**ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกันแค่ไหน อย่างไร กับการโยกย้าย "ฟ้าผ่ากลางแดด" ใส่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และทุกตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วสั่งให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้สร้างความแปลกใจกันไม่น้อย
แต่ขณะเดียวกัน ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันก็คือ "อาการของ ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว เขาก็ได้เก็บตัว และลดบทบาทไปพักหนึ่ง
ลักษณะดังกล่าวของ "ลุงป้อม" ถือว่าน่าสนใจ และเชื่อว่าสังคมก็เฝ้าสังเกต เพราะก่อนหน้านี้ "บิ๊กโจ๊ก" หรือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ถือว่ามีความใกล้ชิด ถึงขนาดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองโฆษกประจำตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาแล้ว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เลือกที่จะเก็บตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นที่กระทรวงกลาโหม หรือที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ผ่านมามีรายงานว่า "ป่วย" มีอาการท้องเสีย โดยคนสนิทยืนยันว่า "ป่วยจริง" ไม่ได้ป่วยการเมือง และหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น รวมทั้งเลี่ยงจะให้สัมภาษณ์มาตลอด
หรือแม้แต่การ "ปิดบ้าน" ในซอยลาดพร้าวไม่มีการรดน้ำขอพรในหมู่คนใกลชิด ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเหมือนเช่นทุกปี
แม้ว่าหลังจากนั้น เขาก็ปรากฏตัวระหว่างร่วมคณะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่นำคณะรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพร "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา แต่ก็มาในแบบที่ "มือผันผ้า" ที่เจ้าตัวก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ซึ่งก็เหมือนเดิมคือ พล.อ.ประวิตร เลี่ยงที่จะตอบคำถาม
**แต่ที่ต้องจับตามองจนต้องตั้งข้อสังเกตก็คือ ในระหว่างที่มีการเปิดให้บรรดาคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการ และสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลร่วมรดน้ำขอพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เห็นภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจดูแล "พี่ป้อม" เป็นพิเศษ ภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประคอง และเดินจูงมือกันตลอดเวลา
ภาพที่ปรากฏดังกล่าวที่เกิดขึ้น บางทีเหมือนกับว่า นั่นคือการให้กำลังใจอย่างดี จาก"น้องตู่" ในช่วงเวลาสำคัญ ที่แสดงออกให้เห็นว่า "ไม่ทิ้งกัน" ไม่ว่าจะเกิดเริ่องยุ่งยากใจเพียงใดก็ตาม เพราะหากพิจารณาจากเรื่องราวที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่มีความชัดเจน และชี้แจงสาเหตุว่ามาจากเรื่องอะไรกันแน่ แต่เมื่อประมวลจากความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของ "ลุงป้อม" ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังอยู่ในสภาวะจิตใจอ่อนแอ ต้องการกำลังใจอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาหลังจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เห็นภาพการกุมมือ ประคองอย่างใกล้ชิดจาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รวมไปถึงก่อนหน้านั้น เมื่อได้รับการทักทายถามไถ่อย่างเอาใจใส่ จาก"ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในช่วงการรดน้ำ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็คาดเดาว่าทุกอย่างกำลังผ่านไปด้วยดี เป็นกำลังใจให้กับ "ลุงป้อม" ได้อย่างดีทีเดียว
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นสัญญาณให้เห็นได้อย่างดีว่า สองพี่น้อง"บูรพาพยัคฆ์" ยังมีความแนบแน่นเป็นเอกภาพ ยังต้อง "พึ่งพาอาศัยกัน" ต่อไป ที่เชื่อมโยงไปถึงระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนปัจจุบัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่นาทีนี้ สถานะน่าจะกลับมามั่นคงได้อีกครั้งเหมือนกัน
แน่นอนว่า หากพิจารณากันแบบคาดเดา และภายใต้ข้อมูลอันจำกัด ก็ย่อมพอมองออกว่า "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีอาการเหมือนกับ "คนเสียศูนย์" เสียความมั่นใจไปพักหนึ่ง แต่นาทีนี้เชื่อว่าคงได้รับการ "เยียวยา" ได้รับกำลังใจจนกลับมามีสภาพเกือบจะเหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างก็น่าจะเดินหน้าได้เต็มกำลัง เพราะรัฐบาลลุงตู่ ยังต้องมีลุงป้อม เป็นกลไกในการขับเคลื่อนด้านความมั่นคงอยู่ดี !!
