xs
xsm
sm
md
lg

ด้านบวก-ด้านลบ...ของโศกนาฏกรรมนอเทรอดาม

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท

ไฟไหม้มหาวิหารนอเทรอดาม อันเก่าแก่และมีชื่อเสียงในกรุงปารีส ฝรั่งเศส
กลับจากสงกรานต์...ก็ดันเจอเข้ากับ “ไฟไหม้” ระดับโลก ที่ทำให้ใครต่อใครพูดจากันให้แซ่ดไปในระดับแทบจะทั่วทั้งโลก คือถ้าหากไหม้กันแถวๆ “เซ็นทรัล เวิลด์” บ้านเรา อันนั้น...ต้องถือเป็นระดับท้องถิ่น กระแสการพูดจา ซุบซิบนินทา อาจวนไป-วนมา อยู่กับเรื่อง “อาถรรพ์วังเพชรบูรณ์” เรื่องพวก “เสื้อดำ-เสื้อแดง” อะไรประมาณนั้น แต่เมื่อดันไปไหม้กันอีตรงยอดวิหาร “น็อทร์ ดาม” หรือ “นอเทรอดาม” (Notre Dame) ก็แล้วแต่จะออกเสียงกันไปตามความถนัดของปาก ของลิ้น ณ ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสโน่นเลย มันก็เลยออกจะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโต และก่อให้เกิดการซุบซิบนินทา ที่สลับซับซ้อนกว่าระดับท้องถิ่นของบ้านเรา ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า...

ด้วยเหตุเพราะอาคารสถานที่ดังกล่าว...ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งยิ่งใหญ่อลังการ แต่ยังถือว่ามีความสำคัญเอามากๆ อย่างที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านได้เอ่ยอ้างเอาไว้ในแถลงการณ์เพื่อแสดงออกถึงความเสียใจ เศร้าใจ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้นั่นแหละว่า “นอเทรอดาม...คือสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส และสมบัติอันหาค่ามิได้ของยุโรปและของวัฒนธรรมโลก เป็นสิ่งสำคัญอันเก่าแก่ของชาวคริสต์ โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับสถานที่แห่งนี้ จึงสร้างความปวดร้าวในหัวใจมาถึงชาวรัสเซียด้วยเช่นกัน” ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากนี้ ใครที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนของท่านอาจารย์ “สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร” ในคอลัมน์ “รู้เท่าทันโลก” ในเว็บไซต์ผู้จัดการ เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา คงพอได้รู้ลึก รู้จริง เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และความสำคัญของสถานที่ดังกล่าวไปบ้างแล้ว...

แต่เอาเป็นว่า...สิ่งที่ตามมานับจากนั้น ย่อมต้องมีอะไรที่ออกไปทาง 2 ด้านทั้งด้านบวก ด้านลบ ที่น่าหยิบมาคิดเป็นอุทาหรณ์ สอนใจอยู่พอสมควร คือในด้านบวกนั้น นอกจากบรรดาผู้นำระดับโลก เศรษฐี อภิมหาเศรษฐี คนดังและไม่ดังต่างๆ จะแสดงออกถึงความเสียใจ เศร้าใจ และพร้อมร่วมมือ ร่วมใจ ในการหาทางกอบกู้ ฟื้นฟู มรดกทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจเหล่านี้ให้กลับคืนมาสู่สภาพเดิมให้จงได้ พร้อมควักเงินบริจาคกันนับเป็นร้อยล้าน พันล้าน พร้อมที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณะ ฟื้นฟู สถานที่ทางประวัติศาสตร์ เข้าไปช่วยเหลือประเทศฝรั่งเศส อย่างเช่นประธานาธิบดีรัสเซียที่ได้ออกตัวไว้ก่อนล่วงหน้า หรืออย่างที่สื่อทางการของจีน “Global Times” ได้ออกมาเตือนๆ ชาวจีนด้วยกันเอง ในข้อเขียน บทความ เรื่อง “Notre Dame fire provoke deep thoughts” ว่าอย่าคิดเอากรณีที่ว่านี้ไปเปรียบเทียบกับการเผาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาวจีนเมื่อครั้งอดีต หรือการเผา “พระราชวังฤดูร้อน” ณ กรุงปักกิ่งโดยบรรดาพวกนักล่าอาณานิคมชาวยุโรป เมื่อครั้งสงครามฝิ่นโดยเด็ดขาด เพราะถึงเวลาแล้ว...ที่ไม่ว่าจะเกิดความสูญเสียใดๆ ต่อสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจทั้งของชาวตะวันตกและชาวตะวันออก การแสดงออกถึงความเศร้าใจ เสียใจ ต่อสิ่งเหล่านี้ ควรจะถูกทำให้กลายเป็น “ความรู้สึกที่เป็นเอกภาพของชาวโลก” เอาเลยถึงขั้นนั้น...

