xs
xsm
sm
md
lg

“คนรุ่นใหม่”กับ“การเมืองไทย” ตอนหนึ่ง

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย


มนุษย์ดีจริง-ต้องมี คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม รวมทั้ง ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และ ชาติบ้านเมืองแผ่นดินถิ่นเกิด!

“พ่อ-แม่” ผมเดินทางข้ามทะเลไกลโพ้น หนีความอดอยากยากจนจากเก๊กเอี้ย-ซัวเถา ประเทศจีน มาพึ่งพิงและทำมาหากินอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ผมยังไม่เกิด...

“พ่อ” เริ่มต้นชีวิตในประเทศนี้ ด้วยอาชีพขายไอศกรีมเข็นรถตระเวนไปทั่ว จนเก็บเงินเช่าห้องแถวไม้ห้องหนึ่งที่บางกระบือ ซึ่งมีท่าน้ำเล็กๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เรียกกันว่า “ซอยท่าเขียวไข่กา” สุดสายของรถรางไฟฟ้าที่วิ่งมาจากท้องสนามหลวงโน่น เปิดร้านกาแฟชื่อ “ง่วน ยู่ เชียง” มีลูกค้าในละแวกนั้นมาอุดหนุนกันคับคั่ง

ทว่า...หลังจากนั้นไม่นาน “แม่” ก็ต้องดูแลร้านกาแฟนี้แทน เพราะ “พ่อ” ไปเป็น “หลงจู๊” ดูแลการเงินให้กับโรงสีข้าวของญาติแถว “บางวัว” จังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้น “พ่อ” กลับมาเช่าห้องแถวไม้เพิ่มอีกหนึ่งห้องใกล้กับร้านกาแฟ เปิดร้านขายข้าวสารเป็นธุรกิจเล็กๆ พออยู่พอกินจนห้วงสุดท้ายของชีวิต “ชาวจีนโพ้นทะเล” ในไทย

ร่างของ “พ่อ-แม่” ถูกฝังอยู่ใต้ผืนแผ่นดินไทย ที่ “บ้านบึง” จังหวัดชลบุรี “พ่อ-แม่” ผมไม่ได้ทิ้งมรดกเป็นเงินทองก้อนโตให้ลูก 5 คน แต่พวกท่านได้มอบ “มรดก” เป็นคำสอนสั่งว่า

ลูกทุกคนต้องกตัญญูต่อ “ชาติไทย” และ “สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย” ที่ในยามมีศึกสงครามรุกรานดินแดนไทย พระมหากษัตริย์ทรงร่วมกับชาวไทย ต่อสู้ปกป้องชาติอย่างกล้าหาญ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิตจนรักษาเอกราชไว้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า..

อีกทั้งพระมหากษัตริย์ไทยยังทรงปกครองอาณาประชาราษฎร์ ด้วยทศพิธราชธรรมมาอย่างต่อเนื่องตราบจนวันนี้

“พ่อ-แม่” ผมไม่ได้โชคดีร่ำรวยเงินทองมหาศาล เหมือน “พ่อ-แม่” ของ “เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แต่ “พ่อ-แม่” ผมก็อยู่อย่างมีความสุขบนแผ่นดินไทยจนตาย ส่วน “ธนาธร” นั้น... “พ่อ-พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ” เสียชีวิตไปแล้ว ส่วน “แม่-สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยังดูแล “บริษัทซัมมิท” จนทุกวันนี้

ผมไม่รู้ว่า “หัวหน้า” ครอบครัว “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ร่ำรวยเงินทองมหาศาลใช้ชีวิตอย่างหรูหราในชาติไทยอย่าง “พัฒนา-สมพร” เคยบอกเคยสอน “ธนาธร” ในเรื่องที่ “พ่อ-แม่” ผมและชาวจีนโพ้นทะเลทั้งหลายได้สั่งสอนลูกสอนหลาน ให้กตัญญูรู้คุณทั้งต่อพระมหากษัตริย์ไทยและแผ่นดินไทยบ้างหรือเปล่า?

แต่นั่นเป็นเรื่องของ “ธนาธร” และครอบครัวผมหรือใครหน้าไหนจะเข้าไปรับรู้และเกี่ยวข้องอะไรด้วยไม่ได้แน่นอน!

