปชป. นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีมติว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ปรากฏว่า "การประชุมล่ม" ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะในกลุ่มกรรมการบริหารพรรค อ้างว่า "พลังประชารัฐ" ไม่รักษาคำพูด บิดพลิ้วข้อตกลง โดยเฉพาะการแก้ไขรธน. เห็นท่าจะร่วมงานกันไม่ได้ และยังบอกว่า "ลุงตู่" ลุแก่อำนาจ เสียมารยาททางการเมือง ที่ถือวิสาสะ ทุบโต๊ะ จะขอตรวจรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล...
ที่มาของความไม่พอใจครั้งนี้ ก็มาจากการที่ "ลุงตู่" ให้สัมภาษณ์สื่อฯ หลังการประชุมครม. ถึงเรื่องที่ประชาธิปัตย์เสนอเงื่อนไขแก้รธน. จะรับได้หรือไม่ ซึ่ง "ลุงตู่" ตอบว่า ไม่ใช่การตั้งเงื่อนไขกับตนเอง แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ต้องแยกประเด็น เรื่องแก้รธน. กับการร่วมจัดตั้งรัฐบาลออกจากกัน ...ตรงจุดนี้ ปชป. เห็นว่า "ลุงตู่" ปฏิเสธเรื่องการแก้รธน. อย่างไม่มีเยื่อใย...
อีกเรื่องก็มาจากที่สื่อฯถามว่า ถ้า "ลุงตู่"ได้เป็นนายกฯอีกรอบ จะมีส่วนพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ คำตอบคือ " ก็ต้องดูเอง รอให้แต่ละพรรคเขาเสนอเข้ามา แล้วค่อยไปประชุมร่วมกัน ส่วนที่ พรรค พปชร. ให้อำนาจตนเองในการตัดสินใจว่าจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ร่วมในครม.ชุดใหม่ด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวยังไม่รู้เรื่องนี้ ขออย่าเพิ่งยกชื่อกันมาเลย เพราะคนที่จะเป็นนายกฯ ก็ต้องดูรายชื่อของแต่ละพรรคที่เสนอมา จากนั้นจึงพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเห็นชอบด้วยกันหรือไม่ ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งไม่เห็นด้วย แล้วจะไปกันได้อย่างไร" ... นักข่าวถามต่อว่า ดูจากจากหน้าตาของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว คิดว่าเอาอยู่ หรือไม่ ถึงตอนนี้ลุงตู่ ตั้งการ์ด ทำท่าชกมวย แล้วบอกว่า "ถ้าอยู่ก็ต้องไหว" ... คำตอบนี้ ปชป. เห็นว่า เป็นการก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่นอย่างชัดเจน
คนของประชาธิปัตย์ บอกว่า การที่เจรจากันไม่ลงตัวสักที ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาธิปัตย์ แต่อยู่ที่ "พลังประชารัฐ" ที่ภายในพรรคไม่มีเอกภาพ ไม่มีความชัดเจนในตัวเอง ... ส่วนจะนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกเมื่อไรนั้น คงต้องรอความชัดเจนจากทางพลังประชารัฐก่อน ...
ดูท่า "อุตตม" คงต้องจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอรอบสอง...เพราะบ้านนี้หวงลูกสาวจริงจริง !!
------------
รูป--
- พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ- อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - เฉลิมชัย ศรีอ่อน -พริษฐ์ วัชรสินธุ
**เมื่อ“ธนาธร”ระบุถึง“ป๋าเปรม”รูปแบบรัฐที่ไม่ควรดำรงอยู่ แต่ย้อนดูอดีตวันวาน อาณาจักรพ่อฟ้าไทยซัมมิทฯ มี “แสนล้าน”วันนี้ เพราะ อานิสงส์นโยบายเศรษฐกิจยุคป๋ามิใช่หรือ?
กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ๋อย่างมาก กรณีการพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษ ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ภายหลังการอสัญกรรม เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยสองนักการเมืองรุ่นใหม่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" จากประชาธิปัตย์ ... เหตุการณ์เกิดขึ้นในระหว่างที่ทั้งคู่เข้าร่วมงานเสวนา “แนวทางการดำเนินงานของพรรคการเมืองในการลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างสังคมสวัสดิการ 9 ด้าน” ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา
เริ่มจาก "ธนาธร" ได้พูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางขึงขัง ดุดัน ตามสไตล์ ในตอนหนึ่งว่า "เมื่อเช้าเกิดการสูญเสียของบุคคลที่มีประวัติศาสตร์สำคัญทางการเมืองนั่นก็คือ คุณเปรม ติณสูลานนท์ ไอ้ระบบรัฐที่สร้างขึ้นมาในยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เนี่ยนะครับ ถ้ายังยอมให้รูปแบบรัฐที่เกิดขึ้นที่ถูกสร้างขึ้นในยุคนี้ดำรงอยู่ ไม่มีทางที่จะเกิดรัฐสวัสดิการได้"
จากนั้น "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี" อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พูดต่อจากธนาธร ด้วยท่าทางนิ่ง และน้ำเสียงสงบราบเรียบว่า "สักครู่คุณธนาธรพูดถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผมเห็นไม่เหมือนคุณธนาธร วันนี้เป็นวันที่ผมไม่สบายใจ เรื่องนี้ที่เราสูญเสียคนสำคัญไป ผมเรียนอย่างนี้นะครับ ท่านอายุ 99 ปี ผมว่าท่านทำคุณงามความดีให้ประเทศไทย เวลามันพิสูจน์ ดี-เลว ผมว่า เวลาเป็นตัวพิสูจน์ ท่านทำประเทศไทยเข้าสู่ช่วง“โชติช่วงชัชวาล”ท่านจัดตั้งการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ที่ทำให้คนไทยมีความมั่นคงทางพลังงาน ถ้าปตท.ไม่ได้ถูกแปรรูปไปแบบไม่ถูกไม่ควร ป่านนี้เราจะมีบริษัทพลังงานแห่งชาติ ที่มีความเข้มแข็ง ผมคิดว่าท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นคนดี คนไทยต้องยกเอาไว้นะครับ ท่านทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิตท่านอย่างครบถ้วน ผมคิดไม่เหมือนนะครับ ต้องขออนุญาต งานนี้พูดจากใจ ที่ผมรู้สึก สะเทือนในความรู้สึกผมนะครับ"
ว่ากันว่า คลิปนี้ฮอตมาก แพร่ไปยังหลายเพจและเฟซบุ๊กของคนทั่วไป จนบางเพจถูกรายงานเพื่อระงับการเผยแพร่ แต่ชาวเน็ตก็ยังคงแสดงความเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้วิจารณ์บางคนได้ตั้งคำถามถึง"ธนาธร"... ไม่ใช่เพราะ“รัฐบาลป๋า”ที่ธนาธรวิพากษ์วิจารณ์หรอกหรือ ที่ทำให้ ธุรกิจของตระกูล มีจุดเริ่มเติบโตแล้วร่ำรวยมาได้ถึงทุกวันนี้ ?
"ไทยซัมมิท กรุ๊ป" รวยเป็นแสนล้านวันนี้ได้ก็เพราะได้อานิสงส์จากการวางรากฐานเศรษฐกิจในยุค"รัฐบาลพล.อ.เปรม" ผลประโยชน์จากโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ได้สร้างภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบับ มาบตาพุต กลายเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ทั้งการสร้างนิคมฯ รับออเดอร์ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้บริษัทญี่ปุ่น และการส่งออก ล้วนได้รับการผลักดันส่งเสริมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจในสมัยพล.อ.เปรม