แต่ก็นั่นแหละ...การแสดงออกในด้านลบ มันก็ยังพอมีอยู่บ้างไปตามสภาพ เช่น ที่สำนักข่าว “Al jazeera” ของบรรดาชาวอาหรับ ได้รายงานไว้ในข่าวคราวว่าด้วยเรื่อง “Alt-rights spreads Islamophobia after Notre Dame blaze” เมื่อช่วงวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยการหยิบเอาปฏิกิริยาของบรรดาพวกฝรั่งประเภท “ขวาจัด” หรือพวกที่อยากให้ “คนขาวเป็นใหญ่” (White Supremacist) ทั้งหลาย ที่พยายามโหมกระพือเสียงซุบซิบ นินทา เพื่อหวังแพร่กระจาย “โรคกลัวมุสลิม” ให้ระบาดออกไปในหมู่ฝรั่งด้วยกัน โดยเฉพาะการอาศัยความก้าวหน้า ทันสมัยของเครื่องไม้ เครื่องมือ อย่างเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ประเภทเฟซบุ๊ก ทวิตต้ง ทวิตเตอร์ ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่ โหมข่าวลือ ข่าวปลอมออกไปเป็นสายๆ เช่น การโพสต์ภาพใครก็ไม่รู้ ที่หน้าตาออกไปทางแขกๆ ยืนยิ้มเผล่อยู่ท่ามกลางฉากเบื้องหลังที่มีกลุ่มควันลอยคลุ้ง พร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ ว่า “Jihadist Reveled” หรือหันมาป้ายสีชาวมุสลิมซะเฉยเลย...

อย่างไรก็ตาม...แม้ความก้าวหน้า ทันสมัยของเครื่องไม้ เครื่องมือเหล่านี้ มันจะสามารถแพร่กระจายอะไรต่อมิอะไรได้ชนิดกว้างขวาง กว้างไกล ในระดับทั่วทั้งโลกก็ตาม แต่มันก็มีทั้งด้านบวก ด้านลบ อยู่ภายในตัวของมันเองอีกนั่นแหละ คือมันยังพอช่วยให้ “ความจริง” หรือ “ข่าวจริง” ถูกแพร่กระจายออกไปได้กว้างขวาง กว้างไกล ไม่น้อยไปกว่ากัน ดังนั้น...ด้วยคำตอบ คำอธิบาย คำยืนยัน จากรัฐบาลฝรั่งเศส หลังการ “สอบสวนขั้นต้น” ผ่านไปไม่นานนัก ว่า “ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ แม้แต่น้อย ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นโดยความจงใจ” หรือเป็นเพียงแค่ “อุบัติเหตุ” อันเนื่องมาจากความผิดพลาดทางเทคนิค ระหว่างการบูรณะ ซ่อมแซมศาสนสถานแห่งนี้แต่เพียงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น...ในช่วงวันเดียวกัน ต่างเพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ศาสนสถานที่มีความสำคัญเป็นอันดับ 3 ของชาวมุสลิม ก็ดันเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กัน นั่นคือไฟไหม้มัสยิด “อัล-อักซอ” (Al-Aqsa) เพียงแต่โชคดีที่ไหม้เฉพาะห้องสวดเล็กๆ ของหน่วยรักษาความปลอดภัย และก็ไม่ปรากฏร่องรอยใดๆ ว่าเกิดจากความจงใจที่หวังจะจุดไฟในนาครระดับโลก เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุธรรมดาๆ อันนี้...ถ้าว่ากันจากคำยืนยันของผู้อำนวยการทั่วไปของมัสยิดศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้...

