“พาณิชย์”ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ขายน้ำมันปาล์มดิบให้ กฟผ. พบทุกรายทำตามเงื่อนไข พร้อมชงเพิ่มการใช้ บี 20 และ บี 100 เพิ่มปั๊มเติมบี 20 ให้ได้ 1 พันแห่งภายใน พ.ค.นี้ สนับสนุนเกษตรกรเติมเครื่องจักรกลการเกษตร และเช็กสต๊อกทุกสัปดาห์
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน และคณะเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงความคืบหน้าการรับซื้อผลปาล์มน้ำมันเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ทำสัญญาซื้อขายและส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ
โดยผลการติดตามมาตรการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าตามมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ พบว่าโรงสกัดฯ ที่เป็นคู่สัญญาของ กฟผ. แต่ละรายได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือ รับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรในปริมาณและราคาที่สอดคล้องกับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่แต่ละรายทำสัญญาซื้อขายไว้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม โดยให้เร่งผลักดันการใช้ด้านพลังงานทดแทนภายในประเทศ คือ การเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 และ บี 100 แทนการพึ่งพาตลาดนอกประเทศที่มีข้อจำกัดและอุปสรรคมากกว่า
สำหรับแนวทางการดำเนินการ ได้แก่ 1.ร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงมหาดไทย องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล เพิ่มสถานีบริการน้ำมันขาย บี 20 ในรูปของถังลอย และปั๊มหลอดในพื้นที่ระดับตำบลทั่วประเทศ 2.รณรงค์การใช้ของกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ที่จะใช้น้ำมัน บี 100 กับเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อกระจายน้ำมันให้กับสมาชิกในกลุ่ม 3.เพิ่มปริมาณสถานีบริการน้ำมัน บี 20 โดยมีเป้าหมาย 1,000 สถานี ภายในพ.ค. 2562 นี้ และ 4.ตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์มดิบทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า