xs
xsm
sm
md
lg

“สุดารัตน์” ตกสวรรค์

เผยแพร่:   โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากพรรคเพื่อไทย ในการเปลี่ยนตัวผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นนายชัยเกษม นิติสิริ หรือไม่ แต่หลังจากมีกระแสข่าว คุณหญิงสุดารัตน์ดูเหมือนจะเงียบหายไป

ถ้ามีการเปลี่ยนตัวผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจริง คงมีคำถามตามมา คุณหญิงสุดารัตน์จะถูกจัดวางบทบาทไว้ตรงไหนในพรรคเพื่อไทย

จากบุคคลที่ได้รับความคาดหมายว่า มีสิทธิก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศ อาจต้องกลายเป็นนักการเมืองที่ไม่เหลือที่ยืนทางการเมือง เพราะแม้แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ไม่ติด ไม่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2535 ที่สอบตก

ใบสั่งการเปลี่ยนตัวคุณหญิงสุดารัตน์ เกิดจากคนแดนไกล ซึ่งมีข่าวว่า ไม่พอใจผลการเลือกตั้งที่ออกมา เพราะพรรคเพื่อไทยกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้เพียง 137 ที่นั่ง และไม่พอใจที่คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ร่วมประชุมสมาชิกพรรค รวมทั้งต้องการให้นายชัยเกษมที่เป็นนักกฎหมายขึ้นนำทัพแทน

คุณหญิงสุดารัตน์ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2535 ในนามพรรคพลังธรรม และหลังจากพล.ต.จำลอง ศรีเมือง วางมือทางการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ยังอยู่ในพรรคพลังธรรม จนปี 2541 เมื่อนายทักษิณ ชินวัตร ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย จึงย้ายไปอยู่กับนายทักษิณ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และได้รับการตบรางวัลจากนายทักษิณ ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีหลายสมัย

นายทักษิณกำหนดคนเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีมาตลอด ตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ล่าสุดส่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวเข้ามาดำรงตำแหน่ง แต่รัฐบาลหุ่นเชิด “ทักษิณ” ต้องมีอันเป็นไปหมด

เมื่อนายทักษิณไม่เหลือหมากให้เล่น ไม่เหลือใครที่เข้าตา คุณหญิงสุดารัตน์จึงถูกผลักดันขึ้นมาเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ประเทศไทยคงมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง

แต่พรรคเพื่อไทยชนะไม่ขาด และแม้จะได้จำนวน ส.ส.มากกว่าพรรคพลังประชารัฐ แต่คะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศน้อยกว่า และอาจทำให้พรรคเพื่อไทยพลาดโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้นายทักษิณเกิดความหงุดหงิด จนนำไปสู่การส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และอาจเป็นการปิดโอกาสการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณหญิงสุดารัตน์ตลอดกาล

การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ทุ่มเทสุดตัว เพราะมีเดิมพันตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสตรีคนที่ 2 เป็นรางวัล เดินสายหาเสียงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พยายามสร้างวาทกรรมทางการเมือง เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากกลุ่มคนที่ยังหลงใหลนายทักษิณ

แต่ความพยายามอาจไม่ดีพอ ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง ส.ส.น้อยที่สุด นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2544 ซึ่งพรรคไทยรักไทยสร้างประวัติศาสตร์ ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย

การได้ที่นั่ง ส.ส.เพียง 137 เสียง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนายทักษิณ ซึ่งกำหนดยุทธศาสตร์แตกแบงก์ 1000 บาท หรือแตกเป็นพรรคเล็กพรรคน้อย โดยตั้งพรรคตระกูล “เพื่อ” ขึ้นมา โดยหวังจะได้ ส.ส.ระบบแบ่งเขตและ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในนามพรรคการเมืองตระกูล “เพื่อ” มากขึ้น

แต่เมื่อพรรคไทยรักษาชาติเกิดสะดุด ถูกยุบพรรค ทำให้แผนแตกแบงก์ 1000 บาทระส่ำระสาย เสียงจากฐานมวลชนนายทักษิณส่วนหนึ่ง ถูกถ่ายเทไปให้พรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งได้รับอานิสงส์จนก้าวขึ้นมาเป็นพรรคการเมืองใหญ่อันดับ 3

พรรคเพื่อไทยชนะพรรคพลังประชารัฐที่ชูพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาสืบทอดอำนาจไม่ขาด ทั้งที่ควรได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นทั้งคะแนนนิยมจากประชาชนและจำนวน ส.ส.

ความผิดพลาดในการวางยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย กลับมาตกหนักที่คุณหญิงสุดารัตน์ เพราะอาจถูกถอดถอนจากการเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เส้นทางการเมืองของคุณหญิงสุดารัตน์ อาจเข้าสู่จุดต่ำสุดเพราะความพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืน จากผู้ที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อาจไม่มีแม้แต่ตำแหน่ง ส.ส.ในสภา

และจะมีบทบาทอย่างไรในพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครหยั่งรู้จิตใจของ “ทักษิณ”

ฝันที่จะก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดทางการเมืองกำลังสลาย ด้วยใบสั่งของนายทักษิณ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์คงต้องก้มหน้ารับชะตากรรม

ต้องยอมรับความจริงว่า นายทักษิณตีค่าของลูกสมุนเป็นเพียงกระดาษชำระ ใช้เสร็จแล้วขยำทิ้งอย่างไม่แยแสความรู้สึก แม้จะเป็นลูกน้องคนสนิทอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น