ผู้จัดการรายวัน360- ปชป.หอบหลักฐานนับคะแนน 245 หน่วย ยันผู้สมัครปชป. นครปฐม เฉือนชนะอนาคตใหม่ 4 คะแนน "อนาคตใหม่" ออกแถลงการณ์ จี้ กกต.จัดเลือกตั้งเขต 1 นครปฐมใหม่ทั้งเขต อ้างผลนับคะแนน 5 ครั้ง ไม่ตรงกัน จนส่อว่ามีการทุจริต ด้าน ผอ.กกต.จว.นครปฐม แถลงผลอย่างไม่เป็นทางการ ผู้สมัคร ปชป.ชนะ อนค. 4 คะแนน ขณะที่ กกต. แจงโซเชียลยังประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้ เหตุกม.กำหนดชัดต้องไม่พบทุจริต -ประกาศไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 "บิ๊กป้อม" ย้อนถาม "ธนาธร" เล่นการเมืองนอกสภาฯ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ "ศรีสุวรรณ" ยื่น กกต. สอบ 11 ผู้สมัครอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อ ขัดรธน. เตรียมร้องผู้สมัคร พปชร-พท. ต่อ 2 พ.ค.นี้ ด้านศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สั่งถอนชื่อ "ภูเบศวร์ เห็นหลอด" ขาดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 สกลนคร พรรคอนาคตใหม่
วานนี้ (29เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รักษาการ ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงถึงผลการนับคะแนนเลือกตั้ง เขต 1 จ.นครปฐมใหม่ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ข่าวที่ปรากฏยังมีความสับสน เพราะบางข่าวบอกพรรคอนาคตใหม่ ชนะ 62 คะแนน แต่บางข่าวบอก ประชาธิปัตย์ ชนะ 4 คะแนน
ทั้งนี้ จากการที่พรรคปชป.ได้ตั้งตัวแทนร่วมสังเกตการณ์ในกระดานนับทั้ง 61 กระดาน และตนรวมถึงนายสาธิต และนายสุธรรม รวมทั้งอดีต ส.ส.และผู้สมัครไปร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่ต้น มีข้อมูลที่เรียกได้ว่าอย่างเป็นทางการ จากการนับ 245 หน่วย พบว่า เมื่อรวมคะแนนแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 คือ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ชนะ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน คือผู้สมัครพรรค ปชป. ได้ 35,711 คะแนน ส่วน น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ได้ 35,707 คะแนน
ส่วนรายละเอียดหลักฐาน ที่สำนักงานเลขาธิการพรรคมีทั้ง 245 หน่วยนั้น นายสาธิต กล่าวว่า ยืนยันว่า คะแนนที่พรรคติดตาม กับสิ่งที่กกต.ให้สัมภาษณ์ ไม่ตรงกัน จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ตามที่พรรค ปชป.ได้รวบรวม เพราะทุกหน่วยมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 5 คน เซ็นต์รับรองแล้วคือ ปชป.ได้ 35,711 คะแนน อนาคตใหม่ได้ 35,707 คะแนน โดยเป็นการรวมคะแนนจากที่ กกต.นับทุกหน่วยมารวมกัน และผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ก็ยอมรับผลคะแนน โดยโพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อเวลา 20.12 น. ว่า แพ้พรรคประชาธิปัตย์ไป 4 คะแนน แต่อาจจะเกิดความผิดพลาด ที่มีการให้สัมภาษณ์จาก นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต. ว่า ปชป. แพ้ 62 คะแนน ตนยืนยันว่า ผลรวมคะแนนของพรรคปชป. คือผลคะแนนที่ถูกต้อง จึงขอให้ กกต.ประกาศรับรองผลโดยเร็ว
ด้าน น.ต.สุธรรม ได้นำหลักฐานเอกสารการนับคะแนนทั้ง 245 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ร่วมลงชื่อมาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า ผลการรวมคะแนนพรรคปชป.ชนะ 4 คะแนน เป็นผลเลือกตั้งที่ถูกต้อง โดยหากใครไม่มั่นใจสามารรถไปขอดูได้
