เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (10เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ได้ไปตรวจเยี่ยมมาตราฐานการให้บริการในการขนส่งผู้โดยสาร ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รวมทั้งได้ขมการสาธิต การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ จากลมหายใจของพนักงานขับรถ รวมทั้งได้เยี่ยมชมศูนย์จีพีเอส ตรวจจับความเร็วของรถโดยสาร โดยกล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ฉะนั้นต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เราจะต้องดูแลคนขับ ใครเมา ให้แจ้งมาเลย ต้องระมัดระวังดูแลคนขับรถ อย่าให้ง่วง อย่าเมา ถ้าเขาเมา เขาง่วงดูไม่ปกติให้จอดรถทันที และถือเป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสาร และของคนขับทุกคนต้องมีส่วนร่วม แล้ววันนี้บอกก่อนคนขับ อย่าให้บาดเจ็บล้มตาย กระเป๋ากระปี๋ ถ้ามีอุบัติเกิดขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายแกชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก จะต้องติดคุก คนขับจะจับติดคุก ขอเตือนไว้ก่อน เพื่อเป็นการบังคับคนขับให้ขับรถดีๆ นายกฯ กล่าวว่า ที่เป็นห่วงเพราะว่ารถแน่น ทุกอย่างจะดีขึ้นในพื้นที่ภาคอีสาน ขอให้อดทนหน่อย เดี๋ยวเราจะมีรถไฟฟ้าแล้ว ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ เมื่อก่อนตนก็ขึ้นรถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)กลับบ้าน มีแอร์บ้าง ไม่มีแอร์บ้าง ยืนตลอดทางก็มี
ต่อมานายกฯ ตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติการฯ เพื่อพูดคุยกับคนขับรถโดยได้กำชับให้คนขับรถด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงครอบครัวและผู้โดยสาร และความเร็ว ควรขับอยู่ในปริมาณที่กฎหมายกำหนดประมาณ 80 กม. ต่อชั่วโมง พร้อมเน้นให้คนขับรถขับอย่างปลอดภัย และเดินทางปลอดภัยทุกคน
ทั้งนี้ นายกฯได้ทดลองเป่าเครื่องตรวจวัดระดับแอลกฮอล์จากลมหายใจ ซึ่งปรากฏว่าขึ้นมาเป็นสีเขียว นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นสีเขียว เพราะไม่ได้ดื่มอะไรมา ก่อนจะหันไปเน้นย้ำ บรรดาโซเฟอร์ต่างๆ ว่า เวลาขับต้องไม่ดื่ม คำถึงควมปลอดภัยทั้งครอบครัวคนขับ และผู้โดยสารด้วย
เมื่อถามว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจากการรายงานในที่ประชุมครม. มาตรการต่างๆ จากหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต่างทำงานร่วมกัน ดูแลร่วมกับพลเรือน ทหาร และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครขอบคุณทุกคนที่ตั้งจุดสกัดตามรายทาง สถานีบริการที่มีจุดพักรถ ซึ่งก็ต้องเห็นใจคนเหล่านี้เพราะคนเหล่านี้เสียสละ ไม่ได้ไปเที่ยวต้องมาดูแลพวกเรา ให้กำลังใจเขามากๆ อีกส่วนหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน แต่ทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนมีความเสี่ยงหมด เราไปสนุกสนานกับบ้านเขาไม่ได้กลับ แต่เขาต้องเตรียมความพร้อมการอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนนั้น คือสิ่งที่เราต้องมองในส่วนที่ดีๆ ถ้าเราโทษใครสักคน แล้วเรามองแต่ความผิดคนนี้ไปเรื่อยเรื่อย คนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเราต้องหาความดีของเขาว่าอยู่ตรงไหน ตอนนี้ความไม่ดีอาจจะมากกว่าความดีก็ให้เขาทำความดีต่อไปเพื่อถ่วงน้ำหนักกลับมา เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นคนที่ดีขึ้น ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีกำลังใจที่จะฟื้นตัวเป็นคนดีขึ้นมาไม่ได้ เพราะสังคมไม่ให้โอกาสเขา
ในตอนท้ายนายกฯ กล่าวว่า ด้วยเดชะพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะปกป้องพวกเราในช่วงพิธีมหามงคลนี้ด้วย และตนอยากให้ร่วมกันทำความดี เพื่อลดความสูญเสียทางอุบัติเหตุให้มากที่สุด เพื่อถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้ได้ ขอให้ทำกันสักที ไม่ดื่มสุรา การสวมหมวกกันน็อก การคาดเข็มขัดนิรภัย และไม่ยืนอยู่ท้ายรถกระบะ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ฉะนั้นต้องระมัดระวังให้มากที่สุด เราจะต้องดูแลคนขับ ใครเมา ให้แจ้งมาเลย ต้องระมัดระวังดูแลคนขับรถ อย่าให้ง่วง อย่าเมา ถ้าเขาเมา เขาง่วงดูไม่ปกติให้จอดรถทันที และถือเป็นความรับผิดชอบของผู้โดยสาร และของคนขับทุกคนต้องมีส่วนร่วม แล้ววันนี้บอกก่อนคนขับ อย่าให้บาดเจ็บล้มตาย กระเป๋ากระปี๋ ถ้ามีอุบัติเกิดขึ้น ทำให้เกิดความเสียหายแกชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก จะต้องติดคุก คนขับจะจับติดคุก ขอเตือนไว้ก่อน เพื่อเป็นการบังคับคนขับให้ขับรถดีๆ นายกฯ กล่าวว่า ที่เป็นห่วงเพราะว่ารถแน่น ทุกอย่างจะดีขึ้นในพื้นที่ภาคอีสาน ขอให้อดทนหน่อย เดี๋ยวเราจะมีรถไฟฟ้าแล้ว ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ก่อนหน้านี้ เมื่อก่อนตนก็ขึ้นรถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)กลับบ้าน มีแอร์บ้าง ไม่มีแอร์บ้าง ยืนตลอดทางก็มี
ต่อมานายกฯ ตรวจเยี่ยมห้องปฏิบัติการฯ เพื่อพูดคุยกับคนขับรถโดยได้กำชับให้คนขับรถด้วยความระมัดระวังและคำนึงถึงครอบครัวและผู้โดยสาร และความเร็ว ควรขับอยู่ในปริมาณที่กฎหมายกำหนดประมาณ 80 กม. ต่อชั่วโมง พร้อมเน้นให้คนขับรถขับอย่างปลอดภัย และเดินทางปลอดภัยทุกคน
ทั้งนี้ นายกฯได้ทดลองเป่าเครื่องตรวจวัดระดับแอลกฮอล์จากลมหายใจ ซึ่งปรากฏว่าขึ้นมาเป็นสีเขียว นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นสีเขียว เพราะไม่ได้ดื่มอะไรมา ก่อนจะหันไปเน้นย้ำ บรรดาโซเฟอร์ต่างๆ ว่า เวลาขับต้องไม่ดื่ม คำถึงควมปลอดภัยทั้งครอบครัวคนขับ และผู้โดยสารด้วย
เมื่อถามว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กังวลอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจากการรายงานในที่ประชุมครม. มาตรการต่างๆ จากหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต่างทำงานร่วมกัน ดูแลร่วมกับพลเรือน ทหาร และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อาสาสมัครขอบคุณทุกคนที่ตั้งจุดสกัดตามรายทาง สถานีบริการที่มีจุดพักรถ ซึ่งก็ต้องเห็นใจคนเหล่านี้เพราะคนเหล่านี้เสียสละ ไม่ได้ไปเที่ยวต้องมาดูแลพวกเรา ให้กำลังใจเขามากๆ อีกส่วนหนึ่งคือเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน แต่ทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนมีความเสี่ยงหมด เราไปสนุกสนานกับบ้านเขาไม่ได้กลับ แต่เขาต้องเตรียมความพร้อมการอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนนั้น คือสิ่งที่เราต้องมองในส่วนที่ดีๆ ถ้าเราโทษใครสักคน แล้วเรามองแต่ความผิดคนนี้ไปเรื่อยเรื่อย คนนี้ก็ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเราต้องหาความดีของเขาว่าอยู่ตรงไหน ตอนนี้ความไม่ดีอาจจะมากกว่าความดีก็ให้เขาทำความดีต่อไปเพื่อถ่วงน้ำหนักกลับมา เพื่อให้คนเหล่านี้เป็นคนที่ดีขึ้น ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีกำลังใจที่จะฟื้นตัวเป็นคนดีขึ้นมาไม่ได้ เพราะสังคมไม่ให้โอกาสเขา
ในตอนท้ายนายกฯ กล่าวว่า ด้วยเดชะพระบารมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะปกป้องพวกเราในช่วงพิธีมหามงคลนี้ด้วย และตนอยากให้ร่วมกันทำความดี เพื่อลดความสูญเสียทางอุบัติเหตุให้มากที่สุด เพื่อถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ให้ได้ ขอให้ทำกันสักที ไม่ดื่มสุรา การสวมหมวกกันน็อก การคาดเข็มขัดนิรภัย และไม่ยืนอยู่ท้ายรถกระบะ