แต่ขณะเดียวกัน ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันก็คือ "อาการของ ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว เขาก็ได้เก็บตัว และลดบทบาทไปพักหนึ่ง
ลักษณะดังกล่าวของ "ลุงป้อม" ถือว่าน่าสนใจ และเชื่อว่าสังคมก็เฝ้าสังเกต เพราะก่อนหน้านี้ "บิ๊กโจ๊ก" หรือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ถือว่ามีความใกล้ชิด ถึงขนาดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองโฆษกประจำตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาแล้ว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า หลังจากนั้นเป็นต้นมาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เลือกที่จะเก็บตัว ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นที่กระทรวงกลาโหม หรือที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ผ่านมามีรายงานว่า "ป่วย" มีอาการท้องเสีย โดยคนสนิทยืนยันว่า "ป่วยจริง" ไม่ได้ป่วยการเมือง และหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น รวมทั้งเลี่ยงจะให้สัมภาษณ์มาตลอด
หรือแม้แต่การ "ปิดบ้าน" ในซอยลาดพร้าวไม่มีการรดน้ำขอพรในหมู่คนใกลชิด ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนเหมือนเช่นทุกปี
แม้ว่าหลังจากนั้น เขาก็ปรากฏตัวระหว่างร่วมคณะของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่นำคณะรัฐมนตรี และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพร "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา แต่ก็มาในแบบที่ "มือผันผ้า" ที่เจ้าตัวก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร ซึ่งก็เหมือนเดิมคือ พล.อ.ประวิตร เลี่ยงที่จะตอบคำถาม
**แต่ที่ต้องจับตามองจนต้องตั้งข้อสังเกตก็คือ ในระหว่างที่มีการเปิดให้บรรดาคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ข้าราชการ และสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลร่วมรดน้ำขอพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เห็นภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจดูแล "พี่ป้อม" เป็นพิเศษ ภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประคอง และเดินจูงมือกันตลอดเวลา
ภาพที่ปรากฏดังกล่าวที่เกิดขึ้น บางทีเหมือนกับว่า นั่นคือการให้กำลังใจอย่างดี จาก"น้องตู่" ในช่วงเวลาสำคัญ ที่แสดงออกให้เห็นว่า "ไม่ทิ้งกัน" ไม่ว่าจะเกิดเริ่องยุ่งยากใจเพียงใดก็ตาม เพราะหากพิจารณาจากเรื่องราวที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่มีความชัดเจน และชี้แจงสาเหตุว่ามาจากเรื่องอะไรกันแน่ แต่เมื่อประมวลจากความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของ "ลุงป้อม" ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังอยู่ในสภาวะจิตใจอ่อนแอ ต้องการกำลังใจอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาหลังจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้เห็นภาพการกุมมือ ประคองอย่างใกล้ชิดจาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. รวมไปถึงก่อนหน้านั้น เมื่อได้รับการทักทายถามไถ่อย่างเอาใจใส่ จาก"ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ในช่วงการรดน้ำ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็คาดเดาว่าทุกอย่างกำลังผ่านไปด้วยดี เป็นกำลังใจให้กับ "ลุงป้อม" ได้อย่างดีทีเดียว
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ย่อมเป็นสัญญาณให้เห็นได้อย่างดีว่า สองพี่น้อง"บูรพาพยัคฆ์" ยังมีความแนบแน่นเป็นเอกภาพ ยังต้อง "พึ่งพาอาศัยกัน" ต่อไป ที่เชื่อมโยงไปถึงระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนปัจจุบัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่นาทีนี้ สถานะน่าจะกลับมามั่นคงได้อีกครั้งเหมือนกัน
แน่นอนว่า หากพิจารณากันแบบคาดเดา และภายใต้ข้อมูลอันจำกัด ก็ย่อมพอมองออกว่า "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีอาการเหมือนกับ "คนเสียศูนย์" เสียความมั่นใจไปพักหนึ่ง แต่นาทีนี้เชื่อว่าคงได้รับการ "เยียวยา" ได้รับกำลังใจจนกลับมามีสภาพเกือบจะเหมือนเดิมแล้ว เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างก็น่าจะเดินหน้าได้เต็มกำลัง เพราะรัฐบาลลุงตู่ ยังต้องมีลุงป้อม เป็นกลไกในการขับเคลื่อนด้านความมั่นคงอยู่ดี !!