** ปชป.เฉือนอนาคตใหม่ 4 คะแนน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายสามารถ นาคสกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม (ผอ.กกต.จว.นครปฐม) แถลงที่สำนักงาน กกต. นครปฐม เพื่อสรุปผลการนับคะแนนใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 หลังจากเกิดปัญหาสับสนระหว่างการนับคะแนนว่า ใครเป็นผู้ชนะกันแน่ ระหว่าง พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัครจากพรรค ปชป. หรือ น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ ผลปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนน 35,711 คะแนน ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนน 35,707 คะแนน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ เฉือนชนะเพียงแค่ 4 คะแนน ส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.นครปฐม อย่างไม่เป็นทางการ
*** “พรรคส้ม” จี้เลือกตั้งใหม่เขต 1 นครปฐมยกเขต
ขณะที่เฟซบุ๊ก พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party มีการโพสต์แถลงการณ์พรรคอนาคตใหม่ กรณีผลการนับคะแนนเลือกตั้งครั้งที่ 2 เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม มีรายละเอียดว่า ผลคะแนนของเขตเลือกตั้งที่ 1 จ.นครปฐม ถือเป็นกรณีที่มีปัญหาอย่างมาก โดยมีการแสดงคะแนนเปลี่ยนไปมาถึง 5 ครั้ง ได้แก่
24 มี.ค. กกต.ประกาศให้พรรคอนาคตใหม่ แพ้ประชาธิปัตย์ 147 คะแนน ด้วยคะแนน 35,615 ต่อ 35,762 จากนั้น 1 สัปดาห์หลังเลือกตั้ง ผู้สมัครอนาคตใหม่ ขอคะแนนรายหน่วยจาก กกต. มาตรวจสอบเอง พบว่าพรรคอนาคตใหม่ ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,766 ต่อ 35,762
ต่อมา 28 เม.ย. พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศชัยชนะ ได้คะแนนมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,711
วันเดียวกัน นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี กรรมการ กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคอนาคตใหม่ ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 62 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,645
จากนั้น 29 เม.ย. นายจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงว่า พรรคอนาคตใหม่ แพ้พรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน 35,707 ต่อ 35,711
คะแนนที่เปลี่ยนไปมาเช่นนี้ ทำให้ไม่สามารถหาข้อยุติอันชอบธรรมได้เลยว่า ผลการเลือกตั้งครั้งใด ถือว่าเป็นครั้งที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังเกิดเหตุไฟดับนานถึง 20 วินาที ในระหว่างการนับคะแนน และผู้สังเกตการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ ได้ตรวจสอบพบเหตุผิดปกติหลายกรณี มากเกินกว่าจำนวนคะแนนที่พรรคอนาคตใหม่ แพ้พรรคประชาธิปัตย์
ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นกรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.นครปฐม มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง พรรคอนาคตใหม่ จึงขอเรียกร้องให้ กกต. สั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 124 เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
**กกต. แจงยังประกาศผลเลือกตั้งไม่ได้
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงชี้แจง กรณีกกต.ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้ แม้จะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว 1 เดือนแล้ว ว่า ตามมาตรา 127 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. กำหนดให้ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งส.ส.ได้ต่อเมื่อตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด กกต.ไม่สามารถทยอยประกาศผลการเลือกตั้งจนกว่าจะครบร้อยละ 95 ทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ เบื้องต้นแม้จะมีการแจกใบส้ม สั่งเลือกตั้งใหม่ในบางเขต แต่ กกต.มั่นใจว่า จะประกาศได้ทันในวันที่ 9 พ.ค. ส่วนเรื่องสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ วันนี้ ไม่ได้มีอยู่ในวาระการประชุมกกต. และไม่ทราบว่าในที่ประชุมกกต. มีการซักถามถึงประเด็นดังกล่าวหรือไม่ เพราะตนไม่ได้อยู่ในที่ประชุม "แต่ยืนยันว่าสูตรไม่ได้อยู่ในที่ประชุมกกต. แต่อยู่ในกฎหมาย"