ทว่า...เมื่อ “ธนาธร” ที่มี “แม่-สมพร” ให้การสนับสนุนลูกชายสุดที่รัก หันเหชีวิตจากนักธุรกิจหมื่นล้าน มาเป็น “นักการเมือง” ในฐานะหัวหน้าพรรค “อนาคตใหม่ (อนค.)” มี “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เป็นเลขาฯ พรรคโดยประกาศเป็น “พรรคคนรุ่นใหม่” จะสร้างอนาคตใหม่ๆ ให้ชาติและประชาชนไทย ดังนั้น

“ธนาธร” นักธุรกิจหมื่นล้านวันนี้จึงมีส่วนได้ส่วนเสียทุกการเคลื่อนไหว อีกทั้งการทำงานการเมืองของ “ธนาธร” จะส่งผลดีผลร้ายผลได้ผลเสียไม่มากก็น้อยต่อชาติและประชาชน เพราะพรรค อนค.มีว่าที่ ส.ส.เข้าสภาฯ มากราว 80 คน ถือเป็นพรรคการเมืองเพิ่งตั้ง ที่โตเร็วและใหญ่โตในสภาฯ ไทยทีเดียวเชียวแหละ

นโยบายหลายเรื่องที่ “ธนาธร” และพรรค อนค.เสนอ โดนใจคนไทยจำนวนไม่น้อย! บางเรื่องน่าส่งเสริมสนับสนุน แต่บางเรื่องก็ไม่ควรใช้ในห้วงนี้ เพราะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและมีอีกหลายเรื่องผมและผู้คนไม่เห็นด้วยที่จะนำมาใช้เพราะยังไม่รอบคอบ ยังคลุมเครือ ยังไม่ตรงไปตรงมาเท่าที่ควร

โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ “ธนาธร-ปิยบุตร” ได้แสดงทัศนะผ่านสื่อต่างๆ ได้ก่อเกิดความสงสัยเคลือบแคลงมากมายจนมี “คำถาม” ที่ผู้คนต้องการ “คำตอบ” แบบจริงใจตรงไปตรงมา เช่น

“ธนาธร-ปิยบุตร” ได้ชักชวนผู้คน ให้ช่วยกันสานต่อ “ภารกิจ 2475” ให้สำเร็จ เป้าหมายภารกิจที่แท้จริงและต้องทำให้สำเร็จ...คือ...อะไร?

ประชาธิปไตยของ “ธนาธร-ปิยบุตร” เป็นแบบไหน? เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเปล่า? หรือเป็นประชาธิปไตยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขแบบอเมริกา?

ผมนึกถึงเรื่องจริงมิใช่อิงนิยาย กับการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งหนึ่ง ในห้วง “เหตุการณ์พฤษภาคม 2535” ที่นำโดย “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” มีนักกิจกรรมเพื่อนๆ ผมบางกลุ่ม ซึ่งทำงานอยู่กับ “ทักษิณ” มาร่วมต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหาร “สุจินดา” มักจะออกแถลงการณ์ใช้คำว่า “ประชาธิปไตย” โดยไม่มีข้อความต่อท้ายว่า “อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

จนผมและเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ ขอให้ทุกแถลงการณ์ที่ออกมาใช้ข้อความว่า “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ทุกครั้ง สุดท้าย...เพื่อนกลุ่มที่ทำงานกับ “ทักษิณ” ก็กลายเป็นกลุ่มแกนนำที่อยู่เบื้องหลัง “คนเสื้อแดง” ซึ่งยังคงเคลื่อนไหว “ล้มเจ้า” มาจนทุกวันนี้

มิใช่เรื่องแปลกที่ผู้คนจะไม่ไว้ใจ “ธนาธร-ปิยบุตร” ที่เคยร่วมเคลื่อนไหวอยู่กับขบวนการ “คนเสื้อแดง”

เมื่อ “ธนาธร-ปิยบุตร” ประกาศจะทำการเมืองเพื่อชาติและประชาชน ก็ควรพูดและทำเรื่องที่คลุมเครือไม่โปร่งใส-ให้โปร่งใสมิใช่หรือ?

เรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ประชาชนชาวไทยรักและเทิดทูน อีกทั้งพร้อมจะต่อสู้ปกป้องรักษาด้วยชีวิตนั้น “ธนาธร-ปิยะบุตร” อย่าได้อ้ำๆ อึ้งๆ เป็นอันขาด...จริงไหม?

นั่นเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยต้องการรู้ และเป็นสิ่งที่ “ธนาธร-ปิยบุตร” และ “พรรค อนค.” ควรทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัดเจนไปเลยมิใช่หรือ?


กำลังโหลดความคิดเห็น