xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อตัวตลกเป็นผู้นำยูเครน...

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์

นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี นักแสดงตลก ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดียูเครน
การเมืองยิ่งกว่าเรื่องตลกและพิสูจน์ให้เห็นได้แล้วที่ประเทศยูเครนหลังจากผลการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีปรากฏชัดแล้วว่าดาราตลกบนจอทีวี นักแสดง และนักธุรกิจคนดัง นามว่า โวโลดิมีร์ เซเลนสกี วัย 41 ปี ได้กลายเป็นผู้นำประเทศไปแล้ว

เอาชนะนักการเมืองเขี้ยวยาวแก่พรรษา นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีมาแล้ว 5 ปี ดังเช่น นายเปโตร โปโรเชนโก ในการเลือกตั้งวัดดวงรอบที่ 2 วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้หลังจากครั้งแรก เซเลนสกี ได้คะแนนนำเหนือโปโรเชนโก ไปมากพอสมควร

เมื่อไม่มีใครได้เสียงเกินครึ่งของผู้มาใช้สิทธิ์ ต้องเลือกตั้งล้างตาอีกรอบหนึ่ง

และก็ไม่มีอะไรน่ากังขาอีกต่อไป เพราะนักการเมืองหน้าใหม่ที่ผันตัวเองมาจากดาวตลกบนจอทีวี ได้คะแนนนำ 73.2% ขณะที่โปโรเชนโกได้เพียง 25.3% จากผลของเอ็กซิตโพลที่ทำโดย “ยูครินฟอร์ม” ซึ่งเป็นสถานีสื่อของรัฐบาลยูเครน

จากความพ่ายแพ้รอบแรกและตอกย้ำอีกครั้งหนึ่ง ทำให้โปโรเชนโกประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ผลการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะยังไม่ได้มีประกาศอย่างเป็นทางการ นับเป็นประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่ของยูเครน

จากผู้นำแบบกร้าว ห้าวเป้ง สไตล์ของโปโตรเชนโก กล้าเผชิญหน้ากับผู้นำชาติหมีขาว ดังเช่นวลาดิมีร์ ปูติน ยูเครนจะเปลี่ยน มีผู้นำรัฐบาลโดยไม่มีประสบการณ์ด้านการเมือง ไม่มีพรรค ฐานเสียง หรือเครือข่าย แต่มาจากเสียงของประชาชนล้วนๆ

แต่เซเลนสกีได้ซ้อมและเล่นบทเป็นประธานาธิบดี เป็นดาวตลกบนจอทีวี คุ้นหน้าคุ้นตากับผู้ชมชาวยูเครนอยู่แล้ว ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง แม้จะเป็นการล้อเลียนประธานาธิบดี แต่ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับชาวบ้านได้มาก

ผลการเลือกตั้งจึงเป็นข้อพิสูจน์ชัด สะท้อนให้เห็นว่าเป็นจังหวะดีของเซเลนสกี ขณะที่ประชาชนยูเครนกำลังผิดหวังและเบื่อหน่ายนักการเมือง ชนชั้นระดับปกครอง การทุจริตคอร์รัปชันเรื้อรัง ติดหล่มกับภาวะเศรษฐกิจที่เสื่อมทรุดหาทางออกไม่ได้

เป็นเรื่องตลกทางการเมืองสำหรับโปโรเชนโก ซึ่งคงขำไม่ออกและที่น่าจะเจ็บปวดกระดองใจที่สุดก็คือ ผู้ชนะไม่ใช่เป็นนักการเมืองมากด้วยประสบการณ์มีความรู้ความสามารถหรือมีความเหนือชั้น แต่เป็นเพียงดาวตลกบนจอทีวีแค่นั้น

ไม่แน่ใจว่าช่วงที่เซเลนสกี ออกบนจอทีวีรับบทประธานาธิบดีและตัวตลกในละครทีวีนั้น โปโรเชนโก ได้เป็นแฟนรายการขาประจำด้วยหรือไม่ และเป็นบทตลกที่โปโรเชนโก ต้องยอมรับด้วยความปวดร้าวใจ

จากนี้ไปโปโรเชนโกจะไปพบปะพูดคุยกับใครได้เมื่อต้องยอมรับสภาพชีวิตของตัวเองที่ต้องมาพ่ายแพ้เกมการเมืองตื้นๆ กับดาวตลกบนจอทีวี ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นจริงในตำแหน่งประธานาธิบดีได้