นอกจากนี้ยังชี้แจงกระแสข่าวกดดันให้กกต.เปิดเผยรายงานผลการนับคะแนนส.ส.หน้าหน่วยเลือกตั้งหรือแบบ ส.ส. 5/18 ว่ารายงานผลคะแนน 5/18 ถูกติดประกาศไว้หน้าหน่วย 1 ฉบับ หากดูที่หน่วยไม่ทัน เอกสารชำรุด หรือเสียหาย สามารถขอคัดสำเนาได้ที่ กกต.จังหวัด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผู้ยื่นขอคัดสำเนาแล้วทุกจังหวัด โดยการขอข้อมูลดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เพราะกกต.เตรียมข้อมูลให้คัดสำเนาได้อยู่แล้ว
*** "บิ๊กป้อม"ตอกกลับธนาธรเล่นนอกสภ
วานนี้ (29เม.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อคน.) ระบุว่า ถ้ามีปัญหาเรื่องหุ้นสื่อฯ จนไม่ได้เข้าไปนั่งในสภาฯ ก็จะออกมาเล่นการเมืองนอกสภาฯ ว่า ถามว่าทำแบบนั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็ดำเนินการไป ในส่วนเรื่องของความวุ่นวายนั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไร ทุกอย่างยังคงเดินไปตามกฎหมาย ยังไม่มีเรื่องการปลุกระดม หรือเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับเรื่องการเมืองนั้น ต้องรอหลังจากงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสร็จสิ้นไปแล้ว ว่าใครจะเป็น ส.ส.หรือไม่ ก็ขอให้รอหลังวันที่ 9 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ประชาชนต่างรับทราบดีว่าเป็นช่วงงานพระราชพิธีฯ อันยิ่งใหญ่ อีกทั้งทราบว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
** ร้อง11ผู้สมัครอนค.ถือหุ้นสื่อ
วันเดียวกันนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบผู้สมัครส.ส. ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคอนาคตใหม่ 11 ราย เนื่องจากตรวจสอบหนังสือบริคณห์สนธิ ทะเบียนนิติบุคคล รวมถึงวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าทั้งหมดเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชน จึงอาจเข้าข่ายเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ตาม มาตรา 98 (3) ของรธน. ประกอบ มาตรา 42 (3) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ทั้งนี้ ผู้สมัครทั้ง 11 คน ประกอบด้วย 1. นายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 9 เป็นกรรมการบริษัท แอมฟายน์ โปรดักชั่น จำกัด และกรรมการบริษัท เฮด อัพ โปรดักชั่น จำกัด 2. นายวินท์ สุธีรชัย ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 19 เป็นกรรมการบริษัท ดับบลิวซีดี วิชั่น จำกัด 3. นายคารม พลพรกลาง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 26 เป็นกรรมการบริษัท สำนักพิมพ์สามพอ จำกัด 4. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 38 เป็นกรรมการบริษัท โปรโมชั่นแม็กกาซีน จำกัด 5. นายวรกร ฤทัยวาณิชกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 71 เป็นกรรมการบริษัท เฮลโลฟิล์มเมคเกอร์ จำกัด 6. นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล จำกัด ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 94 เป็นกรรมการบริษัท ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ จำกัด
7. นายหรินทร์ ยุวรัตนาพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 111 เป็นกรรมการบริษัท อินเซน ออดิโอเวิร์ค แอนด์ สตูดิโอ จำกัด 8. น.ส.นรีรัตน์ สุขวรรณรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต เขต 2 จ.สระบุรี เป็นกรรมการบริษัท บอส แอนด์ ธอส โปรเจคท์ จำกัด 9. นายวีระชน นามประกาย ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เขต 4 จ.สกลนคร เป็นกรรมการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด วชิรวิชญ์ เคเบิ้ลทีวี นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการห้างหุ่นส่วนจำกัด นครพนม ทีวี แอนด์ เน็ทเวิร์ค 10. นายปิยเมษฐ ประณีตพลกรัง ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เขต 14 จ.นครราชสีมา เป็นกรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด พีเอสบี คอมมูนิเคชั่น และ 11. น.ส.?กัลยารัตน์ กิตติกัลยานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เขต10 จ.ขอนแก่น เป็น กรรมการห้างหุ้นส่วนจำกัด หวานชุมโปรโมชั่น
