xs
xsm
sm
md
lg

แอร์เอเชียจ้องฮุบนกแอร์ ขอซื้อหุ้นกลุ่มจุฬางกูร55%

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360-สั่นสะเทือนธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ หลังผู้บริหารบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น ออกมารับอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนซื้อหุ้นจากกลุ่มจุฬางกูรกว่า 55% แม้ยังไม่ได้ข้อยุติเป็นลายลักษณ์อักษร ดันราคาหุ้นนกแอร์พุ่งแรงบวกกว่า 12% ปิดที่ 3.10 บาท ส่วนหุ้นแอร์เอเชียบวกขึ้น 2.67% ปิดที่ 4.62 บาท ด้านนกแอร์ปัดยังไม่รับทราบการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ก.พ.) ราคาหุ้นของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขายในช่วงเช้า หลังจากมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรข่าวการเกี่ยวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ที่บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น จะเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นนกแอร์จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่

โดยราคาหุ้น NOK เปิดการซื้อขายที่ 2.96 บาท ก่อนจะขยับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 3.14 บาท ต่ำสุดที่ 2.96 จุด และปิดการซื้อขายที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.32% มูลค่าการซื้อขาย 61.36 ล้านบาท ขณะที่ AAV เปิดการซื้อขายที่ 4.56 บาท สูงสุดที่ 4.66 บาท ต่ำสุดที่ 4.56 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 4.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 2.67% มูลค่าการซื้อขาย 296.14 ล้านบาท

นายสันทัด สงวนดีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทมีความสนใจและอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการลงทุน เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นนกแอร์จากกลุ่มจุฬางกูรทั้งหมดจริง แต่ยังมิได้มีข้อตกลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งยังไม่ได้กระทำการใดที่มีผลผูกพันบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนกแอร์แต่อย่างใด แต่หากมีความคืบหน้าหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

นายประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK แจ้งว่า บริษัทไม่ได้รับข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการเข้าลงทุนดังกล่าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บมจ.สายการบินนกแอร์ ประสบปัญหาด้านผลการดำเนินงาน จนมีหนี้สินสะสม ณ วันที่ 30 ก.ย.2561 มากกว่า 15,125.33 ล้านบาท และขาดทุนสะสม ณ วันที่ 30 ก.ย.2561 มากถึง 1,962.59 ล้านบาท และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ซึ่งถือหุ้น NOK ในสัดส่วน 21.80% ได้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 198.15 ล้านหุ้น แต่ก็ไม่ได้ซื้อ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นหลัง NOK เพิ่มทุนลดลงเหลือ 15.94% โดยการบินไทยชี้แจงเหตุผลของการไม่เพิ่มทุนให้นกแอร์ว่าแผนการดำเนินธุรกิจยังไม่มีความชัดเจนมากพอ อาจส่งผลต่อความเสี่ยงในการจะอนุมัติเพิ่มทุนเข้าไปได้

ขณะที่ตระกูลจุฬางกูร (4 ม.ค.62) ประกอบด้วยนายณัฐพล จุฬางกูร ถือหุ้น 540.06 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.77% นายทวีฉัตร จุฬางกูร 428.55 ล้านบาท หรือ 18.86% และนางหทัยรัตน์ จุฬางกูร 284.00 ล้านหุ้น หรือ 12.50% รวมทั้งสิ้นกว่า 1,216.61 หุ้น หรือคิดเป็น 55.13% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น