xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงทรงห่วงอุบัติเหตุสงกรานต์ สถิติ3วันตาย174บาดเจ็บ1,728ราย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วานนี้ (14เม.ย.) พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยเรื่องการสูญเสียของประชาชนจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยทรงรับสั่งผ่านมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร และจิตอาสา ร่วมกันอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และรณรงค์ลดอุบัติเหตุให้ได้ เช่นเดียวกับในหลายจังหวัดที่มีสถิติการสูญเสียเป็นศูนย์
ทั้งนี้ พระองค์ท่านทรงเน้นว่า ให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการในทุกมิติ เพื่อลดอุบัติเหตุ และการสูญเสียให้ได้โดยเร็ว และหากต้องการขอรับการสนับสนุนสิ่งใดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แจ้งไปยังรัฐบาลได้ทันที
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำว่านับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยได้กำชับให้ทุกภาคส่วนน้อมนำพระราชกระแสรับสั่งไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการความร่วมมือให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะกรณีเมาแล้วขับ ซึ่งความปลอดภัยต้องเริ่มจากตัวเอง ทุกคนต้องรักตัวเอง และครอบครัว ขณะเดียวกันคนในครอบครัวต้องช่วยกันตักเตือน เพราะต่อให้ภาครัฐมีมาตรการเข้มงวดออกมามากแค่ไหนก็ตาม หากแต่ละคนไม่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และไม่เห็นความสำคัญของกฎหมาย และมาตรการต่างๆ ที่ออกมา มองว่าสามารถหลบหลีกหรือหลีกเลี่ยงได้ ก็จะทำให้การลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่เป็นผล
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐก็จะพยายามอย่างเต็มที่ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารและจิตอาสา ทำงานอย่างเต็มกำลัง อีกทั้งให้ศูนย์อำนวยความปลอดภัยบนท้องถนน ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในทุกด้าน แต่สิ่งที่ต้องขอร้องเพิ่มเติมคือประชาชนทุก คนต้องเห็นความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมาย และมาตรการต่างๆ ที่ออกมาด้วย ช่วยกันดูแลและตักเตือนคนในครอบครัวทั้งในเรื่องการขับจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค และเรื่องการเมาแล้วขับ ซึ่งคนที่ต้องขับขี่ยานยนต์ต้องไม่ดื่มสุรา และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่นด้วย
**อุบัติเหตุ 3วันตาย 174 เจ็บ1,728ราย
วานนี้ (14 เม.ย.) นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แถลงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. เป็นวันที่สามของการรณรงค์“ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร”เกิดอุบัติเหตุ 700 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 67 ราย ผู้บาดเจ็บ 733 คน สาเหตุคือ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 42.71 ขับรถเร็ว ร้อยละ 26.14 โดยเป็นรถจักรยานยนต์ มากที่สุด ร้อยละ 81.08 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 66.43 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 32.43 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 21.75
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,042 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,444 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,023,123 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 226,655 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 63,196 ราย ไม่มีใบขับขี่ 57,520 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.เกิดอุบัติเหตุ 1,665 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 174 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,728 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช 69 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดได้แก่ อุดรธานี 10 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช 69 คน
ด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่า ผู้เสียชีวิตกว่าร้อยละ 54.60 เป็นคนในพื้นที่ สาเหตุเกิดจากการขับรถเร็ว และอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุสูงถึงร้อยละ 49.43 จึงได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่เข้มข้นการปฏิบัติงานของด่านชุมชน และจุดสกัดในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้าน โดยเฉพาะจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นกวดขันผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วและดื่มแล้วขับเป็นพิเศษ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวและจัดงานสงกรานต์ ได้กำชับให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โซนนิ่งเล่นน้ำสงกรานต์และเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำ รวมถึงดูแลการเปิด - ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง โดยเข้มงวดกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลักษณะเร่ขายในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและการเล่นน้ำไม่ปลอดภัย
**ดื่มไม่ขับ จับยึดรถแล้ว 2,294 คัน
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช.แถลงว่า จากมาตรการ ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท ด้วยการดื่มแล้วขับขี่ แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ทำความผิด 32,772 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 973 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 24,866 คน สำหรับรถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 25,446 ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบขับขี่ไว้ 1,972 คน ยึดรถยนต์ 330 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 15,049 คน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11–13 เม.ย. ตรวจพบผู้กระทำผิด 98,808 คน เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 2,294คัน (รถจักรยานยนต์ 1,685 คัน และรถยนต์ 609 คัน ) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 44,024 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 27,283 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น