วานนี้ (28พ.ค.) เว็บไซด์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต. เรื่องการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเลือกตั้งที่ 1 และ เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.แพร่ กรณีมีการกล่าวหาว่า นายทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตผู้สมัครส.ส. พรรคไทยรักษาชาติ และ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน ได้ทำการชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปลงคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใด เป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม
โดยกกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 ได้มีประชาชนประมาณ 1,000 คน ไปรวมตัวที่บ้านของ นายวรวัจน์ แต่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันว่า นายทศพร และ นายอนุสรณ์ อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ส่วนการที่นายวรวัจน์ ได้กระทำการชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปลงคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใดนั้น ไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำอันต้องห้ามตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 กรณีดังกล่าว จึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกม. เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามข้อกล่าวหา กกต. จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
นอกจากนี้ กกต.ยังได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.กำแพงเพชร นายเกียรติชัย ติรณศักดิ์กุล หมายเลข 13 พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (1) ให้ทรัพย์สิน (เงิน) แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนแก่ตน ซึ่งกกต.พิจารณารายงานไต่สวน และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว รับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 เวลาประมาณ 16.00 น.ถึง 18.00 น. นายเกียรติชัย ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียง ที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ บ้านแม่นารี หมู่ที่ 5 ต.นาบ่อ อ.เมืองฯ จ.กำแพงเพชร จริง แต่ไม่มีพยานหลักฐานฟังได้ว่า นายเกียรติชัย กระทำการฝ่าฝืนกม.ตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โดยกกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวน ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 ได้มีประชาชนประมาณ 1,000 คน ไปรวมตัวที่บ้านของ นายวรวัจน์ แต่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานยืนยันว่า นายทศพร และ นายอนุสรณ์ อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ส่วนการที่นายวรวัจน์ ได้กระทำการชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปลงคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใดนั้น ไม่เข้าข่ายเป็นการกระทำอันต้องห้ามตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 กรณีดังกล่าว จึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกม. เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามข้อกล่าวหา กกต. จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง
นอกจากนี้ กกต.ยังได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. เรื่องการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.กำแพงเพชร นายเกียรติชัย ติรณศักดิ์กุล หมายเลข 13 พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกร้องกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (1) ให้ทรัพย์สิน (เงิน) แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนแก่ตน ซึ่งกกต.พิจารณารายงานไต่สวน และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว รับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.62 เวลาประมาณ 16.00 น.ถึง 18.00 น. นายเกียรติชัย ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียง ที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ บ้านแม่นารี หมู่ที่ 5 ต.นาบ่อ อ.เมืองฯ จ.กำแพงเพชร จริง แต่ไม่มีพยานหลักฐานฟังได้ว่า นายเกียรติชัย กระทำการฝ่าฝืนกม.ตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง