ผู้จัดการรายวัน360- ประธานกกต. เผยพิจารณาคำร้อง"ธนาธร”ปมถือหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัติรับสมัคร ส.ส. ใกล้เสร็จแล้ว คาดลงมติได้ในวันนี้ ด้าน "ธนาธร"ร้อนตัว รีบส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรม "ปิยบุตร" แจงยิบ ไทม์ไลน์ โอนหุ้น ขุดมายันกระทั่งใบเสร็จทางด่วน ชี้เหตุยังไม่ปิดบริษัท เพราะยังเสียดายหนี้เสียอีกกว่า 11 ล้าน วอนกกต.พิจารณาหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อความเป็นธรรม "ศรีสุวรรณ" โต้ กกต.ยังสรุปไม่ได้ ต้องรอผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ ปูดมีว่าที่ส.ส.อนาคตใหม่ อีก 6-7 ราย ถือหุ้นสื่อ ซ้ำรอยหัวหน้าพรรค
วานนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้น ในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3) ประกอบพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 42 (3) ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส. หรือไม่ซึ่งที่ประชุมได้ให้คณะอนุกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม ก่อนจะมีการประชุมลับ
ทั้งนี้ หลังการประชุมกกต.เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ก็ได้รับการชี้แจงว่า ใกล้เสร็จแล้ว แต่ยังมีข้อมูลที่จะต้องพิจารณาต่อในวันนี้ (23เม.ย.) เชื่อว่าน่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนเบื้องต้น และมีมติให้ทำอะไร แค่ไหน ส่วนการจะให้ ใบเหลือง ใบส้ม หรือไม่ ยืนยันว่า ขณะนี้เรื่องยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะทุกอย่างจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยจะต้องพิจารณา อย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นการกระทบสิทธิต่อบุคคลอื่น และคิดว่าไม่จำเป็นต้องสอบ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งก็เป็นผู้ร้องอีกคนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมกกต.ในวันนี้ หาก กกต.เห็นว่าพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอให้ฟังได้ว่า เป็นการกระทำที่อาจขัดต่อกฎหมาย ก็จะมีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร เพื่อให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนฯต่อไป
***"ธนาธร" ร้อนตัวส่งทนายแจงปมหุ้นสื่อ
วานนี้ (22 เม.ย.) นายวรวุฒิ บัตรมาตร ฝ่ายกฎหมาย พรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมทนายความ เข้ายื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี การถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวว่า มาขอให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. เกี่ยวกับข้อมูลการถือหุ้น เนื่องจากเห็นว่า กกต.พยายามจะปิดสำนวนคำร้องนี้ ภายในวันที่ 9 พ.ค. หากไม่มีผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล ก็จะเร็วเกินไปในการปิดคดี พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกม. ทุกประการ ไม่สามารถทำให้ถูกกม. กว่านี้ได้แล้ว ซึ่งในวันนี้ได้นำหลักฐาน ทั้งตราสารโอนหุ้น เช็คชำระค่าหุ้น และ หลักฐานประกอบทางกม. มาเข้าให้ข้อมูล
*** "ปิยบุตร" แจงยิงไทม์ไลน์โอนหุ้น
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงรายละเอียดการโอนหุ้นของนายธนาธร ว่า นายธนาธร และนางรวิพรรณ ภรรยา ได้โอนหุ้น "วี-ลัค" ให้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ของนายธนาธร เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 ขณะที่มีการระบุว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นายธนาธรไม่ได้ร่วมประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ข้อเท็จจริงคือในช่วงเช้า นายธนาธร ยังคงลงพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์ และเดินทางกลับมากรุงเทพ ด้วยรถตู้ในช่วงบ่าย และมีหลักฐานใบเสร็จ easy passในการเดินทาง ในช่วงเวลา 15.00 น. และเดินทางไป ยังจ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 9 ม.ค.