ธุรกิจของตระกูลธนาธร มาจากพื้นฐานของการรับจ้างทำเบาะรถจักรยานยนต์ "พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ" พ่อของธนาธร เป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวเยาวราช ขณะที่ แม่ "สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ" ขายกระเพาะปลาอยู่ฝั่งตรงข้าม... "พัฒนา"เรียนหนังสือไม่สูง เพราะต้องช่วยพ่อแม่ขายก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ 8-9 ขวบ ตอนหลังพี่ชาย (สรรเสริญ จุฬางกูร) ชวนมาช่วยงานที่ร้านซ่อมเบาะ ซึ่งเปิดร่วมกับเพื่อน ชื่อว่า "สามอิ้ว" แปลว่า "สามมิตร" ช่วงแรกกิจการไม่ค่อยดี เพื่อนๆ จึงถอนตัวไปหมด และเหลือแต่คู่พี่น้อง ... วันหนึ่งโอกาสมา เมื่อยามาฮ่าหยิบยื่นงานผลิตเบาะรถมอเตอร์ไซค์มาให้ และขยายไปยี่ห้ออื่นๆ ธุรกิจไปได้ดี เริ่มสร้างโรงงาน และเปลี่ยนชื่อให้ดูอินเตอร์ขึ้น เป็น “ซัมมิท โอโตซีท อินดัสตรี จำกัด”ในปี 2515
แรกๆ รับทำแต่เบาะรถ ก่อนที่จะของานทำชิ้นส่วนรถจากญี่ปุ่นด้วย เพื่อความมั่นคงของธุรกิจ ทำไปทำมา งานผลิตชิ้นส่วนรถเติบโตเร็วมาก จึงแยกตัวมาตั้งโรงงานเอง โดยซื้อที่ดินบนถนนบางนา-ตราด กม.16 และเปิดบริษัทใหม่ชื่อ “ไทยซัมมิทโอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด”ในปี 2520 รับผลิตเฉพาะชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ต่อมาก็ซื้อที่ดินรอบข้างขยายไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรงงานของกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท กรุ๊ป ในปัจจุบัน
รวมถึงที่ "อรรถวิชช์" ว่าไว้ ยุคของ"พล.อ.เปรม"ได้สร้างประเทศให้ "โชติช่วงชัชวาล" โดยหากมองย้อนกลับไป การวางรากฐานความมั่นคงทางพลังงาน การก่อตั้งการปิโตรเลียม และการใช้ทรัพยากรอย่างก๊าชธรรมชาติภายในประเทศมาผลิตพลังงานไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าถูกลงมาก ทำให้เกิดอุตสาหกรรมต่างๆตามมาอีกมากมาย รวมทั้งการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์
นี่ก็ผลงานของ นโยบาย“รัฐบาลพล.อ.เปรม”ที่เขาวิพากษ์ว่า เป็นรัฐที่ใช้ไม่ได้ ไม่ควรยินยอมให้คงอยู่หรอกหรือ .
** สู่ขอ ปชป. มาร่วมรัฐบาลไม่ใช่เรื่องหมู ... ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน เพราะการประชุม กก.บห. และ ส.ส.ของพรรค ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด เมื่อ "ลุงตู่" บอกปัดเรื่องแก้ รธน. แถมจะขอสกรีนคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลเอง คนประชาธิปัตย์บอกว่า รับไม่ได้ที่ "ลุงตู่" ลุแก่อำนาจ เสียมารยาททางการเมือง
เมื่อ"อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยแกนนำคนสำคัญพรรค ยกขบวนไป "สู่ขอ" พรรคประชาธิปัตย์ ให้มาเข้าร่วมรัฐบาล เมื่อวันก่อน (27พ.ค.) โดยมี "เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เลขาธิการพรรค ปชป. ออกมาต้อนรับเพียงคนเดียว หลังจากนั้นก็พากันไปเจรจาหารือ เกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาจับไม้จับมือกัน แม้ภาพที่ออกมาจะดูยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ลึกๆ แล้วบรรยากาศการเจรจาไม่ค่อยจะชื่นมื่นเท่าใดนัก เพราะประชาธิปัตย์ ยังคงบอกว่า การจะเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วม อยู่ที่มติของที่ประชุมกรรมการบริหาร และส.ส.ของพรรค พร้อมเสนอเงื่อนไข เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ พ่วงเอาไว้ด้วย
คล้อยหลัง "ขบวนขันหมาก" ของพลังประชารัฐ ออกพ้นลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมไปได้ครู่เดียว "วัชระ เพชรทอง" อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. ก็ออกมาถือป้าย "ไม่เอาประยุทธ์ เป็นนายกฯ " ...ขณะเดียวกันในโลกโซเชียลฯ ก็มีกระแสคัดค้านการร่วมรัฐบาลของปชป. กันอย่างแพร่หลาย.. ในทวิตเตอร์ ได้ติดแฮชแท็ก"ฝ่ายค้านอิสระ" โดยติด 1 ใน 10 Top Trend Thai อยู่ในอันดับที่ 4 นอกจากนี้ ในทวิตเตอร์ ยังมีกลุ่มสนับสนุน ปชป. ได้ทำกราฟฟิก แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมรัฐบาล เช่น ข้อความว่า "เรามาชิงตัวเจ้าสาว ไปกับเราเถอะนะ" และ "บ้านนี้หวงลูกสาว" เป็นต้น...
