xs
xsm
sm
md
lg

ซัด"ธนาธร"ไม่ใช่รายแรกโอนทรัพย์ให้กองทุนบริหาร

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ธนาธร” โวเป็นนักการเมืองรายแรกโอนทรัพย์สินมูลค่า 5 พันล้านบาท เข้ากองทุน Blind Trust ให้บลจ.ภัทร บริหารในพ.ค.นี้ ก่อนจะรับคืนหลังพ้นตำแหน่ง 3 ปี เผย 'สมพร' จ่อเทหุ้น 'มติชน' ทิ้ง เคลียร์ทุกข้อครหาก่อนเข้าสู่อำนาจการเมือง ขณะที่โซเชียลรุมถล่ม ไม่ใช่เรื่องใหม่ นักการเมืองสมัยรัฐบาล‘ชวน-มาร์ค-ยิ่งลักษณ์-บิ๊กตู่’ ทำมาก่อนแล้ว เพื่อกันข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อน

วานนี้ (18 มี.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยถึง การบริหารจัดการทรัพย์สินของตนหลังการเลือกตั้ง ว่า ตนได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัด เป็นผู้บริหารทรัพย์สินของตนเองทั้งหมด ในรูปแบบกองทุน Blind Trust ยกเว้นเฉพาะในส่วนที่ต้องใช้สำหรับชีวิตประจำวัน อาทิ บ้าน รถยนต์ส่วนตัว และจะปลดล็อกการดูแลกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินส่วนนี้หลังจากหมดตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว 3 ปี เท่านั้น

สำหรับรูปแบบกองทุน Blind Trust คือ การโอนทรัพย์ของผู้ที่เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้าไปใน Trust หรือ กองทุน เพื่อให้กองทุนเป็นผู้ดูแล ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้ Blind ด้วยคือ เจ้าของทรัพย์สินจะมองไม่เห็น ซึ่งมีจุดสำคัญคือ ถ้ามองไม่เห็น หุ้นที่ตนโอนไปยังบริษัทจัดการกองทุนที่มีอำนาจการบริหาร เช่น หากบริษัทจัดการกองทุนขายหุ้น abc แล้วไปซื้อหุ้น xyz ถ้าผมเห็น แม้ผมไม่มีอำนาจสั่งการ แต่ก็อาจนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ได้

สำหรับวัตถุประสงค์ของการดำเนินการในครั้งนี้ นายธนาธร กล่าวว่า เพื่อเป็นการลบข้อครหาต่างๆ ที่เข้ามาทำงานการเมืองที่อยากสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับนักธุรกิจที่จะเข้ามาทำงานทางการเมือง คือหนึ่งได้ไม่ต้องว่อกแว่ก ทุ่มเทเวลาไปกับงานการเมืองเพื่อรับใช้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ สองผลักดันงานการเมืองคืออุดมการณ์และความใฝ่ฝันไม่ใช่เพื่อทำให้รวยขึ้น โดยมาตรฐานแรก คือการทำตามกรอบกฎหมายกำหนด ทั้งชั้น ส.ส. หรือ รัฐมนตรีขึ้นไปแต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือยกระดับมาตรฐานความโปร่งใส การดูผลประโยชน์ เป็นความตั้งใจที่จะยกมาตรฐานของคนทำงานด้านธุรกิจและมาทำการเมือง

"ทรัพย์สินที่จะโอนให้บลจ.ภัทร บริหารจัดการนั้น มูลค่าประมาณกว่า 5 พันล้านบาท และคาดจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งการดำเนินแบบนี้ไม่มีนักการเมืองคนไหนทำ นี่จะเป็นครั้งแรกในไทยของนักการเมือง เพื่อแสดงถึงความตั้งใจ อย่างสมัครใจ และขอยืนยันด้วยว่าจะเขียนในสัญญาไว้ว่า นายธนาธรจะไม่ซื้อหุ้นในประเทศไทยทุกตัว แต่หากอยากลงทุนหุ้น จะลงทุนเฉพาะต่างประเทศเท่านั้น" นายธนาธร กล่าว

ส่วนหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จำนวนประมาณเกือบ 20% ในนามของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นั้น นายธนาธร กล่าวว่า จะทำการขายหุ้นบมจ.มติชน ออกมาเร็วๆ นี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและให้สังคมสบายใจ พร้อมยืนยันก่อนหน้านี้ไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับนางสมพร เพียงแต่ได้รับมอบหมายเป็นกรรมการบริษัท โดยไม่เคยแทรกแซงของกองบรรณาธิการ แต่แค่ช่วยผลักดันองค์กรให้เดินหน้าอย่างเต็มที่เท่านั้น ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่สนามการเมืองครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมติชน และไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าไปแทนตน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังของสำนักข่าวอิศรา พบว่า ตั้งแต่ยุครัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นต้นมาจนถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอดีตรัฐมนตรี อย่างน้อย 15 คนที่โอนทรัพย์สินให้กองทุน blind trust เป็นผู้บริหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำการผิดกฎหมาย หรือสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interests) อาทิ รัฐบาลนายชวน หลีกภัย 3 คน นายสาวิตต์ โพธิวิหค อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ขณะที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีจำนวน 6 คน รวมถึงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ อีก 3 คน ล่าสุด รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อีก 3 คน ได้แก่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ 2. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรียุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.บัวหลวง จำกัด ได้แสดงความเห็นว่า ที่นายธนาธรระบุทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก และสมควรชื่นชม แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะนักการเมืองหลายคนเขาก็ทำ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ blind trust หรือ private fund ต่างก็สามารถระบุเจตจำนงในสัญญาบริการได้ทั้งหมด

"เราก็เคยบริหาร private fund ให้อดีตรัฐมนตรีบางท่าน ซึ่งปัจจุบันกำลังลงเลือกตั้งในยุคนี้ สัญญาจัดการ private fund ก็ไม่ต่างจากที่คุณธนาธรระบุ นอกจากนี้ ยังครอบคลุมไปถึงหุ้นบริษัทนอกตลาดอีกด้วย โดยที่ในระหว่างบริหาร private funds เหล่านี้ รัฐมนตรีและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องก็มิได้เข้ามาบงการหรือยุ่งเกี่ยวอะไรเลย"

"คุณธนาธรทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะมีนักการเมืองและรัฐมนตรีหลายคนเขาทำกันอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้ทำในรูปแบบ blind trust แต่เนื้อหามิได้ต่างกันและบางท่านก็ทำเข้มงวดกว่า"

จากข้อมูลเพิ่มเติมทำให้ทราบว่า การที่นายธนาธร โอนทรัพย์สินให้กองทุน Blind Trust จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แก่วงการเมืองไทยแต่อย่างใด เพราะมีนักการเมืองหลายท่านทำมาก่อนหน้าแล้ว เพียงแต่ทำเป็นคนแรกช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ขณะที่นักการเมืองจำนวนไม่น้อยโอนให้บุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว เครือญาติ หรือคนใกล้ชิดที่ไว้วางใจได้ถือครองแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น