xs
xsm
sm
md
lg

อุดมการณ์"มาร์ค"ทำ"เพื่อแม้ว" เดือดปุดบังอาจมาแย่งประชาธิปไตย!?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

**ยังวิจารณ์กันไม่เลิก สำหรับการประกาศอุดมการณ์อหังการ์ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในแบบ "ไม่เกรงใจใคร" นั่นคือไม่เอาทั้ง เพื่อไทย และไม่เอาทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศแบบหล่อๆ เท่ๆ "ไม่เอาทั้งพรรคโกงและการสืบทอดอำนาจ" พร้อมยืนยัน เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากไม่เป็นไปตามนี้ ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน
และยังย้ำอีกว่า นี่คือคำยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่พูดคนเดียว รอให้เลือกตั้งผ่านไปก่อนจะออกเป็นมติพรรคตามที่ว่านั้น
ก็ต้องบอกว่าเรียกเสียงฮือฮาจากคอการเมืองได้ไม่เบา แต่อย่างไรก็ดี ถือว่าคนละเรื่องกับการที่จะถูกมองว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะเสียงฮือฮาที่ว่านั้น ส่วนใหญ่จะวิจารณ์ว่า "อภิสิทธิ์ มีความจำเป็นต้องประกาศความชัดเจนทางการเมืองอย่างที่ยืนยันหรือไม่" โดยอาจมั่นใจว่า จะได้เสียงจากผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเทไปทางไหน ตามผลสำรวจที่ออกมาก่อนหน้านี้ ระบุว่า ยังมีคนประเภทนี้อีกราวกว่าร้อยละ 40 หรือไม่
แน่นอนว่าหากพิจารณาโดยรวมแล้ว การประกาศดังกล่าวของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย่อมกล่าวได้ว่า นั่นคือ "อุดมการณ์และหลักการประชาธิปไตย" ซึ่งเขาอาจคิดว่าต้องการเสียงของ"คนรุ่นใหม่" มาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยก็ได้
อย่างไรก็ดี เมื่อสำรวจปฏิกิริยาหลังจากนั้น กลายเป็นว่ามีแต่ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่แสดงท่าทีโกรธเกรี้ยวออกมาอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น "เจ๊หน่อย" คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ที่ตอบโต้ว่า พรรคเพื่อไทยก็ไม่อยากร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว พร้อมกับดักทางล่วงหน้าว่า ในที่สุดแล้วพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะมีข้ออ้างในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ
** ขณะที่ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ รวมไปถึง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคกลับแสดงท่าทีไม่สนใจ และมองว่า อภิสิทธิ์ ออกตัวเร็วไป และไม่จำเป็นต้องประกาศตัวแบบนี้ก็ได้
ย้อนกลับมาพิจารณาท่าทีอันโกรธเกรี้ยวจากพรรคเพื่อไทย ที่ตอบโต้ออกมาทันควัน ในทางการเมืองถือว่าพออธิบายได้ไม่ยาก เนื่องจากตั้งแต่เข้าสู่โหมดเลือกตั้งพวกเขาก็ได้ประกาศ "ครอบครองฝ่ายประชาธิปไตยเอาไว้แล้ว" ซึ่งก็รวมไปถึงบรรดาพรรคเครือข่าย พรรคแนวร่วม รวมไปถึงพรรค "ตระกูลเพื่อ" ทั้งหลาย เคลมไว้แล้วว่า พวกเขาอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย แน่นอนว่าหวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุน และชื่นชอบจากพวกที่ไม่ชอบทหาร ไม่ชอบการปฏิวัติ รัฐประหาร
ดังนั้น เมื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศอุดมการณ์ประชาธิปไตย และถือจังหวะในช่วงสำคัญ นั่นคือหลังจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถือว่าจับจองเป็นประชาธิปไตย เป็นพวกเดียวกันไปก่อนหน้านี้ และ มีการมองกันว่า เสียงที่เคยสนับสนุนพรรคนี้จะเทไปทางไหน จะย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์ บ้างหรือไม่
อย่างไรก็ดีการทิ้งไพ่ครั้งสำคัญของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือว่ามีความเสี่ยงต่อทั้งอนาคต อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงโอกาสที่จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไดยไม่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับใครนั้น ถือว่าเป็นไปได้น้อยมาก หากพิจารณาจากกระแสในเวลานี้ เพราะสิ่งที่น่าจะต้องลุ้นมากกว่าคือพรรคประชาธิปัตย์จะมี สส.เกินร้อยคนหรือไม่ เพราะหากตำกว่าร้อยนั่นย่อมหมายถึงเขาต้องลาออกตามที่ประกาศเดิมพันเอาไว้
ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากคำประกาศอุดมการณ์ประชาธิปไตยดังกล่าวข้างต้น แน่นอนว่าหากให้ประเมินผลกระทบแล้วน่าจะไปทางพรรคเพื่อไทยในด้านเสียงคนรุ่นใหม่ที่ไม่เอาทหาร มากกว่าทางฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ และในทางตรงกันข้ามการประกาศดังกล่าวอาจทำให้ชาวบ้านที่เคยลังเลเนื่องจากมองว่ามีฐานเสียงทับซ้อนกันได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
** ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่นาทีนี้ฝ่ายที่ออกอาการกราดเกรี้ยวมากกว่าใคร กลับกลายเป็นพรรคเพื่อไทย เพราะน่าจะได้รับผลกระทบด้านคะแนนเสียงที่อาจเบี่ยงเบนไปในช่วงโค้งสดท้าย แต่ขณะเดียวกัน สำหรับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถือว่าเป็นเกมเสี่ยงครั้งสุดท้าย แต่เป้าหมายในใจเฉพาะหน้าก็คือ ลุ้นให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.เข้ามาเกินร้อยเสียก่อน เพราะถ้าต่ำกว่าร้อย ก็อาจเท่ากับว่าต้องจบชีวิตทางการเมืองเลย !!
กำลังโหลดความคิดเห็น