สภาวิศวกรฯ สรุปเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี2 ทำระบบเครื่องสูบน้ำ เกิดจากตะกอนการบำบัดน้ำเสีย ทำให้ความร้อนสูงถึง 800 องศา ภาพรวมโครงสร้างยังมั่นคงแข็งแรงดี CPN เยียวยาญาติผู้เสียชีวิตรายละ 2.3 ล้าน และผู้บาดเจ็บ 20 ราย ยก 2 ผู้เสียชีวิตไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นฮีโร่ ช่วยคนอื่นให้รอดก่อน ตัวเองออกไม่ได้
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้บริเวณอาคารบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายศักดิ์ชัย เจริญลาภ และนายอาทิตย์ คำสาย เป็นพนักงานของห้าง ซึ่งทั้งสองกระโดดออกจากตัวอาคารดังกล่าว ทั้งนี้ต้นเพลิงเป็นห้องเก็บเอกสารชั้น 8 โซนศูนย์การค้า และผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 20 รายนั้น
วานนี้ (11 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และทหาร เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อตรวจสอบแผนผังโครงสร้างอาคารบริเวณจุดเกิดเหตุ ระบบป้องกันอัคคีภัย รวมถึงเหตุใดขณะเพลิงไหม้ประชาชนถึงออกจากจุดเกิดเหตุไม่ได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์จุดต้นเพลิง และสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
นายพินิต อารยะศิลปะธร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ระบุเบื้องต้นว่า เหตุเพลิงไหม้ สันนิษฐานว่าต้นเพลิงเกิดที่ห้องชาร์ป ชั้นใต้ดิน หรือ บี2 ของอาคารบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นห้องระบบร้อยสายต่างๆของอาคาร โดยคาดว่าไฟลุกลามจากจุดนี้ และพุ่งขึ้นไปที่ชั้น 8 ทำให้เห็นกลุ่มควันและไฟ ที่เป็นล็อกเกอร์และที่เก็บเอกสาร เบื้องต้นสั่งปิดจุดเกิดเหตุและจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเปิดใช้อาคารได้หรือไม่ ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุสปริงเกอร์ และ สัญญานเตือนภัยดังปกติ ขณะที่ตัวแทนจาก สวสท.และสภาวิศวกร ระบุว่า เพลิงที่ลุกไหม้มีระยะเวลาเพียงสั้นๆ ที่เหลือจะเป็นคราบเขม่า โครงสร้างตัวอาคารแข็งแรง ความร้อนจากเพลิงไม่กระทบต่อโครงสร้างโดยตรง
นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการ วสท.กล่าวเสริมว่า สำหรับระบบป้องกันไฟไหม้นั้น ปกติอาคารทั่วไปจะใช้กัน2ระบบควบคู่กันคือระบบอัตโนมัติและระบบให้คนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี2นั้น เจ้าหน้าที่ยังหาจุดเกิดเหตุที่ไฟไหม้จริง ๆ ไม่พบทำให้ไม่รู้ว่าสปริงเกอร์ที่จุดดังกล่าวทำงานหรือไม่ เพราะถูกเพลิงไหม้หมดแล้ว แต่จากแบบแปลน เข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยยังเคยเป็นห้างเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารนั้น ก็มีกฎหมายควบคุม แต่ตัวอาคารเก่านั้นอาจไม่ทันกับกฎหมายควบคุมฉบับใหม่ที่ออกมา ซึ่งกฎหมายก็แนะนำเรื่องการป้องกันอาคาร แต่ไม่มีบทลงโทษ ในกรณีนี้ท่อจากชั้นบี2ซึ่งพาควันไฟขึ้นไปชั้น8 ตามปกติจะมีท่อระบายอากาศยื่นออกไปนอกตัวอาคาร ความยาว60เซนติเมตรระบายควันออกไป แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อดังกล่าวซึ่งทำจากไฟเบอร์ ทำให้ท่อระบายอากาศทนความร้อนไม่ไหวจนพังไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนไฟลุกลามไปชั้น8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมมาจากชั้นบี2สู่ชั้น8นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น8ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะว่าอาคารเก่าถูกออกแบบมาในลักษณะดังกล่าวจึงมีจุดอ่อนในบางเรื่องบ้าง
“ปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้นห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ10เมตร และปล่องนั้นห่างจากประตูเพียง3-4เมตรเท่านั้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้จึงหนีออกมาไม่ทัน ทั้งที่สามารถทำได้ จึงถือว่าผู้ตายทั้งสองเป็นฮีโร่เพราะจากโครงสร้างนั้นชั้น8มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก จึงต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง2คนด้วย” นายพิชญะระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของห้างสรรพสินค้าฯ ร่วมแถลงข่าวด้วยแต่อย่างใด ส่วนผู้เสียชีวิตจะได้รับการเยียวยาศพละ 2.3 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บจะได้รับการรักษาพยาบาลทั้งหมด
อีกด้าน ผู้ใช้เฟสบุ๊ก@Mim Kansiran ระบุ "ขอไว้อาลัยแด่พี่วิลลี่และพี่เจมส์นะคะ น้องจะจดจำพี่ทั้ง 2 คน ตลอดไป #เหตุการณ์ในครั้งนี้คนที่ไม่รู้เรื่องราวก็ด่าคนที่กระโดดตึกลงมาเอามันส์ ว่ากระโดดทำไม ขาดสติหรอ ทำไมไม่มีสติบลาๆๆ คุณรู้ไหมคะ 2 คนนี้เป็นคนดีมาก พี่เขามีสติ พี่ทั้ง 2 เขาไม่รักตัวกลัวตาย เขากล้าหาญ สัญชาตญาณ LP(Loss Prevention หรือเจ้าหน้าที่ป้องกันการศูนย์เสีย) ทำงาน เลือด Fireman พลุ่งพล่าน ขณะที่กำลังประชุมกันอยู่ เขากันทุกคนออกมา แต่ตัวเองกลับเดินย้อนไปเพื่อดับไฟ และสำลักควันหนีออกมาไม่ได้ ทั้ง 2 คนคือผู้เสียสละและผู้กล้าหาญอย่างแท้จริง"
ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างกลายเป็นกระแสแชร์ต่อ พร้อมทั้งไว้อาลัยต่อการจากไปของทั้งคู่ เป็นจำนวนมาก โดยมีการเปิดเผยภาพจากกล้องซีซีทีวีขณะเกิดเหตุ ที่เห็นว่าทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีพนักงานมารอเข้าทำงานปกติ ขณะที่ด้านหน้าอาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ปิดประกาศแจ้งว่า “อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะเปิดให้บริการในเวลา 12.00 น. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบ นอกจากนี้มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยบริเวณด้านนอกอาคารชั้น 8 ยังเห็นสภาพความเสียหายมีคราบเขม่าควันและยังคงได้กลิ่นไหม้อยู่ โดยทางห้างเซ็นทรัลได้ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนที่กองอำนวยการด้านหน้าอาคาร เพื่อสำหรับผู้ประสบภัยและลูกค้าที่จอดรถติดค้างอยู่ภายในอาคารด้วย.
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้บริเวณอาคารบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายศักดิ์ชัย เจริญลาภ และนายอาทิตย์ คำสาย เป็นพนักงานของห้าง ซึ่งทั้งสองกระโดดออกจากตัวอาคารดังกล่าว ทั้งนี้ต้นเพลิงเป็นห้องเก็บเอกสารชั้น 8 โซนศูนย์การค้า และผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 20 รายนั้น
วานนี้ (11 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร (กทม.) สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และทหาร เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อตรวจสอบแผนผังโครงสร้างอาคารบริเวณจุดเกิดเหตุ ระบบป้องกันอัคคีภัย รวมถึงเหตุใดขณะเพลิงไหม้ประชาชนถึงออกจากจุดเกิดเหตุไม่ได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์จุดต้นเพลิง และสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้
นายพินิต อารยะศิลปะธร ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ระบุเบื้องต้นว่า เหตุเพลิงไหม้ สันนิษฐานว่าต้นเพลิงเกิดที่ห้องชาร์ป ชั้นใต้ดิน หรือ บี2 ของอาคารบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นห้องระบบร้อยสายต่างๆของอาคาร โดยคาดว่าไฟลุกลามจากจุดนี้ และพุ่งขึ้นไปที่ชั้น 8 ทำให้เห็นกลุ่มควันและไฟ ที่เป็นล็อกเกอร์และที่เก็บเอกสาร เบื้องต้นสั่งปิดจุดเกิดเหตุและจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเปิดใช้อาคารได้หรือไม่ ยืนยันว่าขณะเกิดเหตุสปริงเกอร์ และ สัญญานเตือนภัยดังปกติ ขณะที่ตัวแทนจาก สวสท.และสภาวิศวกร ระบุว่า เพลิงที่ลุกไหม้มีระยะเวลาเพียงสั้นๆ ที่เหลือจะเป็นคราบเขม่า โครงสร้างตัวอาคารแข็งแรง ความร้อนจากเพลิงไม่กระทบต่อโครงสร้างโดยตรง
นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการ วสท.กล่าวเสริมว่า สำหรับระบบป้องกันไฟไหม้นั้น ปกติอาคารทั่วไปจะใช้กัน2ระบบควบคู่กันคือระบบอัตโนมัติและระบบให้คนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี2นั้น เจ้าหน้าที่ยังหาจุดเกิดเหตุที่ไฟไหม้จริง ๆ ไม่พบทำให้ไม่รู้ว่าสปริงเกอร์ที่จุดดังกล่าวทำงานหรือไม่ เพราะถูกเพลิงไหม้หมดแล้ว แต่จากแบบแปลน เข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยยังเคยเป็นห้างเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารนั้น ก็มีกฎหมายควบคุม แต่ตัวอาคารเก่านั้นอาจไม่ทันกับกฎหมายควบคุมฉบับใหม่ที่ออกมา ซึ่งกฎหมายก็แนะนำเรื่องการป้องกันอาคาร แต่ไม่มีบทลงโทษ ในกรณีนี้ท่อจากชั้นบี2ซึ่งพาควันไฟขึ้นไปชั้น8 ตามปกติจะมีท่อระบายอากาศยื่นออกไปนอกตัวอาคาร ความยาว60เซนติเมตรระบายควันออกไป แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อดังกล่าวซึ่งทำจากไฟเบอร์ ทำให้ท่อระบายอากาศทนความร้อนไม่ไหวจนพังไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนไฟลุกลามไปชั้น8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมมาจากชั้นบี2สู่ชั้น8นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น8ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะว่าอาคารเก่าถูกออกแบบมาในลักษณะดังกล่าวจึงมีจุดอ่อนในบางเรื่องบ้าง
“ปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้นห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ10เมตร และปล่องนั้นห่างจากประตูเพียง3-4เมตรเท่านั้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้จึงหนีออกมาไม่ทัน ทั้งที่สามารถทำได้ จึงถือว่าผู้ตายทั้งสองเป็นฮีโร่เพราะจากโครงสร้างนั้นชั้น8มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก จึงต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง2คนด้วย” นายพิชญะระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่มีตัวแทนของห้างสรรพสินค้าฯ ร่วมแถลงข่าวด้วยแต่อย่างใด ส่วนผู้เสียชีวิตจะได้รับการเยียวยาศพละ 2.3 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บจะได้รับการรักษาพยาบาลทั้งหมด
อีกด้าน ผู้ใช้เฟสบุ๊ก@Mim Kansiran ระบุ "ขอไว้อาลัยแด่พี่วิลลี่และพี่เจมส์นะคะ น้องจะจดจำพี่ทั้ง 2 คน ตลอดไป #เหตุการณ์ในครั้งนี้คนที่ไม่รู้เรื่องราวก็ด่าคนที่กระโดดตึกลงมาเอามันส์ ว่ากระโดดทำไม ขาดสติหรอ ทำไมไม่มีสติบลาๆๆ คุณรู้ไหมคะ 2 คนนี้เป็นคนดีมาก พี่เขามีสติ พี่ทั้ง 2 เขาไม่รักตัวกลัวตาย เขากล้าหาญ สัญชาตญาณ LP(Loss Prevention หรือเจ้าหน้าที่ป้องกันการศูนย์เสีย) ทำงาน เลือด Fireman พลุ่งพล่าน ขณะที่กำลังประชุมกันอยู่ เขากันทุกคนออกมา แต่ตัวเองกลับเดินย้อนไปเพื่อดับไฟ และสำลักควันหนีออกมาไม่ได้ ทั้ง 2 คนคือผู้เสียสละและผู้กล้าหาญอย่างแท้จริง"
ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างกลายเป็นกระแสแชร์ต่อ พร้อมทั้งไว้อาลัยต่อการจากไปของทั้งคู่ เป็นจำนวนมาก โดยมีการเปิดเผยภาพจากกล้องซีซีทีวีขณะเกิดเหตุ ที่เห็นว่าทั้งคู่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีพนักงานมารอเข้าทำงานปกติ ขณะที่ด้านหน้าอาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ปิดประกาศแจ้งว่า “อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะเปิดให้บริการในเวลา 12.00 น. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบ นอกจากนี้มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยบริเวณด้านนอกอาคารชั้น 8 ยังเห็นสภาพความเสียหายมีคราบเขม่าควันและยังคงได้กลิ่นไหม้อยู่ โดยทางห้างเซ็นทรัลได้ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนที่กองอำนวยการด้านหน้าอาคาร เพื่อสำหรับผู้ประสบภัยและลูกค้าที่จอดรถติดค้างอยู่ภายในอาคารด้วย.