ดังนั้น ตนจึงจะนำพยานหลักฐาน ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และว่าที่ ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 11 คน มายื่นต่อกกต. เพื่อระงับการประกาศผล และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งพร้อมลงโทษตาม ม.151 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทําหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 20 ปี ด้วย
นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ยังพบว่าผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ 2-3 ราย และพรรคเพื่อไทย อีก 3-4 ราย ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตนจะยื่นคำร้องต่อ กกต.ในวันที่ 2 พ.ค.นี้
**"เด็กอนาคตใหม่"งัดหลักฐานโต้
ด้านนายคารม พลพรกลาง ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 26 พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ กล่าวหาว่าตนถือหุ้นสื่อว่า ข้อเท็จจริง คือตนถือหุ้นบริษัท สำนักพิมพ์สามพอ จำกัด แต่เลิกไปแล้ว 6 ปี โดยยื่นคำขอจดทะเบียนเลิก และชำระบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 4 ก.ย.56 มี หนังสือรับรองรายการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี ลงวันที่ 27 ก.ย. 56 ซึ่งเอกสารทั้งหมด ตนได้ขอคัดสำเนาเตรียมไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพราะข้อกล่าวหาดังกล่าวทำให้ตน และพรรคอนาคตใหม่เสียหาย
**ศาลฎีกาฯสั่งถอนชื่อ"ภูเบศวร์ เห็นหลอด"
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยถึงผลคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้ง ที่ 1706/2562 ระหว่าง ผอ.การเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.สกลนคร ยื่นคำร้องว่า นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ผู้คัดค้านขาดคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ตามบทบัญญัติของรธน. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
เนื่องจากผู้คัดค้าน เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของ หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์ ดังนั้น ผู้คัดค้านจึงเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ผู้ร้องจึงขอให้ถอนชื่อผู้คัดค้าน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครส.ส.เขต 2 จ.สกลนคร
คดีนี้ นายภูเบศวร์ ผู้คัดค้าน ได้ยื่นคำคัดค้านอ้างว่า หจก. มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส ประกอบกิจการก่อสร้างอาคารสถานที่ ไม่ใช่ที่พักอาศัยที่ระบุในวัตถุประสงค์ ข้อที่ 43 ว่าประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์รับจัดทำสื่อโฆษณาสปอร์ตโฆษณาเผยแพร่ข้อมูล แต่เป็นเพียงแบบวัตถุประสงค์สำเร็จรูป แนบคำขอจดทะเบียนเท่านั้น อีกทั้ง หจก.ดังกล่าวได้สิ้นสภาพนิติบุคคลไปตั้งแต่ วันที่ 6 มี.ค.62 แล้ว จึงขอให้ยกคำร้อง
ศาลฎีกาฯ ได้ตรวจพยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าที่ผู้คัดค้าน อ้างว่า หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส มีวัตถุประสงค์ดังกล่าว แต่ไม่ได้ประกอบกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์และออกหนังสือพิมพ์ จึงฟังไม่ขึ้น แม้ต่อมาวันที่ 6 มี.ค.62 ผู้คัดค้าน จะจดทะเบียนเลิก หจก.ดังกล่าวแล้ว แต่เป็นระยะเวลาหลังจากผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้ว จึงต้องถือว่าในวันที่ผู้คัดค้านยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ผู้คัดค้านยังเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ถือได้ว่า ผู้คัดค้านเป็นบุคคลอันมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ตามบทบัญญัติดังกล่าว และไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส.
ศาลฎีกาฯ จึงมีคำสั่งให้ถอนชื่อ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้คัดค้าน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต2 จ.สกลนคร พรรคอนาคตใหม่