จากนั้น วันที่ 14 ม.ค.62 นางสมพร ได้โอนหุ้นให้กับ นายทวี และ นายปิติ (นายเอ และนายบี) ซึ่งเป็นหลานชายของนางสมพร เพื่อต้องการให้เข้ามาดูแลกิจการ และติดตามหนี้สินจากลูกหนี้ค้างชำระ ตามที่ฝ่ายบัญชีของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แนะนำว่า หนี้ค้างชำระน่าจะมีการติดตามทวงคืนได้ ยังไม่ให้ปิดบริษัท ทำให้ตั้งแต่ วันที่ 14 ม.ค. บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กลับมามีผู้ถือหุ้น 10 คน
ต่อมา วันที่ 18 ม.ค.62 น.ส.รวิพรรณ ได้ลงนามลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และให้มีผลในวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งมีการประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีวาระ เรื่องแจ้งการลาออกของนายทวี และนายปิติ แจ้งการถือครองหุ้น และมีมติ เลิกกิจการบริษัท เนื่องจากฝ่ายบัญชีพบว่า หนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้ NPLหรือหนี้เสีย กว่า 11 ล้านบาท จึงตัดสินใจมีมติ ปิดบริษัท จากนั้นในวันที่ 21 ม.ค. นายทวีและนายปิติ รวมถึงผู้ถือหุ้นอีก 3 คน ได้โอนหุ้นคืนให้กับนางสมพร ให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหารบริษัท ทำให้เหลือหุ้นเพียง 5 คน
จากนั้นวันที่ 21 มี.ค.62 ทางบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัดได้นำเอกสารไปยื่นต่อกรมธุรกิจการค้า ตามมาตรา 139 วรรค 2 ที่กำหนดให้ ยื่นสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นปีละ 1 ครั้ง ภายหลังจากการประชุมสามัญในวันที่ 19 มี.ค.62
เมื่อถามว่า เกรงว่า กกต.จะประวิงเวลาในการตรวจสอบจนไม่สามารถรองรับสถานะ ส.ส. ของ นายธนาธร ในวันที่ 9 พ.ค.หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า หากพิจารณาด้วยจิตใจเป็นธรรม เมื่อเห็นหลักฐานการโอนหุ้น ในวันที่ 8 ม.ค. เห็นแค่นี้ต้องมีมติทันทีแล้วว่า เรื่องนี้ไม่มีมูล จากหลักฐานต่างๆ ครบถ้วน และไม่มีเหตุผลอื่นใดเลย ที่ต้องตั้ง กก.ช่วยตรวจสอบ นอกจากนี้การที่ทางคณะกรรมการดังกล่าว ไปขอหลักฐานตามหน่วยงานๆ ตามที่ปรากฏออกมาเป็นข่าว แต่ผู้ถูกกล่าวหา กลับยังไม่ได้รับโอกาสชี้แจงเลย ทั้งที่เรื่องนี้ควรจบไปตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเราต้องขอความเป็นธรรมในการนำเอกสารหลักฐานจากทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามาพิจารณาด้วย
*** ศรีสุวรรณโต้ต้องรอผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เดิมวันนี้ กกต. ทำหนังสือเชิญตนเข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดียจำกัด แต่ตนต้องไปขึ้นศาลปกครอง จึงต้องรอให้คณะอนุกรรมการไต่สวน ทำหนังสือเชิญตนมาอีกครั้ง ดังนั้นที่มีกระแสข่าวว่า กกต.จะสรุปผลการไต่สวนหุ้นของนายธนาธร ในวันนี้ จึงยังทำไม่ได้ เพราะยังต้องรอให้ตนในฐานะผู้ร้อง เข้าให้ถ้อยคำก่อน พร้อมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พรรคอนาคตใหม่ คงไม่มีเฉพาะนายธนาธรคนเดียวที่ครอบครองหุ้นสื่อ เพราะตรวจสอบพบยังมีว่าที่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 6-7 รายถือครองหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน
วานนี้ (22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้น ในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ( 3) ประกอบพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. มาตรา 42 (3) ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส. หรือไม่ซึ่งที่ประชุมได้ให้คณะอนุกรรมการไต่สวน และคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม ก่อนจะมีการประชุมลับ
ทั้งนี้ หลังการประชุมกกต.เสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ก็ได้รับการชี้แจงว่า ใกล้เสร็จแล้ว แต่ยังมีข้อมูลที่จะต้องพิจารณาต่อในวันนี้ (23เม.ย.) เชื่อว่าน่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนเบื้องต้น และมีมติให้ทำอะไร แค่ไหน ส่วนการจะให้ ใบเหลือง ใบส้ม หรือไม่ ยืนยันว่า ขณะนี้เรื่องยังไม่ถึงขนาดนั้น เพราะทุกอย่างจะช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยจะต้องพิจารณา อย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นการกระทบสิทธิต่อบุคคลอื่น และคิดว่าไม่จำเป็นต้องสอบ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากนายศรีสุวรรณ จรรยา ซึ่งก็เป็นผู้ร้องอีกคนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมกกต.ในวันนี้ หาก กกต.เห็นว่าพยานหลักฐานมีน้ำหนักเพียงพอให้ฟังได้ว่า เป็นการกระทำที่อาจขัดต่อกฎหมาย ก็จะมีมติแจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร เพื่อให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนฯต่อไป
***"ธนาธร" ร้อนตัวส่งทนายแจงปมหุ้นสื่อ
วานนี้ (22 เม.ย.) นายวรวุฒิ บัตรมาตร ฝ่ายกฎหมาย พรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมทนายความ เข้ายื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี การถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวว่า มาขอให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต. เกี่ยวกับข้อมูลการถือหุ้น เนื่องจากเห็นว่า กกต.พยายามจะปิดสำนวนคำร้องนี้ ภายในวันที่ 9 พ.ค. หากไม่มีผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล ก็จะเร็วเกินไปในการปิดคดี พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกม. ทุกประการ ไม่สามารถทำให้ถูกกม. กว่านี้ได้แล้ว ซึ่งในวันนี้ได้นำหลักฐาน ทั้งตราสารโอนหุ้น เช็คชำระค่าหุ้น และ หลักฐานประกอบทางกม. มาเข้าให้ข้อมูล
*** "ปิยบุตร" แจงยิงไทม์ไลน์โอนหุ้น
ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงรายละเอียดการโอนหุ้นของนายธนาธร ว่า นายธนาธร และนางรวิพรรณ ภรรยา ได้โอนหุ้น "วี-ลัค" ให้ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา ของนายธนาธร เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.62 ขณะที่มีการระบุว่า ในวันที่ 8 ม.ค.นายธนาธรไม่ได้ร่วมประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ข้อเท็จจริงคือในช่วงเช้า นายธนาธร ยังคงลงพื้นที่ใน จ.บุรีรัมย์ และเดินทางกลับมากรุงเทพ ด้วยรถตู้ในช่วงบ่าย และมีหลักฐานใบเสร็จ easy passในการเดินทาง ในช่วงเวลา 15.00 น. และเดินทางไป ยังจ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 9 ม.ค.
