“ชาวสีคิ้ว” บุกศาลากลางฯยื่นหนังสือผู้ว่าฯโคราช ต้านโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมลุยฟ้อง “กกพ.” ที่ให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด ระบุโรงไฟฟ้าทดลองเดินเครื่องปล่อยควันพิษและกลิ่นรบกวน
จากกรณีที่ บริษัท ยูนิพาวเวอร์เทค จำกัด ได้ลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เมื่อปี 2559 บนที่ดินกรรมสิทธิ์ประมาณ 200 ไร่ กำลังการผลิตขนาด 9.9 เมกะวัตต์ มูลค่า 800 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.2562 ที่ บ้านถนนคต กิโลเมตรที่ 2 อยู่ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลสีคิ้ว (อบต.สีคิ้ว) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตลาดสดและแหล่งชุมชนแค่ประมาณ 2 กิโลเมตร
วานนี้ ( 23 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล นำโดย นางสาวสุรีรัตน์ ด่านกุล หรือ ทนายอ๋อย ประธานกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมชาวบ้านอีกว่า 10 คน เดินทางมาพบ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกคัดค้านการเปิดโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่สร้างความเดือดร้อนและความวิตกกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
โดยกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้า ระบุว่า เมื่อเดือน ส.ค.60 ศาลปกครองนครราชสีมา มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนใบอนุญาตทั้ง 2 ฉบับ ที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างจาก อบต.สีคิ้ว และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นกับประชาชน จากนั้นจำเลยยื่นอุทธรณ์กับศาลปกครองสูงสุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดี และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อไป ต่อมาศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่ง ทุเลาการบังคับคดีของศาลปกครองนครราชสีมา ให้ใบอนุญาต 2 ใบใช้บังคับได้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงาน ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเป็นที่สุด และประชาชนยังไม่เคยเห็นการทำแบบแสดงรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทางกลุ่มฯ จึงยื่นฟ้องที่ศาลปกครองนครราชสีมาอีกคดี เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า ของ กกพ. เพราะในขณะนี้ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด เพราะศาลปกครองนครราชสีมาได้ชี้แล้วว่า ใบที่ 1 และใบที่ 2 ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถที่จะออกใบที่ 3
ได้ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ขณะนี้ทางโรงงานก็เดินเครื่องทำงาน พ่นควันพิษส่งผลกระทบแก่ประชาชน และมีคนมาร้องทุกข์ว่า ประชาชนที่ค้าขาย ได้รับผลกระทบคือเหม็นกลิ่นควัน กลิ่นคล้ายขยะจนแสบจมูก และประชาชนไม่เคยรับทราบว่า มีการออกใบผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อไร อย่างไร เพราะประชาชนยึดมั่นในกฎหมายในคำพิพากษาของศาล.
จากกรณีที่ บริษัท ยูนิพาวเวอร์เทค จำกัด ได้ลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล เมื่อปี 2559 บนที่ดินกรรมสิทธิ์ประมาณ 200 ไร่ กำลังการผลิตขนาด 9.9 เมกะวัตต์ มูลค่า 800 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.2562 ที่ บ้านถนนคต กิโลเมตรที่ 2 อยู่ในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลสีคิ้ว (อบต.สีคิ้ว) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตลาดสดและแหล่งชุมชนแค่ประมาณ 2 กิโลเมตร
วานนี้ ( 23 พ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล นำโดย นางสาวสุรีรัตน์ ด่านกุล หรือ ทนายอ๋อย ประธานกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมชาวบ้านอีกว่า 10 คน เดินทางมาพบ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกคัดค้านการเปิดโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ที่สร้างความเดือดร้อนและความวิตกกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
โดยกลุ่มชาวสีคิ้วคัดค้านไม่เอาโรงไฟฟ้า ระบุว่า เมื่อเดือน ส.ค.60 ศาลปกครองนครราชสีมา มีคำพิพากษา ให้เพิกถอนใบอนุญาตทั้ง 2 ฉบับ ที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างจาก อบต.สีคิ้ว และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไม่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นกับประชาชน จากนั้นจำเลยยื่นอุทธรณ์กับศาลปกครองสูงสุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคดี และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ผู้ประกอบการสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อไป ต่อมาศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่ง ทุเลาการบังคับคดีของศาลปกครองนครราชสีมา ให้ใบอนุญาต 2 ใบใช้บังคับได้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้กับโรงงาน ทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเป็นที่สุด และประชาชนยังไม่เคยเห็นการทำแบบแสดงรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทางกลุ่มฯ จึงยื่นฟ้องที่ศาลปกครองนครราชสีมาอีกคดี เพื่อเพิกถอนใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า ของ กกพ. เพราะในขณะนี้ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด เพราะศาลปกครองนครราชสีมาได้ชี้แล้วว่า ใบที่ 1 และใบที่ 2 ออกไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถที่จะออกใบที่ 3
ได้ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ขณะนี้ทางโรงงานก็เดินเครื่องทำงาน พ่นควันพิษส่งผลกระทบแก่ประชาชน และมีคนมาร้องทุกข์ว่า ประชาชนที่ค้าขาย ได้รับผลกระทบคือเหม็นกลิ่นควัน กลิ่นคล้ายขยะจนแสบจมูก และประชาชนไม่เคยรับทราบว่า มีการออกใบผลิตไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อไร อย่างไร เพราะประชาชนยึดมั่นในกฎหมายในคำพิพากษาของศาล.