บนจอทีวีเซเลนสกีเล่นบท “ผู้รับใช้ของประชาชน” ก็คือตัวบทเป็นครูสอนหนังสือแต่ว่าวันหนึ่งได้มีโอกาสจับพลัดจับผลูเป็นประธานาธิบดีของประเทศจึงต้องรับสภาพความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในการบริหารประเทศ

เซเลนสกีหาเสียงแบบต้นทุนต่ำ ใช้สื่อโซเชียลเป็นหนทางหลัก ตัวเองก็เป็นดาราทีวีระดับหนึ่ง ไม่ต้องแนะนำตัวเองมาก คนรู้จักดี เป็นรายการยอดนิยม อาชีพตัวตลก นักแสดง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนก็เป็นอดีตดาราหนัง

เมื่ออยู่กับชีวิตจริง รับผิดชอบคนทั้งประเทศ เซเลนสกีต้องเล่นบทจริง และต้องไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย โดยเฉพาะปัญหาที่ตัวเองยกมาเป็นประเด็นหาเสียงคือการทุจริต เศรษฐกิจมีปัญหา และยูเครนได้มีปัญหากับรัสเซียมานานหลายปี

หลังจากรัสเซียได้ผนวกแหลมไครเมียเข้าไปเป็นของตนเองแล้ว ยิ่งทำให้การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย และการปะทะกันตามชายแดนระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกบฏของยูเครนยิ่งยืดเยื้อมากกว่าเดิม ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 ราย

ปัจจุบันยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรเพราะว่าโปโรเชนโกเป็นนักการเมืองแบบห้าวที่ต้องการเผชิญหน้ากับปูตินและเข้ากับยุโรปตะวันตก และต้องการให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ให้ได้

นี่เป็นประเด็นทำให้ปูตินไม่สบายใจ และการเป็นปฏิปักษ์กันระหว่างสองประเทศก็ไร้ทางออกทำให้ประชาชนยูเครนอยู่ในสภาพลำบากเพราะมีประเทศซึ่งเป็นศัตรูอยู่ติดพรมแดน แต่ขณะเดียวกันมีเพื่อนอยู่ห่าง จะหวังให้ช่วยคงไม่ง่ายนัก

ยูเครนเคยเป็นรัฐหนึ่งภายใต้สหภาพโซเวียตก่อนที่ระบอบคอมมิวนิสต์จะล่มสลาย ชาวยูเครนและรัสเซียก็มีความสัมพันธ์กันในระดับหนึ่ง ภาษาพูดก็ใกล้เคียงกัน และมีแต่งงานกันระหว่างคน 2 เชื้อชาติ ชาวยูเครนยังรับราชการอยู่ในรัสเซีย

เซเลนสกีเผชิญกับความท้าทายทันทีว่าจะดำเนินนโยบายการเมืองระหว่างประเทศอย่างไร จะไปเจรจาเป็นญาติดีกับรัสเซีย หรือเดินตามรอยโปโรเชนโกเข้าไปคบหาสมาคมกับยุโรป หรือรักษาดุลไว้ระหว่างสองกลุ่มเพื่อความอยู่รอดของยูเครน

ยังไม่รู้ว่าผู้นำคนใหม่จะไปอย่างไร ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเสนอนโยบาย ไม่ให้สัมภาษณ์ ไม่เปิดเผยแผนอะไร อ้างว่าไม่ต้องการสร้างความขัดแย้ง การหาเสียงโดยใช้สื่อเป็นหลักเพราะตัวเองก็มีรายได้จากการแสดงรายการตลกเป็นเงินมหาศาล

โอกาสที่ผู้นำคนใหม่จะประสบความสำเร็จทางการเมืองก็มีไม่น้อย เพราะถึงแม้ตัวเองจะเป็นนักแสดงตลกแต่มีเพื่อนที่ปรึกษามีความรู้ มีคุณภาพ มีชื่อเสียงหลายคนอยู่ในทีม ทำให้มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับระดับหนึ่ง

ชาวโลกกำลังเฝ้าดูว่าผลงาน ฝีมือจะเป็นตัวตลกการเมืองจริงหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น