“คนรุ่นใหม่”กับ“การเมืองไทย” ตอนหก ใครเป็น“ตัวปัญหาสำคัญ”ของชาติ?

“ผู้สูญเสียความซื่อสัตย์เหมือนสูญเสียแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง”

นั่นเป็นคำพูดของ “ปราชญ์โบราณชาวจีนคนหนึ่ง” ที่ยึดถือความซื่อสัตย์เป็นเอกอุยิ่งชีวิต

ในวันคล้ายวันเกิดครั้งหนึ่งของ “พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของชำร่วยที่แจกแขกเหรื่อพิมพ์ข้อความว่า ก่อนพูด-เราเป็น “นายคำพูด” หลังพูด-คำพูดเป็น “นายเรา”

คนดี-แท้จริงต้องยึดถือความ “ซื่อสัตย์-สุจริต-กตัญญู-พูดจริงทำจริง” ยิ่งคนดีได้เป็น “นักการเมือง-ส.ส.-รัฐมนตรี-นายกรัฐมนตรี” ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือรัฐประหาร ยิ่งต้องยึดถือสิ่งดังกล่าวอย่างจริงจัง รวมทั้งต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชาติและประชาชนเป็นหลักเท่านั้น

คนชั่ว-โดยสันดานแม้เป็น “คนธรรมดา” ก็จะ “พูดโกหก-กะล่อน-ปลิ้นปล้อน-ขี้โกง-หักหลังคน-เนรคุณคน” เมื่อได้เป็น “นักการเมือง-ส.ส.-รัฐมนตรี-นายกรัฐมนตรี” พฤติกรรมจะชั่วช้าสามานย์มากยิ่งขึ้น ถึงขั้น “ทุจริตโกงชาติ-พูดอย่างทำอย่าง-พูดจาโป้ปดมดเท็จ-เนรคุณชาติและประชาชนเป็นนิจ” เพื่อตนกับพวกจะได้ร่ำรวยเงินทองมิรู้จักพอ…

ชาติไทย-มีคนดีมากกว่าคนชั่วแน่นอน แต่แปลก...ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ “คนชั่ว” มักมีอำนาจบริหารชาติทั้งนี้เพราะชาติไทยไม่เคยมีประชาธิปไตยของประชาชนทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง...มีแต่…

ประชาธิปไตยจอมปลอม-ที่การเลือกตั้งใช้เงินซื้อเสียง ใช้เงินรัฐหาเสียงด้วยโครงการประชานิยม ใช้การโกงสารพัดรูปแบบ ฯลฯ เอาชนะคู่แข่งทางการเมือง เข้าไปเป็น ส.ส.ในสภา เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเพื่อใช้อำนาจรัฐปล้นชาติปล้นประชาชน

เมื่อรัฐบาลเผด็จการรัฐสภามาจากโกงเลือกตั้ง-โกงชาติ ก็ถูกสื่อฯ เปิดโปงและประชาชนขับไล่ สุดท้ายก็ถูก “คณะทหาร” ทำรัฐประหารโค่นล้มลง

แต่ “รัฐบาลรัฐประหาร” มาจากปืนและรถถัง มักหลงเหลิงในอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จ มิได้แก้ต้นเหตุปัญหาอันเลวร้ายของชาติ มิได้ปราบคนโกงชาติ มิได้ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยจริงจังเท่าที่ควร ที่สำคัญมิได้ปฏิรูปชาติทุกภาคส่วนก่อนเลือกตั้ง แถมคณะรัฐประหารบางคนบางคณะ ยังมีพฤติกรรมโกงชาติยิ่งกว่านักการเมืองมาจากเลือกตั้งเสียอีก

นักการเมืองทั้งเลือกตั้งและรัฐประหาร มักเริ่มต้นเป็นความหวังของประชาชน แต่เมื่อยึดอำนาจรัฐได้ก็มักเผยตัวตนสามานย์ ด้วยพฤติกรรม “พูดอย่างทำอย่าง-คอร์รัปชันโกงชาติ” บางรัฐบาลยังถึงขั้นบังอาจ “ล้มเจ้า” อีกด้วย

เรียกว่า...นักการเมืองเลือกตั้งและรัฐประหาร ได้ทำลายความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนลงไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็น “วงจรอุบาทว์ทางการเมือง” นับแต่อดีตตราบปัจจุบัน

แน่นอน...บรรดา “บัวพ้นน้ำ” หรือ “คนดีมีปัญญา” ย่อมพิเคราะห์จนรู้อย่างแจ่มแจ้งว่า

มี “ใครบ้าง” เป็น “นักการเมือง” มาจากการเลือกตั้ง ที่ดีน้อย-ดีมาก-ชั่วน้อย-ชั่วมาก-โคตรชั่ว-ชั่วทั้งโคตร? มี “ใครบ้าง” โกงชาติจนต้องไปนอนคุกตะราง? มี “ใครบ้าง” โกงชาติจนต้องหนีคดีความหนีคุกตะรางไปเร่ร่อนอยู่ต่างแดน? ฯลฯ