ยังมี "ไอติม" นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ อยู่ในกลุ่ม"นิวเดม" ของพรรค ก็ได้โพสต์ทั้งเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ แสดงจุดยืนทางการเมืองอีกครั้งว่า ทางเลือกที่ดีที่สุดของพรรคคือ "ฝ่ายค้านอิสระ" ที่ 20 กว่าประเทศทั่วโลกเขาก็ทำกัน ...นอกจากนี้ยังมีกระแส "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จะลาออกจากการเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ กลับมาอีกครั้ง จากที่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกระแสที่ว่ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ อภิสิทธิ์ บอกว่า "เป็นข่าวโคมลอย" ...เรียกได้ว่ากระแสต้านการเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อหนุน "ลุงตู่"อยู่ต่อ มาแรงมาก…
ขณะที่ผู้ติดตามการเมืองก็เฝ้ารอเวลาสำคัญ คือ 17.00 น. (28 พ.ค.) ที่ ปชป. นัดประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีมติว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ปรากฏว่า "การประชุมล่ม" ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะในกลุ่มกรรมการบริหารพรรค อ้างว่า "พลังประชารัฐ" ไม่รักษาคำพูด บิดพลิ้วข้อตกลง โดยเฉพาะการแก้ไขรธน. เห็นท่าจะร่วมงานกันไม่ได้ และยังบอกว่า "ลุงตู่" ลุแก่อำนาจ เสียมารยาททางการเมือง ที่ถือวิสาสะ ทุบโต๊ะ จะขอตรวจรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล...
ที่มาของความไม่พอใจครั้งนี้ ก็มาจากการที่ "ลุงตู่" ให้สัมภาษณ์สื่อฯ หลังการประชุมครม. ถึงเรื่องที่ประชาธิปัตย์เสนอเงื่อนไขแก้รธน. จะรับได้หรือไม่ ซึ่ง "ลุงตู่" ตอบว่า ไม่ใช่การตั้งเงื่อนไขกับตนเอง แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ต้องแยกประเด็น เรื่องแก้รธน. กับการร่วมจัดตั้งรัฐบาลออกจากกัน ...ตรงจุดนี้ ปชป. เห็นว่า "ลุงตู่" ปฏิเสธเรื่องการแก้รธน. อย่างไม่มีเยื่อใย...
อีกเรื่องก็มาจากที่สื่อฯถามว่า ถ้า "ลุงตู่"ได้เป็นนายกฯอีกรอบ จะมีส่วนพิจารณาตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ คำตอบคือ " ก็ต้องดูเอง รอให้แต่ละพรรคเขาเสนอเข้ามา แล้วค่อยไปประชุมร่วมกัน ส่วนที่ พรรค พปชร. ให้อำนาจตนเองในการตัดสินใจว่าจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ร่วมในครม.ชุดใหม่ด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวยังไม่รู้เรื่องนี้ ขออย่าเพิ่งยกชื่อกันมาเลย เพราะคนที่จะเป็นนายกฯ ก็ต้องดูรายชื่อของแต่ละพรรคที่เสนอมา จากนั้นจึงพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเห็นชอบด้วยกันหรือไม่ ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งไม่เห็นด้วย แล้วจะไปกันได้อย่างไร" ... นักข่าวถามต่อว่า ดูจากจากหน้าตาของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว คิดว่าเอาอยู่ หรือไม่ ถึงตอนนี้ลุงตู่ ตั้งการ์ด ทำท่าชกมวย แล้วบอกว่า "ถ้าอยู่ก็ต้องไหว" ... คำตอบนี้ ปชป. เห็นว่า เป็นการก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่นอย่างชัดเจน
คนของประชาธิปัตย์ บอกว่า การที่เจรจากันไม่ลงตัวสักที ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ประชาธิปัตย์ แต่อยู่ที่ "พลังประชารัฐ" ที่ภายในพรรคไม่มีเอกภาพ ไม่มีความชัดเจนในตัวเอง ... ส่วนจะนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกเมื่อไรนั้น คงต้องรอความชัดเจนจากทางพลังประชารัฐก่อน ...
ดูท่า "อุตตม" คงต้องจัดขบวนขันหมากไปสู่ขอรอบสอง...เพราะบ้านนี้หวงลูกสาวจริงจริง !!
------------
รูป--
- พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ- อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี
-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - เฉลิมชัย ศรีอ่อน -พริษฐ์ วัชรสินธุ