วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง ศาลฎีกาตัดสินจำคุกไม่รอลงอาญา แปดเดือน 6 แกนนำพันธมิตร อันมี จำลอง ศรีเมือง อายุ 83, พิภพ ธงไชย อายุ 72, สมศักดิ์โกไศยสุข อายุ 72, สนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70, สมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์ อายุ 68, และ สุริยะใส กตะศิลา อายุ 45 น่าเสียใจแทนครอบครัว-เพื่อนมิตร และ น่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของทั้งหกท่าน แต่ ผมขอคารวะ“วีรบุรุษ” เหล่านั้น ผู้ยอมสูญเสียอิสรภาพในการช่วงชิงมาซึ่ง “ธรรมาธิปไตย”
สุริยะใส กตะศิลา คือกำลังสำคัญและคือ ปาร์ตี้ลิสต์ อันดับที่ 7 ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย คุกขังเขาได้แต่กาย แต่กั้นขวางจิตวิญญาณของเขากับเราไม่ได้ แม้จะสูญเสียสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษในคุก จะเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ให้เราทุกคน เชื่อมั่นว่า “ใส “ จะมีนวัตกรรมรณรงค์ให้พรรคต่อไป นำพรรคไปสู่ชัยชนะ
เวลา 8 เดือนนั้นใช่จะนานนัก พรรครวมพลังประชาชาติไทยจะพยายามจนสุดกำลัง เป็นผู้แทนราษฎรให้ได้มากที่สุด เป็นส่วนสำคัญของรัฐบาลให้จงได้ วันที่ไปรับสุริยะใสออกมาจากเรือนจำนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีของพรรคทุกคนจะต้องไปรับด้วย อย่างแน่นอน
ที่สำคัญกว่านั้น “ใส” ทำให้กระจ่างแล้วว่าพรรคนี้น้อมรับคำพิพากษาของศาลสถิตย์ยุติธรรมโดยสิ้นเชิง ผู้นำพรรคเดินเข้าสู่เรือนจำ ปกป้องหลักนิติธรรมของบ้านเมือง อย่างมั่นคง สังเกตไหมครับ หมู่นี้หลายพรรคจำแลงตนเป็น “ประชาธิปไตย ” ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้นถูกพวกนี้จัดเป็น”เผด็จการ” แต่บ่ายวันนี้ ดูสิครับ ผู้นำรวมพลังประชาชาติไทย และผู้สนับสนุน เช่น ดร สมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์กลับเดินเข้าสู่คุกอย่างสง่างาม เพื่อธำรงซึ่งหลัก”นิติธรรม”อันเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่คุณทักษิณ ชินวัตร กับ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มารับฟังคำพิพากษา หลบหนีออกนอกประเทศ อยู่นอกคุกมานานแล้ว เย้ยหยันต่อหลักนิติธรรมอันเป็นเส้นชีวิตของประชาธิปไตย
แปลกไหมครับ ทั้งสองคนที่กำลังหนีศาลอยู่นั้น เป็นผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และ พรรคไทยรักษาชาติ? ใช่ไหม ใครช่วยตอบที แล้ว พรรคเหล่านั้นจะเป็น”ฝ่ายประชาธิปไตย” ไปได้อย่างไร การเลือกตั้ง 24 มีนานี้พูดอย่างย่นย่อ เป็นการต่อสู้ของฝ่าย “นิติธรรม” กับ ฝ่ายที่เยาะเย้ยหลัก “นิติธรรม” ก็ได้นะครับ