สรุปรวมความแล้ว...ความจริง หรือข่าวจริง ก็เลยสามารถสยบข่าวลือ ข่าวปลอม ได้แบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด แต่ทั้งนั้น ทั้งนี้ ย่อมหนีไม่พ้นต้องอาศัย “ความรู้สึกที่เป็นเอกภาพของชาวโลก” อย่างที่สื่อทางการของจีนเขาว่าไว้ ที่ต้องประกอบไปด้วย “วุฒิภาวะ” และการมองเห็นถึง “คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์” ด้วยกันเองนั่นแหละ เป็นพื้นฐานในการใคร่ครวญ พิจารณา แยกแยะสิ่งต่างๆ ออกมาให้ชัดๆ ไม่เช่นนั้น...ข่าวลือ ข่าวปลอม อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีต หรือเมื่อครั้งที่พวกฝรั่งยุคกลาง ร่ำลือกันว่า “ชาวมุสลิมเอาสถานที่ประสูติพระเยซูไปทำเป็นคอกม้า” ด้วยความไม่เจริญเติบโตทางวุฒิภาวะ หรือด้วยการมองไม่เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ มันเลยถึงได้เกิดการจุดไฟในนาครระดับโลก หรือเกิด “สงครามครูเสด” ชนิดต้องรบราฆ่าฟันนานกว่า 200 ปี ทั้งๆที่ต่างนับถือศาสนาที่มี “พระเจ้าองค์เดียวกัน” ด้วยกันแท้ๆ...

ยิ่งถ้า “ความรู้สึกที่เป็นเอกภาพของชาวโลก” ยิ่งพัฒนา เติบโตยิ่งขึ้นไปกว่านั้น...โตในระดับที่ “พระเยซูคริสต์” ท่านเคยชี้แนะ ชี้นำเอาไว้ว่า บรรดาสถานที่สำคัญทางศาสนาหรือทางจิตใจใดๆ ก็แล้วแต่ ควรตั้งมั่นอยู่ภายในหัวจิตหัวใจของบรรดาผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ นั่นแหละเป็นหลักด้วยเหตุเพราะ “ศิลาที่ซ้อนทับกันอยู่ ณ ที่นี้ (วิหารพระเจ้าของชาวอิสราเอล) ซึ่งจะไม่ถูกทำลายลงไปย่อมไม่มี” ไม่ต่างไปจากที่ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ท่านทรงชี้แนะ ชี้นำ ไว้ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม...ผู้เห็นเรา” อะไรประมาณนั้น ถ้าหากโตไปถึงขั้นนี้ได้จริงๆ แล้วล่ะก็...ไม่ว่าข่าวลือ ข่าวปลอม สักกี่ร้อย กี่พันข่าว ก็คงไม่สามารถจุดไฟใดๆ ขึ้นมาได้อีกเลยบรรดาความเศร้าโศกเสียใจต่อความสูญเสียทางวัตถุทั้งหลาย ย่อมถูกแปรสภาพให้กลายเป็นความร่วมมือ ร่วมใจ ในการบูรณะฟื้นฟูสิ่งต่างๆ ภายใต้ “ความรู้สึกที่เป็นเอกภาพของชาวโลก” ได้อย่างเป็นจริง เป็นจัง...


กำลังโหลดความคิดเห็น