บรรดา “บัวพ้นน้ำ” หรือ “คนดีมีปัญญา” ยังพิเคราะห์เจาะลึกจนรู้แล้วนะว่า

มี “นักรัฐประหารคนไหนบ้าง” เป็น “นักการเมือง” ที่ดีน้อย-ดีมาก-ชั่วน้อย-ชั่วมาก? มี “นักรัฐประหารคนไหนบ้าง” หลงและเหลิงในอำนาจจนลืมตัว? มี “นักรัฐประหารคนไหนบ้าง” ที่ไม่ปราบคนโกงชาติ ไม่ลดความ “รวยกระจุกจนกระจาย” จริงจังเท่าที่ควร? มี “นักรัฐประหารคนไหนบ้าง” พูดแล้วไม่ทำตามคำพูด-พูดอย่างทำอย่าง? มี “นักรัฐประหารคนไหนบ้าง” บอกจะปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง แล้วกลับจัดเลือกตั้งโดยไม่มีการปฏิรูป? ฯลฯ

เฮ้อ...รัฐประหารเสียของครั้งล่าสุดนี้ จึงส่งผลให้การเมืองชาติและประชาชนยังคงจมปลักอยู่ในวังวนการเมืองสกปรก “ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า” และมีโอกาสจะ “ถอยร่นลงทะเล” ในไม่ช้า...

หลังการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 การเมืองไทยจึงเต็มไปด้วย “นักการเมืองน้ำเน่า” เครือข่ายเก่ากับใหม่ของ “บิ๊กเหลี่ยม” ผงาดอยู่ในสภา

โชคดีนะ...ที่พรรค “ไทยรักษาชาติ” ถูก “บิ๊กเหลี่ยม” ทำปืนลั่นใส่จน “ทษช.” ต้องล้มคว่ำคะมำหงายตายสนิทไปเสียก่อน ไม่งั้น...เสียง ส.ส.เครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” คงได้เกินครึ่งสภาแน่นอน

ด้วย “บิ๊กตู่” ไปเชื้อเชิญบรรดา “นักการเมืองน้ำเน่า” ที่เคยร่วมมือกับ “บิ๊กเหลี่ยม” โกงชาติทำร้ายชาติ ให้มาลงสนามเลือกตั้งเป็น “ส.ส.” เข้าสภาไปร่วมกับ “ส.ว.” ชูมือสลอนหนุน “บิ๊กตู่” ให้ “สืบทอดอำนาจ” จากนายกฯ รัฐประหารเปลี่ยนเป็นนายกฯ มาจากเลือกตั้ง...

แม้จะเป็นได้แค่ “รัฐบาลปริ่มน้ำ” ก็บ่เป็นหยังดอก ขอเพียงได้เดินไป “ตายเอาดาบหน้า” เพราะคะแนน ส.ส.ในสภายามนี้ ทั้งฝ่าย “บิ๊กตู่” กับฝ่าย “บิ๊กเหลี่ยม” นั้น-ก้ำกึ่งเห็นกันตำตา

ถ้า “บิ๊กตู่” ได้เป็นนายกฯ อีกครั้ง...ก็ต้องเป็น “นายกฯ เป็ดง่อย” กับเป็น “รัฐบาลเป็ดง่อย” แน่นอน!

เสถียรภาพ “นายกฯ-รัฐบาลตู่” ที่อ่อนแอไม่มั่นคง จะส่งผลเสียหายใหญ่หลวงต่อชาติกับประชาชน!

ผลงาน “รัฐประหารเยี่ยวไม่สุด” ของ “บิ๊กตู่” จึงทำให้เครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ยังแข็งแกร่งทางการเมือง โดยเฉพาะ “ในสนามเลือกตั้ง” และ “ในสภา” (ว่ะ)

“โอกาสทองไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะได้ เพราะถ้าทุกคนได้โอกาสทอง สิ่งนั้นก็ไม่เรียกว่าโอกาสทอง”

“บิ๊กตู่” โชคดีที่ได้ “โอกาสทอง” เป็น “วีรบุรุษชาติ” แต่กลับทำ “โอกาสทอง” หมดไปโดยไม่คุ้มค่าต่อชาติและประชาชน...!!!

แถม “บิ๊กตู่” ยังไม่รู้ตัวว่า...ได้กลายเป็น “ตัวปัญหาสำคัญ” ที่ทำให้ชาติเดินหน้าอย่างมั่นคงไม่ได้!