ไม่มีใครรู้ว่า เบื้องหลังความโกรธแค้นระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกับพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือเสธ.แดง ผู้บัญชาการทหารบก เกิดขึ้นจากสาเหตุใด สั่งสมกันไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่า ทั้งคู่กำลังเปิดหน้าซดกันมันหยด ชนิดไม่มีใครยอมถอยให้ใคร
จุดเริ่มต้นการเผชิญหน้าของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคน ปะทุขึ้นกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวในการหาเสียง พาดพิงกองทัพ โดยจะตัดงบกระทรวงกลาโหมลง 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
พล.อ.อภิรัชต์ออกมาตอบโต้คุณหญิงสุดารัตน์ทันที โดยบอกให้นักข่าวฟังเพลง “หนักแผ่นดิน” หลังจากถูกถามถึงประเด็นการตัดงบกระทรวงกลาโหมและยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ขณะที่วิทยุในเครือข่ายเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน” เกือบทั้งวัน
แม้คู่ขัดแย้งจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์กับพล.อ.อภิรัชต์ แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์โดดร่วมวงด้วย โดยแสดงท่าทีถือหางคุณหญิงสุดารัตน์ และตั้งคำถามถึงความร่ำรวยของพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) หลังยึดอำนาจรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
รวมทั้งยังแขวะพล.อ.อภิรัชต์ว่า เป็นเพียงเด็กเมื่อวานซืน
ไม่มีเสียงตอบโต้จากพล.อ.อภิรัชต์
แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่หยุดที่จะพูดถึง ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน โดยวิพากษ์วิจารณ์เครื่องหมายที่ติดอยู่บนเสื้อเครื่องแบบทหาร และอาละวาดแสดงความเกรี้ยวกราดไล่ตะเพิดทหารที่ถูกส่งให้มาดูแลความสงบเรียบร้อย ระหว่างที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์หาเสียงในจังหวัดปราจีนบุรี
พล.อ.อภิรัชต์ไม่ได้ออกมาพูดอะไร แต่ส่งตัวแทนแจ้งความดำเนินคดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในข้อหาดูหมิ่นเหยียดหยาม และดูหมิ่นเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่
การแจ้งความดำเนินคดี ถือเป็นการประกาศศึกอย่างเป็นทางการ ระหว่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกคนปัจจุบัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “คงสมพงษ์” มานานเกือบ 30 ปีเต็มแล้ว ตั้งแต่รุ่นพล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ บิดาของพล.อ.อภิรัชต์
ก่อนที่ รสช.ยึดอำนาจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองปราบปรามยศพล.ต.ต. และเป็นนายตำรวจคู่บารมีของรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแล อสมท และประกาศต่อต้านการปฏิวัติ โดยใช้รถโมบายของ อสมท ติดตามความเคลื่อนไหวต่อต้านการปฏิวัติ
แต่เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 หลังจากที่สหรัฐฯ บุกปลดปล่อยประเทศคูเวตจากการยึดครองของประธานาธิบดีซัดดัมแห่งอิรักในวันก่อนหน้าหรือวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พล.อ.สุนทรก็นำคณะ รสช.ยึดอำนาจ บุกจับพล.อ.ชาติชายบนเครื่องบิน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งประกาศห้าวต่อต้านการปฏิวัติ เมื่อพล.อ.สุนทรปฏิวัติจริง กลับขนครอบครัวหนีออกนอกประเทศ ขอลี้ภัยอยู่ที่เดนมาร์กพักใหญ่ ก่อนจะกลับมากราบคารวะพล.อ.สุนทร และได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง หวนคืนสู่เวทีการเมืองใหม่ แต่พฤติกรรมทางการเมืองยังเหมือนเดิม
ส่วนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกพล.อ.สุนทร เรียกรายงานตัวที่ศูนย์บัญชาการ รสช. สนามเสือป่า
ภาพพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่งเครื่องแบบนายตำรวจ เดินเข้ากลางดงทหารอย่างโดดเดี่ยว บริเวณสนามเสือป่า เพื่อรายงานตัวกับพล.อ.สุนทรยังติดตาหลายคนอยู่
ไม่มีรายงานว่า พล.อ.สุนทรพูดกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ว่าอย่างไรบ้าง แต่หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถูกโยกจากตำแหน่งผู้การกองปราบ
การจ้องจองกฐินพล.อ.อภิรัชต์ อาจเป็นผลพวงจากอดีต หรือผลจากการที่พล.อ.สุนทร เคยเรียกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าไปอบรมเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนก็ได้
และวันนี้ถือเป็นโอกาสที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะระบายความรู้สึกที่ถูกเก็บกดไว้ใส่พล.อ.อภิรัชต์
ศึกระหว่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กับพล.อ.อภิรัชต์ อาจเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และคงจะไม่มีการประนีประนอมกัน ไม่มีการเจรจาหย่าศึก แต่จะชนกันจนพังไปข้างหนึ่ง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่กลัว ส่วนพล.อ.อภิรัชต์ ในฐานะ ผบ.ทบ.ย่อมยอมไม่ได้เหมือนกันที่จะปล่อยให้ใครมาระราน
ศึกคนใหญ่ชนคนโตคู่นี้ จะจบอย่างไร น่าติดตามชมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าศึกเลือกตั้ง 24 มีนาคมนี้เสียอีก