จากนั้น วันที่ 14 ม.ค.62 นางสมพร ได้โอนหุ้นให้กับ นายทวี และ นายปิติ (นายเอ และนายบี) ซึ่งเป็นหลานชายของนางสมพร เพื่อต้องการให้เข้ามาดูแลกิจการ และติดตามหนี้สินจากลูกหนี้ค้างชำระ ตามที่ฝ่ายบัญชีของบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แนะนำว่า หนี้ค้างชำระน่าจะมีการติดตามทวงคืนได้ ยังไม่ให้ปิดบริษัท ทำให้ตั้งแต่ วันที่ 14 ม.ค. บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด กลับมามีผู้ถือหุ้น 10 คน
ต่อมา วันที่ 18 ม.ค.62 น.ส.รวิพรรณ ได้ลงนามลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท และให้มีผลในวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งมีการประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีวาระ เรื่องแจ้งการลาออกของนายทวี และนายปิติ แจ้งการถือครองหุ้น และมีมติ เลิกกิจการบริษัท เนื่องจากฝ่ายบัญชีพบว่า หนี้ที่มีอยู่เป็นหนี้ NPLหรือหนี้เสีย กว่า 11 ล้านบาท จึงตัดสินใจมีมติ ปิดบริษัท จากนั้นในวันที่ 21 ม.ค. นายทวีและนายปิติ รวมถึงผู้ถือหุ้นอีก 3 คน ได้โอนหุ้นคืนให้กับนางสมพร ให้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหารบริษัท ทำให้เหลือหุ้นเพียง 5 คน
จากนั้นวันที่ 21 มี.ค.62 ทางบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัดได้นำเอกสารไปยื่นต่อกรมธุรกิจการค้า ตามมาตรา 139 วรรค 2 ที่กำหนดให้ ยื่นสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นปีละ 1 ครั้ง ภายหลังจากการประชุมสามัญในวันที่ 19 มี.ค.62
เมื่อถามว่า เกรงว่า กกต.จะประวิงเวลาในการตรวจสอบจนไม่สามารถรองรับสถานะ ส.ส. ของ นายธนาธร ในวันที่ 9 พ.ค.หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า หากพิจารณาด้วยจิตใจเป็นธรรม เมื่อเห็นหลักฐานการโอนหุ้น ในวันที่ 8 ม.ค. เห็นแค่นี้ต้องมีมติทันทีแล้วว่า เรื่องนี้ไม่มีมูล จากหลักฐานต่างๆ ครบถ้วน และไม่มีเหตุผลอื่นใดเลย ที่ต้องตั้ง กก.ช่วยตรวจสอบ นอกจากนี้การที่ทางคณะกรรมการดังกล่าว ไปขอหลักฐานตามหน่วยงานๆ ตามที่ปรากฏออกมาเป็นข่าว แต่ผู้ถูกกล่าวหา กลับยังไม่ได้รับโอกาสชี้แจงเลย ทั้งที่เรื่องนี้ควรจบไปตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเราต้องขอความเป็นธรรมในการนำเอกสารหลักฐานจากทั้ง 2 ฝ่าย เข้ามาพิจารณาด้วย
*** ศรีสุวรรณโต้ต้องรอผู้ร้องมาให้ถ้อยคำ
ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า เดิมวันนี้ กกต. ทำหนังสือเชิญตนเข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดียจำกัด แต่ตนต้องไปขึ้นศาลปกครอง จึงต้องรอให้คณะอนุกรรมการไต่สวน ทำหนังสือเชิญตนมาอีกครั้ง ดังนั้นที่มีกระแสข่าวว่า กกต.จะสรุปผลการไต่สวนหุ้นของนายธนาธร ในวันนี้ จึงยังทำไม่ได้ เพราะยังต้องรอให้ตนในฐานะผู้ร้อง เข้าให้ถ้อยคำก่อน พร้อมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พรรคอนาคตใหม่ คงไม่มีเฉพาะนายธนาธรคนเดียวที่ครอบครองหุ้นสื่อ เพราะตรวจสอบพบยังมีว่าที่ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 6-7 รายถือครองหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน